26 เม.ย. เวลา 10:35 • ท่องเที่ยว

อารามแอร์ดีน ซู อารามศาสนาพุทธแบบทิเบตที่เก่าแก่ที่สุดในมองโกเลีย

อารามแอร์ดีน ซู เป็นหนึ่งในวัดพุทธที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในประเทศมองโกเลีย โดยตั้งอยู่ในอดีตเมืองหลวงโบราณของจักรวรรดิมองโกลอันเก่าแก่ ซึ่งชื่อว่า เมืองคาราโครัม อันเป็นเมืองที่สร้างโดย โอโกไดข่าน ลูกชายของจักรวรรดิมองโกลผู้ยิ่งใหญ่อย่าง เจงกิส ข่าน เป็นอีกหนึ่งบุคคลที่มีประวัติและผลงานที่ไม่ธรรมดาเพราะเขาค่อนข้างประสบความสำเร็จในการขยายดินแดนเป็นอย่างมาก
หลังจากที่เจงกิส ข่าน ผู้เป็นพ่อเสียชีวิตลงในปี ค.ศ. 1227 จากนั้นโอโกไดข่านจึงได้ทำการพัฒนาเมืองคาราโครัมขึ้นมาให้เป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิมองโกล พอภายหลังจักรวรรดิมองโกลได้ล่มสลายลง เมืองคาราโครัมก็เริ่มถูกทิ้งร้างและทำลายโดยทหารแมนจูเรียน อันเป็นกองกำลังภาคพื้นดินของกองทัพแมนจูกัว ซึ่งเป็นรัฐหุ่นเชิดที่สถาปนาโดยจักรวรรดิญี่ปุ่นในแมนจูเรีย (ทางภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน)
พระภิกษุในพุทธศาสนาแบบทิเบต ในภาพจะเป็นพระในนิกายนิงมะปะ(Nyingmapa) นิยมห่มจีวรสีแดงค่ะ นอกจากนั้นจะมีอีกสองนิกาย คือ อยู่ตามป่า นุ่งขาวหุ่มขาว ส่วนอีกนิกายจะห่มจีวรสีเหลือง
พอเข้าสู่ปี ค.ศ. 1585 มีผู้ปกครองกลุ่มชนมองโกล นามว่า อับไต เซน ข่าน เข้ามายังเมืองแถบนี้และไปพบเข้ากับองค์ทะไลลามะที่ 3 ซึ่งทั้งคู่อาจจะคุยกันถูกคอ อับไต เซน ข่าน จึงถูกองค์ทะไลลามะที่ 3 แต่งตั้งให้เป็นข่านและหลังจากที่ได้พบกันในเวลานั้นเองก็เป็นช่วงที่มีการประกาศให้พระพุทธศาสนาแบบทิเบตเป็นศาสนาประจำชาติประเทศมองโกลเลีย ทาง อับไต เซน ก็มีความศรัทธาที่จะเผยแพร่พระพุทธศาสนาแบบทิเบต จึงสั่งก่อสร้างอารามขึ้นมาเป็นตัวแทนพระพุทธศาสนาในมองโกเลียขึ้นมา ซึ่งอารามนั้นนั้นก็คือ อารามแอร์ดีน ซู ในปัจจุบัน
โดยอารามแห่งนี้ก็ถูกสร้างขึ้นโดยใช้หินและวัสดุจากซากปรักหักพังในเมืองคาราโครัมที่เคยพังทลายมาใช้สร้างเป็นอาราม และได้นำคติการสร้างของพระพุทธศาสนาแบบทิเบตมาใช้ คือ สร้างกำแพงเจดีย์ล้อมรอบอารามจำนวน 108 องค์ ซึ่งจำนวนนี้เป็นตัวเลขศักดิ์สิทธิ์ในพระพุทธศาสนา และเป็นจำนวนของสร้อยลูกประคำศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชาวทิเบตอีกด้วย
ด้านหลังที่เป็นแนวยาว จะเป็นเจดีย์ 108 องค์ ตามจำนวนเลขศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชาวทิเบต
แต่แล้วไม่นานในปี ค.ศ. 1688 อารามก็ถูกทำลายจากสงครามครั้งหนึ่ง ที่เป็นการต่อสู้ระหว่างชนเผ่ามองโกลด้วยกันเอง ในตอนนั้นอารามจึงโดนรื้อถอนเสียหายค่อนข้างหนัก จากนั้นในปี ค.ศ. 1872 ทุกๆ อย่างได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ มีการสร้างอาราม หรือ วัดเพิ่มขึ้นถึง 62 แห่ง และแต่ละแห่งก็เต็มไปด้วยพระภิกษุกว่า 1,000 รูป แต่สุดท้ายอารามเหล่านี้ก็ถูกทำลายซ้ำอีกรอบอยู่ดี
จนในปี ค.ศ. 1937 จอมพลคอร์ลูกิน ชอยบัลซาน ผู้นำคอมมิวนิสต์แห่งมองโกเลียได้ถอดแบบวิธีการกวาดล้างของสตาลินนักคอมมิวนิสต์ตัวพ่อและในตอนนั้นโซเวียตกำลังเข้าปกครองมองโกเลียพร้อมพยายามกวาดล้างพระพุทธศาสนา ทางจอมพลคอร์ลูกิน ชอยบัลซาน จึงต้องการเอาใจทางโซเวียต เลยเริ่มทำตัวเป็นคอมมิวนิสต์ ทำลายวัดวาอารามของบ้านเมืองตนเองพร้อมทั้งจับพระภิกษุหลายองค์ไปขัง ซึ่งเวลานั้นเองที่ทำให้อารามแอร์ดีน ซู ถูกทำลายลงในที่สุด
ในปัจจุบันผู้คนจึงมองว่า อารามแอร์ดีน ซู เป็นสัญลักษณ์ของความอดทนอดกลั้นทางศาสนาที่สามารถยืนหยัดมาได้เป็นเวลานาน ปัจจุบันอารามจึงได้รับการดูแลรักษาให้เป็นสมบัติอันล้ำค่าอย่างหนึ่งของมองโกเลีย และถูกพัฒนาให้กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ที่คอยเปิดให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้ามารับชมความยิ่งใหญ่ของอดีตอารามหลักในอดีตเมืองหลวงของจักรพรรดิมองโกลสุดยิ่งใหญ่ ซึ่งแอดมินต้องขอบอกเลยว่านอกจากที่นี่จะมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามแล้วยังเต็มเปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของชนชาติมองโกเลีย ห้ามพลาดที่จะไปเยือนเลยล่ะ!
ดูภาพพระพุทธรูปในอารามในคอมเมนต์
#TWCTravel #TWCMongolia
#TWCgade
โฆษณา