6 พ.ค. เวลา 13:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ

Apple, Charlie Munger แผนอนาคต และเงินสด

สรุป 4 ประเด็นใหญ่ๆ จากงานประชุมประจำปี Berkshire Hathaway 2024
เช่นเดิมเหมือนทุกปีกับการประชุมผู้ถือหุ้นของ ‘เบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์’ (Berkshire Hathaway) บริษัทโฮลดิงมูลค่าทางตลาดถึง 31.7 ล้านล้านบาท ที่นำทีมโดยวอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) ซึ่งคราวนี้มีการเผยแพร่ทางออนไลน์ให้ได้ชมกันพร้อมกันทั่วโลกในคืนวันที่ 4 พฤษภาคม 2024 ที่ผ่านมา มีประเด็นน่าสนใจอะไรบ้าง aomMONEY หยิบมาสรุปให้ฟัง
😭 [[ #การหายไปของคู่หูปู่ชาร์ลี ]]
กว่า 60 ปีที่ผ่านมาของการประชุมผู้ถือหุ้นของเบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ เราจะได้เห็นภาพของ ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’ (Warren Buffett) ซีอีโอของบริษัท คอยตอบคำถามกับมือขวาคู่ใจอย่าง ‘ชาร์ลี มังเกอร์’ (Charlie Munger) ที่เสียชีวิตไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาด้วยวัย 99 ปี
ครั้งนี้ปู่วอร์เรนจึงขึ้นตอบคำถามร่วมกับ ‘อาจิต เจน’ (Ajit Jain) ผู้นำด้านธุรกิจประกันภัยขององค์กร ร่วมด้วย ‘เกรก อาเบล’ (Greg Abel) รองประธานฝ่ายธุรกิจที่ไม่ใช่ประกันภัย
ซึ่งก่อนการประชุมมีการเปิดคลิปวิดีโอเพื่อระลึกถึงชาร์ลี มังเกอร์ และตลอดการประชุมบัฟเฟตต์ก็เผลอเรียกอาเบลว่า “ชาร์ลี” เพื่อให้ช่วยตอบคำถามอย่างที่เคยทำมาตลอด เรียกรอยยิ้มให้ผู้ที่เข้าร่วมเป็นระยะ (แต่ก็ทำให้แอบเศร้าอยู่ไม่น้อย)
👍[[ #บัฟเฟตต์มั่นใจ การสืบทอดตำแหน่งเป็นไปได้ด้วยดี]]
สืบเนื่องจากการจากไปของชาร์ลี มังเกอร์ ผู้ถือหุ้นจำนวนมากถามถึงแผนการสืบทอดตำแหน่งซีอีโอของบริษัท
เรื่องนี้เป็นสิ่งที่คนจับตามมอง ผู้ถือหุ้นก็มีคำถามว่าความสำเร็จที่ทั้งคู่สร้างขึ้นมาจะยังไปต่อได้ไหม
วอร์เรนกล่าวด้วยความมั่นใจว่า เกรก อาเบล ที่ก้าวขึ้นมาเป็นรองประธานตั้งแต่ปี 2018 จะสามารถรับบทบาทหน้าที่นี้ได้อย่างไม่สะดุด
“อาเบลเข้าใจธุรกิจเป็นอย่างดี และถ้าคุณเข้าใจธุรกิจ คุณก็จะเข้าใจหุ้นสามัญ” บัฟเฟตต์กล่าวและย้ำว่า คณะกรรมจะช่วยกันตัดสินใจในรายละเอียดเมื่อถึงเวลานั้น
“เราได้แก้ปัญหาเรื่องนี้ไปอย่างน้อยอีก 20 ปี ถ้าไม่มีอะไรที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้น”
โดยรวมแล้วบัฟเฟตต์บอกว่าระบบของ เบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ ตอนนี้ส่วนของประกันก็จะรายงานให้อาจิต ส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับประกันก็รายงานให้อาเบล ทำงานได้เรียบร้อยดีและเขาแทบไม่ต้องจัดการอะไรแล้วเพราะทั้งคู่ดูแลได้เป็นอย่างดี
“ที่นี่ [เบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์] จะทำงานได้อย่างดีมากๆ ในวันถัดไป หากมีอะไรก็ตามเกิดขึ้นกับผม” บัฟเฟตต์กล่าว
🍎 [[ #Apple เงินสด และการจัดการของเบิร์กเชียร์ ]]
การประชุมครั้งนี้ เบิร์กเชียร์ เฮธาเวย์ได้เปิดเผยตัวเลขผลประกอบการไตรมาสแรก ที่ทำกำไรจากการดำเนินการเพิ่มขึ้นกว่า 39% คิดเป็นมูลค่ากว่า 4 แสนล้านบาท (11,200 ล้านดออลาร์) ทำให้บริษัทถือเงินสดสะสมกว่า 7 ล้านล้านบาท (189,000 ล้านดอลลาร์)
โดยวอร์เรนกล่าวว่า เงินสดสะสมของเบิร์กเชียร์เพิ่มขึ้นเพราะมีการขายหุ้น แอปเปิล (Apple) ออก 13% ส่งผลให้มูลค่าหุ้นแอปเปิลที่ถืออยู่ลดลงเหลือประมาณ 5 ล้านล้านบาท (135,400 ล้านดอลลาร์) จากเดิมที่เคยถืออยู่ที่ 6.4 ล้านล้านบาท​ (174,300 ล้านดอลลาร์)
โดยสาเหตุในการขายคือบริษัทประเมินว่ามูลค่าหุ้นนั้นสูงเกินไปรวมถึงความกังวลต่อความขัดแย้งทางด้านภูมิรัฐศาสตร์
แต่วอร์เรน บัฟเฟตต์ก็กล่าวกับ ‘ทิม คุก’ (Tim Cook) ซีอีโอของแอปเปิลที่เข้าร่วมประชุมด้วยว่า ‘ไอโฟนเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และอาจเป็นผลิตภัณฑ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล’ และกล่าวด้วยว่า แอปเปิลนั้น เป็นธุรกิจที่ดีกว่า American Express และ Coca Cola ซึ่งเป็นธุรกิจเก่าแก่และใหญ่ที่สุดของเบิร์กเชียร์ เฮธาเวย์
แต่เมื่อมีคำถามว่า เบิร์กเชียร์จะจัดการอย่างไรกับเงินสดมหาศาลเหล่านี้ วอร์เรนตอบว่า จะยังไม่ดำเนินการอะไร จนกว่าจะเห็นว่า สิ่งที่จะทำนั้นจะสร้างรายได้มหาศาลโดยมีความเสี่ยงน้อยที่สุด
“ผมไม่คิดว่าใครก็ตามที่นั่งตรงนี้จะทราบว่าต้องใช้ยังไงให้มันมีอย่างมีประสิทธิภาพเพราะฉะนั้นเราจึงยังไม่ทำอะไร เราจะเหวี่ยงไม้ตีก็ต่อเมื่อเราคิดว่าใช่”
นอกจากนั้นแล้วส่วนของเงินสดนี้อาจจะเพิ่มขึ้นเป็น 7.3 ล้านล้านบาท (200,000 ล้านดอลลาร์) เมื่อสิ้นสุดไตรมาส 2 ปีนี้
❤️ [[ #หวังว่าปีหน้าเจอกันใหม่ ]]
วอร์เรน บัฟเฟตต์ตอบคำถามอื่นๆ อีกอย่างเช่น การมาของปัญญาประดิษฐ์หรือ AI (Artificial intelligence) ที่อาจส่งผลกระทบต่อเบิร์กเชียร์
“ผมไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับ AI แต่ไม่ได้หมายความว่าผมจะปฏิเสธการมีอยู่หรือความสำคัญของมันอะไรแบบนั้น ปีที่แล้วผมพูดว่าเราปล่อยยักษ์จินนี่ออกมาจากตะเกียง ตอนที่เราพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
และหลังๆ จินนี่นั้นก็ทำเรื่องแย่ๆ และพลังอำนาจของจินนี่นั้นก็ทำให้ผมกลัวมาก แต่อีกด้านหนึ่งผมก็ไม่รู้วิธีเอาจินนี่ใส่กลับเข้าไปในตะเกียงเช่นกัน และ AI ก็คล้ายๆ กันในทำนองนั้น มันได้ออกมาจากตะเกียงแล้วบางส่วน มันสำคัญมากๆ เราอาจจะรู้สึกว่าไม่รู้จักจินนี่ตัวนี้ดีกว่าหรือบางทีมันอาจจะทำเรื่องดีๆ ก็ได้ แน่นอนผมไม่ใช่คนที่สามารถประเมินเรื่องนั้นได้”
เขาให้ความเห็นว่า การหลอกลวงจากการใช้ AI อาจจะเป็นอุตสาหกรรมใหม่ที่เติบโตที่สุดตลอดกาล ในฐานะของคนที่ไม่เข้าใจเรื่องนี้ เขาคิดว่า AI มีศักยภาพมหาศาลในด้านดีแต่ก็มีผลเสียไม่น้อยเช่นกัน ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่ามันจะส่งผลอย่างไร
และหนึ่งในคำกล่าวที่ได้รับเสียงปรบมือมากที่สุดในงานประชุมครั้งนี้ของวอร์เรน บัฟเฟตต์คือ การที่เขาย้ำว่า เบิร์กเชียร์ยังเป็นสถานที่ทำงานที่ดี แม้วันพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับเขา ก่อนจะปิดท้ายว่า
‘ผมหวังว่าคุณจะกลับมาที่นี่ในปีหน้า และหวังว่าผมจะได้กลับมาด้วย’
เรียบเรียงโดย อติพงษ์ ศรนารา
#aomMONEY #ออมมันนี #WarrenBuffett #การเงิน #ประชุมผู้ถือหุ้น #BerkshireHathaway #CharlieMunger #2024
โฆษณา