2 พ.ค. เวลา 09:09 • ข่าว

ชาวกระบี่ ช็อก ป่าต้นน้ำถูกบุกรุกไถเตียนโล่งกว่า 70 ไร่ เจ้าหน้าที่เพิ่งเห็น

ชาวบ้านกระบี่ ช็อก พบ "ป่าต้นน้ำ" ถูกบุกรุกไถเตียนโล่งกว่า 70 ไร่ โซเชียลถล่มยับ เจ้าหน้าที่เพิ่งเห็น ด้าน สส.ก้าวไกล จี้ รมว.ทส.เร่งแก้ปัญหา ตั้งข้อสังเกตปล่อยปละละเลยขนาดนี้ มีอะไรอยู่เบื้องหลังหรือไม่
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.กระบี่ ว่า มีการเผยแพร่เอกสารประชาสัมพันธ์ของ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ เป็นเอกสารแสดงข้อมูลการเข้าตรวจยึดพื้นที่ป่าถูกบุกรุก โดยเอกสารระบุว่า พื้นที่ตรวจยึดดังกล่าวมีจำนวน 2 แปลง รวมเนื้อที่ 77 ไร่ 70 งาน บนเทือกเขาพนมเบญจา หมู่ 4 บ้านห้วยโต้ ต.ทับปริก อ.เมืองกระบี่ เป็นพื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าเขาพนมเบญจา”
6
เจ้าหน้าที่เข้าตรวจยึดเมื่อวันที่ 29-30 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่ไม่พบผู้กระทำความผิด โดยสภาพพื้นที่ตามภาพ จะเห็นว่าพื้นที่ป่าดังกล่าวถูกไถ ตัดโค่นต้นไม้ใหญ่จนโล่งเตียน และยังมีการตัดถนนเข้าไปในพื้นที่ คาดว่าใช้สำหรับลำเลียงไม้ออกมา
หลังมีการเผยแพร่เอกสารดังกล่าวออกสู่สังคมโซเชียลของชาวกระบี่ ชาวบ้านที่เห็นสภาพป่าดังกล่าวถึงกับตกใจ และรับไม่ได้ มีการแสดงความเห็นตั้งคำถามว่า การบุกรุกพื้นที่ป่ามากกว่า 70 ไร่ขนาดนี้ น่าจะใช้เวลาทำกันมานาน แต่เพราะอะไรที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงไม่พบเห็น
4
แต่มาพบและตรวจยึดตอนพื้นที่เตียนโล่งแบบนี้แล้ว บางคนระบุว่า นี่เป็นป่าต้นน้ำของเมืองกระบี่ อาจเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ทุกวันนี้เมืองกระบี่ ประสบปัญหาภัยแล้งหรือไม่ เพราะแหล่งต้นน้ำป่าเขาพนมเบญจา จะไหลลงสู่คลองกระบี่ใหญ่ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำหลักสำหรับชาวบ้านในเมืองกระบี่ใช้อุปโภค บริโภค ปัจจุบันสภาพน้ำแห้งขอดจนเกิดปัญหาภัยแล้ง
ด้านนายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า สภาพป่าเขาที่กระบี่ หลายแห่งถูกบุกรุก แผ้วถาง มากมาย ทั้งที่จุดเกิดเหตุอยู่ใกล้กับ สนง.ป่าไม้ สำนัก 12, ก่อนหน้านี้เกิดปัญหาบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนที่เกาะลันตา, ป่าเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ที่ไฟป่าติดเดือนก่อน พบมีการปักเสาปูนรั้วรวดหนามในเขตอุทยาน แต่เจ้าหน้าที่รัฐยังไม่ไปแจ้งความดำเนินคดีในฐานะผู้เสียหาย เป็นเจ้าพนักงาน และมีเจ้าหน้าที่รัฐฝ่ายปกครองกับเจ้าหน้าที่ที่ดิน ที่ไปแอบออกเอกสารในเขตป่าสงวน ป่าอุทยานอีก
2
เรื่องการกวดขันตรวจป่า ต้องเร่งรีบทำด่วน เพราะกระทบกับสภาวะขาดแคลนน้ำดิบ ที่เอามาทำน้ำประปาทั้งเมืองกระบี่ในปัจจุบัน และอาจสืบเนื่องยาวนานไปอีก จึงขอเรียกร้องให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งข้าราชการประจำที่เป็นมืออาชีพ ต้องแสดงฝีมือจัดการด้วย ไม่ใช่มีแต่ข้ออ้าง และความกลัว
ซึ่งขอตั้งข้อสังเกตว่า การปล่อยปละละเลยขนาดนี้ มีอะไรอยู่เบื้องหลังหรือไม่ ตลอดจนอยากบอกกับ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ว่า เรื่องนี้ต้องประกาศเป็นวาระใหญ่ของจังหวัด และปัดกวาดบ้านเราเสียที ในขณะที่กระบี่ กำลังฉลองเมืองครบรอบ 152 ปี แต่ปัญหายังมีมากมายหมักหมมอยู่.
โฆษณา