[ลงทุนแมน] Standard Oil บริษัทผูกขาดที่สุด ของสหรัฐอเมริกา จากยุครุ่งโรจน์ สู่แตกสลาย บริษัทน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกาและของโลก เมื่อ 100 กว่าปีที่แล้ว บริษัทนั้นคือ “Standard Oil”

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

ลงทุนแมน

ยืนยันแล้ว

•

6 พ.ค. เวลา 11:40 • ธุรกิจ

Standard Oil บริษัทผูกขาดที่สุด ของสหรัฐอเมริกา จากยุครุ่งโรจน์ สู่แตกสลาย

บริษัทน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกาและของโลก เมื่อ 100 กว่าปีที่แล้ว

บริษัทนั้นคือ “Standard Oil”

รู้ไหมว่าในช่วงนั้น Standard Oil ถือเป็นบริษัทที่แทบผูกขาด อุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐอเมริกา ได้อย่างสมบูรณ์

สะท้อนจากที่ครองส่วนแบ่งกว่า 90% ในตลาดน้ำมัน ของสหรัฐอเมริกา

Standard Oil กลายมาเป็นธุรกิจผูกขาดได้อย่างไร

และทำไม บริษัทที่เคยยิ่งใหญ่ขนาดนั้น กลับหายไปจากโลกนี้ ?

ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

จุดเริ่มต้นของ Standard Oil มาจาก “คุณ John D. Rockefeller”

โดยเขาเกิดในปี 1839 ทางตอนเหนือของนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา

พออายุ 16 ปี เขาได้ลาออกจากการเรียน เพื่อมาเริ่มงานเป็นนักบัญชี

หลังจากที่เก็บเกี่ยวประสบการณ์อยู่นานหลายปี

คุณ Rockefeller เล็งเห็นว่า ราคาน้ำมันมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้น จากความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น

เขาจึงร่วมกับหุ้นส่วนทางธุรกิจ ก่อตั้งบริษัท Standard Oil ขึ้นมาในปี 1870

วิธีที่คุณ Rockefeller ใช้สร้าง Standard Oil ให้ยิ่งใหญ่นั้น เขาได้ใช้วิธีนำกำไรจากการทำธุรกิจ ไปกว้านซื้อบริษัทของคู่แข่งแทบจะทั้งหมด

โดยในปี 1872 คุณ Rockefeller ได้กว้านซื้อโรงกลั่นน้ำมันจากคู่แข่ง จำนวนมากถึง 22 แห่ง จากทั้งหมด 26 แห่ง ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้น ถูกขนานนามว่าเป็น “การสังหารหมู่ที่ Cleveland”

ส่งผลให้ Standard Oil แทบผูกขาดธุรกิจน้ำมัน ในบริเวณพื้นที่ Cleveland หลังจากที่ก่อตั้งบริษัทได้เพียง 2 ปีเท่านั้นเอง

แต่คุณ Rockefeller ก็ไม่ได้หยุดแค่นั้น

เขาได้นำ Standard Oil ไล่ซื้อบริษัทคู่แข่งไปจนทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา

นอกจากนี้ Standard Oil ยังได้ต่อยอดไปยังระบบการขนส่งน้ำมัน ทั้งทางท่อและทางรถไฟ

และนั่นก็ยิ่งเป็นการบีบให้คู่แข่ง ที่ต้องพึ่งพาการขนส่งน้ำมันจาก Standard Oil มีค่าใช้จ่ายในการขนส่งน้ำมันสูงขึ้นไปอีก จนทำให้คู่แข่งแทบจะไม่มีกำไร

ซึ่ง Standard Oil ก็ยังได้ไล่ซื้อที่ดิน เพื่อดักทางคู่แข่งไว้อีกด้วย หากคู่แข่งคิดจะสร้างระบบการขนส่งน้ำมันขึ้นมาเอง ก็ต้องอ้อมที่ดินของ Standard Oil ออกไป ทำให้ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นไปอีก..

มากไปกว่านั้น Standard Oil ยังใช้ความได้เปรียบ ที่มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่า จากขนาดธุรกิจที่ใหญ่กว่า (Economies of Scale)

มาทำสงครามราคา โดยหั่นราคาขายให้ถูกกว่าคู่แข่ง บีบให้คู่แข่งต้องลดราคามาสู้ด้วย จนไม่สามารถทำกำไรได้

รวมไปถึง Standard Oil ยังกว้านซื้อน้ำมันดิบมาจนน้ำมันขาดตลาด ทำให้บริษัทเล็ก ๆ เจ้าอื่น ไม่มีน้ำมัน เพื่อที่จะนำมากลั่นและขายได้

และสุดท้าย เมื่อคู่แข่งไปต่อไม่ไหว ก็จำยอมต้องขายกิจการในราคาถูกให้กับ Standard Oil ในที่สุด..

ทำให้ Standard Oil สามารถกุมชะตาอุตสาหกรรมน้ำมัน ของสหรัฐอเมริกาไว้แทบจะทั้งหมด

ถึงแม้สร้างธุรกิจมาด้วยการทำลายคู่แข่งจนย่อยยับ จนกลายเป็นธุรกิจที่แทบผูกขาดอยู่รายเดียว

แต่ก็ต้องบอกว่า Standard Oil ไม่ได้ขึ้นราคา เพื่อเอาเปรียบผู้บริโภค

นอกจากนี้ Standard Oil ก็ยังให้ความสำคัญในเรื่องการวิจัยและพัฒนาด้วย

ยกตัวอย่างเช่น หาวิธีแปลงส่วนที่จะต้องสูญเสียจากการกลั่นน้ำมัน มาทำให้เป็นสินค้าที่มีมูลค่า เพื่อนำไปขายต่อได้ เช่น น้ำมันขัดเงา น้ำมันหล่อลื่น ขี้ผึ้ง

อย่างไรก็ตาม การที่ Standard Oil ก้าวขึ้นมาเป็นผู้กุมชะตาอุตสาหกรรมน้ำมัน ของสหรัฐอเมริกาเอาไว้ ก็สร้างความสั่นคลอนให้กับทางรัฐบาลไม่น้อยเลยทีเดียว

จนในปี 1890 รัฐบาลจึงได้ออกกฎหมาย ต่อต้านการผูกขาดฉบับแรกขึ้นมา ชื่อว่า “The Sherman Antitrust Act” เพื่อจัดการกับ Standard Oil โดยเฉพาะ

ส่งผลให้ในปี 1911 Standard Oil ถูกบังคับให้ต้องแยกบริษัทลูกออกมา 34 แห่ง

ถือเป็นการปิดฉาก Standard Oil ที่ผูกขาดอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐอเมริกา มายาวนานกว่า 19 ปี

โดยปัจจุบัน บริษัทที่แตกตัวออกมาจาก Standard Oil หลายคนก็น่าจะรู้จักกันบ้าง อย่างเช่น ExxonMobil, Chevron และ Marathon

แต่ผลจากการที่ Standard Oil ต้องแตกบริษัทลูกออกมาในครั้งนั้น กลับเป็นผลดีต่อคุณ Rockefeller ที่ทำให้เขากลายมาเป็นหนึ่งในคนที่รวยที่สุดในประวัติศาสตร์โลก

สาเหตุก็เพราะว่า การที่บังคับให้ Standard Oil แตกบริษัทลูกออกมา ก็เปรียบเสมือนการทำ Spin-Off ของหุ้น

ส่งผลให้มูลค่าบริษัทลูก ที่เคยอยู่ในบริษัทแม่ ได้สะท้อนมูลค่าแท้จริง ที่เคยถูกซ่อนไว้

โดยบริษัทต่าง ๆ ที่แตกออกมาจาก Standard Oil ก็มีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

ส่วนคุณ Rockefeller ได้เสียชีวิตลงในปี 1937

โดยความมั่งคั่งที่คุณ Rockefeller ครอบครองเอาไว้ คิดเป็น 1.5% ของ GDP ของประเทศสหรัฐอเมริกาเลยทีเดียว

และถ้าคำนวณปรับเงินเฟ้อในปัจจุบันแล้ว จะพบว่า คุณ Rockefeller มีความมั่งคั่งสุทธิสูงถึง 12.6 ล้านล้านบาท

หรือรวยพอ ๆ กับเอาทรัพย์สินทั้งหมดของคุณ Elon Musk และคุณ Mark Zuckerberg มารวมกัน..

อ่านมาถึงตรงนี้ เราก็พอจะเข้าใจว่า Standard Oil บริษัทที่เคยผูกขาดอุตสาหกรรมน้ำมันของประเทศสหรัฐอเมริกา มีที่มาที่ไปอย่างไร

ซึ่งทุกวันนี้ การทำธุรกิจเพื่อสร้างการผูกขาดแบบที่คุณ Rockefeller ทำนั้น ก็น่าจะเป็นไปได้ยาก

เพราะแต่ละประเทศก็มีกฎหมาย เพื่อต่อต้านการผูกขาด นั่นเอง

ยกเว้นก็แต่ ประเทศที่ไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวได้..

References

-https://www.investopedia.com/insights/history-of-us-monopolies/

-https://www.investopedia.com/articles/economics/08/jd-rockefeller.asp

-https://www.history.com/topics/early-20th-century-us/john-d-rockefeller#:~:text=John%20D.-,Rockefeller%3A%20Standard%20Oil,in%20the%20growing%20oil%20industry.

-https://en.wikipedia.org/wiki/Standard_Oil

-https://en.wikipedia.org/wiki/Big_Oil

-https://thesuccessbug.com/john-d-rockefeller-net-worth/

-หนังสือ The Laws of Human Nature (2018) ของ Robert Greene

โฆษณา

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน

Standard Oil บริษัทผูกขาดที่สุด ของสหรัฐอเมริกา จากยุครุ่งโรจน์ สู่แตกสลาย

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน