13 พ.ค. เวลา 05:41 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ตลาดหุ้นจีนบวก ฮ่องกงก็บวก ... จะไปบวกด้วยกันดีมั้ย?

สรุปสถานการณ์
1
HSCEI Index ปรับตัวขึ้นมาแล้ว 34% จากระดับต่ำสุดในช่วงต้นปี ขณะที่ CSI300 Index ปรับขึ้นมาได้ 15% โดยปัจจัยบวกที่สำคัญได้แก่ รัฐบาลมีท่าทีชัดเจนที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ ตัวเลขเศรษฐกิจที่เริ่มดีขึ้น การเข้าซื้อหุ้นของ National A Team และสภาวะ Oversold ที่ทำให้หุ้นถูกเกินไป
2
ตลาดหุ้นจีนเริ่มแพงหรือยัง?
  • แม้ว่าตลาดหุ้นจีนจะฟื้นตัวขึ้นมาแรงจากระดับต่ำสุด แต่ระดับ Valuation ยังอยู่ในระดับที่ถูกอยู่ โดย HSCEI Index ยังต่ำกว่าจุดสูงสุดในปี 2021 อยู่ 45% มี PE ที่ 8.5x เป็นระดับ -0.5 SD ในรอบ 5 ปี ขณะที่ CSI300 Index ยังต่ำกว่าจุดสูงสุด 37% มี PE ที่ 12.3x เป็นระดับ -1.0 SD
Key catalyst ใหม่ที่เกิดขึ้น
  • เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทางการจีนได้ประกาศนโยบายในการพัฒนาตลาดทุนออกมา 9 ข้อ หรือที่เรียกว่า “Nine Measures” ซึ่งมีการ Review ทุก 10 ปี โดยในรอบนี้นโยบายเน้นไปที่การตรวจสอบบริษัทจดทะเบียนเพื่อสร้างความโปร่งใส มุ่งให้ตลาดหุ้น A Share มีคุณภาพที่สูงขึ้น ซึ่งจะทำให้ Valuation ถูก Rerating ขึ้นมาได้ โดยทาง Goldman Sachs ประเมินว่า หากจีนสามารถ Reform ตลาดได้จริง จะทำให้ PE ถูกปรับขึ้นได้ถึง 19%-38%
  • คณะกรรมการกำกับดูแลหลักทรัพย์ของจีนอยู่ระหว่างพิจารณาแผนยกเว้นภาษีเงินปันผล 20% ที่ซื้อผ่าน Stock Connect จากตลาดหุ้นฮ่องกง มีจุดมุ่งหมายเพื่อหลีกเลี่ยงการเก็บภาษีซ้ำซ้อน ซึ่งจะส่งผลเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญต่อปริมาณการซื้อขายหุ้นในตลาดหุ้นฮ่องกง
  • นอกจากนี้ มาตรการฟื้นฟูอุปสงค์ในภาคอสังหาริมทรัพย์เริ่มออกมาอย่างเข้มข้นในสัปดาห์นี้ ล่าสุดมีมาตรการยกเลิกการจำกัดการซื้อที่อยู่อาศัยในเมืองซีอานและเมืองหางโจว รวมไปถึงกลุ่มเมืองระดับ 2 ทั้งหมดก็กำลังจะมีการยกเลิกข้อจำกัดด้านที่อยู่อาศัยเช่นกัน
  • จากข่าวดังกล่าวหนุนให้ตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวเพิ่มขึ้น ดัชนี Hang Seng +2.4% ณ เวลา 13.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย โดยหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลสูงอย่าง Hong Kong Exchanges & Clearing +7%, China Construction Bank +6%, Ping An Insurance +5% ขณะที่ดัชนีหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นวันที่สอง โดยเพิ่มขึ้นมากถึง 9.8% แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม
  • ทั้งนี้ ตลาดหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ ดัชนี CSI 300 เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เนื่องจากนักลงทุน รอติดตามอัตราภาษีใหม่ของสหรัฐฯ ต่อจีนที่จะเปิดเผยในสัปดาห์หน้า
แนวโน้มยังเป็นเชิงบวก
  • ตลาดหุ้นจีนมี Momentum ที่แข็งแกร่ง และยังมีแนวโน้มปรับขึ้นได้ต่อ จากแรงสนับสนุนที่สำคัญ ได้แก่ รัฐบาลมีท่าทีชัดเจนที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเน้นในภาคส่วนสำคัญอย่างภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ได้ยกเลิกมาตรการควบคุมการซื้อบ้าน นอกจากนี้ ยังมีมาตรการสนับสนุนตลาดหุ้น โดยเพิ่มกองทุน ETF ให้ซื้อขายได้เพิ่มเติมผ่านระบบ Stock Connect รวมไปถึงสนับสนุนการจดทะเบียนของบริษัทจีนในตลาดฮ่องกงมากขึ้น และล่าสุดก็มีการพิจารณายกเว้นภาษีเงินปันผลเพื่อเพิ่มปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้น
  • ตัวเลขเศรษฐกิจที่เริ่มดีขึ้น Research House ระดับโลกเริ่มเปลี่ยนคำแนะนำเป็นเชิงบวกมากขึ้น และFund Flow เริ่มไหลกลับเข้าตลาดหุ้นจีน โดย Position ของนักลงทุนต่างชาติยังอยู่ในระดับที่ยังต่ำอยู่มาก และบริษัทจดทะเบียนมีการทำ Share Buyback และจ่ายเงินปันผลสูงสุดเป็นประวัติการณ์
A Share หรือ H Share ?
  • ในระยะสั้น H Share จะยังปรับขึ้นได้มากกว่า เนื่องจากได้รับ Flow ต่างชาติที่กลับเข้ามาซื้อมากกว่า ดัชนียังมี Drawdown มากกว่า A Share และกลุ่ม Internet ยังเป็น Sector หลักเพียง Sector เดียวที่มี Earning Revised Up
  • ในขณะที่ระยะถัดไป A Share จะเริ่ม Catch Up ได้ เนื่องจากดัชนียังฟื้นตัวได้ไม่มากนัก และ Earning ของ Sector อื่นๆ เริ่มฟื้นตัวขึ้นได้ตามภาพเศรษฐกิจที่ดีขึ้น
มุมมองการลงทุน บลจ.กรุงศรี
  • แนะนำให้ผู้ที่สนใจลงทุนในตลาดหุ้นจีน สามารถเข้าลงทุนในกองทุน KFACHINA และ KFCSI300 ได้
  • ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่รับความผันผวนได้มากกว่า แนะนำให้ลงทุน ในกองทุน KFCMEGA
​ที่มาข้อมูล: Bloomberg และ บลจ.กรุงศรี อัปเดต ณ 10 พ.ค. 2567
>> ข้อมูล KFACHINA-A คลิก : https://www.krungsriasset.com/TH/FundDetail.aspx?fund=KFACHINA-A
>> ข้อมูล KFACHINSSF คลิก : https://www.krungsriasset.com/TH/FundDetail.aspx?fund=KFACHINSSF
>> ข้อมูล KFACHINRMF คลิก : https://www.krungsriasset.com/TH/FundDetail.aspx?fund=KFACHINRMF
>> ข้อมูล KFCMEGA-A คลิก : https://www.krungsriasset.com/TH/FundDetail.aspx?fund=KFCMEGA-A
>> ข้อมูล KFCSI300-A คลิก : https://www.krungsriasset.com/TH/FundDetail.aspx?fund=KFCSI300-A
นโยบายการลงทุนและคำเตือน
  • KFACHINA ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ UBS (Lux) Investment SICAV - China A Opportunity (USD) (Class P - acc) (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV
  • KFCSI300 ลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ ChinaAMC CSI 300 Index ETF (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV โดยกองทุนหลักมีนโยบายลงทุนโดยตรงในหลักทรัพย์ที่เป็นองค์ประกอบของดัชนี CSI 300 เพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน ก่อนหักค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนีดังกล่าว
  • KFCMEGA ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตราสารทุนต่างประเทศ และ/หรือกองทุนรวม ETF ต่างประเทศที่มีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียนในประเทศจีน และ/หรือมีธุรกิจหลักหรือมีรายได้ส่วนใหญ่มาจากการประกอบธุรกิจในประเทศจีนที่ได้รับประโยชนจ์ากการเติบโตของเมกะเทรนด์ ได้แก่ การบริโภค เทคโนโลยี สุขภาพ พลังงานทางเลือก และยานพาหนะไฟฟ้าอย่างน้อย 2 กองทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV | กองทุนลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรมจึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก
  • ทุกกองทุนมีระดับความเสี่ยง 6 – เสี่ยงสูง | กองทุนป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยง ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ (สำหรับ KFACHINA และ KFCMEGA ปกติกองทุนจะป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย ≥ 90% ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ)
  • เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ติดตามกองทุนกรุงศรี อัปเดตข่าวสาร และกิจกรรมต่างๆ ได้ที่
#กองทุนกรุงศรี #NewsUpdate
โฆษณา