DDM คืออะไร? Data-Driven Marketing คืออะไร?
ในปัจจุบันนะครับ ที่มีข้อมูลข่าวสารมากมายที่เรียกว่า "อินเทอร์เน็ต" เป็นสิ่งหนึ่งที่เราสามารถหาความรู้ ความเข้าใจ และประสบการณ์จากคนอื่นรวมทั้งตัวเราเองก็ได้เช่นกัน นับว่าเป็นธรรมชาติครับ เมื่อเราซื้อขายพูดคุยผ่านแชท หรือไม่ก็สื่อ Social Media ต่าง ๆ
เรามักหลงลืมไปว่า ตนเองนั้นก็ให้ข้อมูลกับผู้ให้บริการอยู่เหมือนกัน ทั้งนี้อาจจะเป็นในเรื่องของพฤติกรรมการซื้อ พฤติกรรมการขาย การพูดคุย คำ keyword ต่าง ๆ จวบจนข้อมูลพื้นฐาน หรือความสนใจของเราเอง
ซึ่งแน่นอนครับว่า Insight พวกนี้เป็นข้อมูลประเภทหนึ่ง ที่สามารถทำให้เราวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย และสร้างประสิทธิภาพในการขาย หรือความสัมพันธ์ได้ดียิ่งขึ้น
DDM หรือ Data-Driven Marketing เป็นการนำข้อมูลไปทำการตลาดออนไลน์ โดยที่ใช้ข้อมูลเหล่านั้นที่เรารวบรวมมาได้เพื่อวางแผนกลยุทธ์ในขั้นต่อไป ให้ยอดขายหรือ Traffic ดีขึ้นกว่าเดิม
ทั้งนี้ทั้งนั้น DDM หรือ Data-Driven Marketing ให้ขยายความมากขึ้นกว่าเดิม จะกล่าวคือ การนำข้อมูลจำนวนหนึ่งที่เก็บได้จากลูกค้า หรือคนทั่วไป นำมาพิจารณา วิเคราะห์ หานัยยะสำคัญ เพื่อนำไปปรับให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ หรือทำการตลาดตรงใจลูกค้ามากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย มัดใจลูกค้า สร้างความสัมพันธ์ที่ดี และมากไปกว่านั้น คือการส่งเสริมสร้างยอดขายให้มากขึ้นด้วย
DDM หรือ Data-Driven Marketing คือ
กุญแจสำคัญในตลาดยุค Marketing 5.0 เพื่อมองให้เห็นว่า ธุรกิจของคุณนั้นจะเติบโตได้ก้าวไกลแค่ไหน หรือจะถูกทิ้งงขวาง อยู่เฉย ๆ ไม่ก็มีคู่แข่งแซงไป ดังนั้น DDM หรือ Data-Driven Marketing จึงมีความสำคัญมากในขณะนี้
DDM หรือ Data-Driven Marketing แบ่งเป็น 7 แนวทางดังนี้
1. Targeted Advertising (กำหนดกลุ่มเป้าหมาย ในการทำโฆษณา)
2. The Customer Decision journey (เข้าใจขั้นตอนการตัดสินใจของลูกค้า)
3. Content and Salability (ออกแบบ Content และการ Sale)
4. Personalized Experience (ให้ประสบการณ์เฉพาะบุคคล)
5. Retargeting (กระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาซื้อใหม่)
6. Optimized paid Search (การนำมาใช้ใน SEO/SEM)
7. Targeted Email Campaigns (จัดแคมเปญตามกลุ่มอัตโนมัติ Email Marketing)
ประโยชน์ของ DDM หรือ Data-Driven Marketing
มีมากมายเลยทีเดียว สำหรับ Data เหล่านี้ ณ ปัจจุบัน อันได้แก่
1. เข้าใจลูกค้ามากขึ้น = Data-Driven Marketing จะช่วยทำให้เรา เข้าใจบุคลิกภาพ ความสนใจ ข้อมูลบุคคล และรายละเอียด Data , Insight ต่าง ๆ รวมไปถึงพฤติกรรม แม้ DDM จะไม่ได้โดดเด่นเหมือน "การตลาด BPM" ก็ตาม แต่สามารถทดแทนการค้นหาข้อมูลเชิงลึกได้
2. สร้างความรอบคอบ = Data-Driven Marketing เมื่อเราวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ มาแล้ว จะทำให้เรามีความแม่นยำในเรื่องต่าง ๆ มากขึ้น ไม่มัวแต่วาดภาพที่ไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าตัวเองกำลังวาดอะไร ทำให้เราไม่จำเป็นต้องมโนเรื่องราวต่าง ๆ สามารถหาข้อมูลที่ชัดเจน จับจุด และนี่คือสิ่งที่น่าสนใจของ DDM หรือ Data-Driven Marketing
3. ลดต้นทุน สร้างผลลัพธ์ พัฒนาประสิทธิภาพ = Data-Driven Marketing เป็นรูปแบบการลดต้นทุน ที่ไม่ต้องมโนเอง และหว่านแหไปทั่ว เพื่อจับกลุ่มลูกค้าของตัวเองเพียงไม่กี่คน ในสมัยก่อนคงทำกันเยอะมาก และเสียงเงินไปจำนวนมหาศาล แต่เดี๋ยวนี้ไม่ เมื่อเราใช้ DDM หรือ Data-Driven Marketing มันจะลดต้นทุน และสร้างผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในทุนที่เราประมาณไว้ให้ต่ำที่สุด
ท้ายที่สุดนี้ DDM หรือ Data-Driven Marketing เป็นเพียงแนวทางในการสร้างยอดขาย โดยใช้ Data ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยเราจำเป็นต้องมี Insight และทักษะการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก จากนั้นเราค่อยย่อยแนวทางทั้งหมดออกมา Strategy ต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับข้อมูล และความสนใจที่เราได้รับมานั่นเองครับผม
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
