เปิดโปงวงจรครีม อาหารเสริม ที่เปิดรับตัวแทนจำหน่าย ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ทำไมเจ้าของรวย ตัวแทนตาย ตอนที่ 1
สมัยนี้ใครๆก้ออยากรวย และที่สำคัญต้องรวยง่าย รวยไว ไม่ต้องลงทุนเยอะ การทำครีมและอาหารเสริมเป็นทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งโมเดลที่นิยมทำกันก้อมีหลากหลายรูปแบบ แต่ส่วนใหญ่มักมาจากนายทุนหน้าเดิมๆซึ่งได้ไปฝึกปรือวิชาเหล่านี้มาจากการทำแบรนด์มามากมายจนเข้าขั้นเซียน
ทีนี้มาดูกันดีกว่า ว่าเค้าทำกันยังไง
Model ที่ 1 คือ เปิดตัวสุดเวอร์วัง อลังการ ใช้ดาราหรือบุคคลที่มีชื่อเสียงทางสังคมออกหน้า ว่าเป็นเจ้าของแบรนด์ ตั้งใจทำขายเพราะอยากให้ทุกคนสวยเหมือนตัวเอง ทั้งๆที่ความจริงแล้ว คนเหล่านี้ถูกจ้างเพื่อมาเป็นอวตารแทนเจ้าของตัวจริง เพราะต้องการใช้ชื่อเสียง และแฟนคลับของดาราเหล่านั้นเพื่อสร้างกระแส ให้เกิดความเชื่อมั่น เพื่อใช้ในการชักจูงคนเพื่อให้มาซื้อสินค้า โดยที่สินค้าเหล่านี้จะไม่ผลิตก่อนขาย หรือผลิตเอาไว้แต่ไม่มากเพื่อปล่อยให้ของขาด เพื่อสร้างภาพว่าขายดี แลโปรโมทว่า สินค้าที่ผลิตลอตแรกขายหมดแล้ว เพราะของคุณภาพดี จึงทำขายดีมาก พอคนเห็นก้อจะแห่กันมาสมัครตัวแทน วางเงินเพื่อจองสินค้าลอตสอง ซึ่งพอคนเห็นว่าขายดีและสินค้าต้องแย่งกะตัวแทนจำหน่ายรายอื่น แถมสินค้ายังมีจำกัด ตัวแทนจำหน่ายแต่ละคนก็จะยิ่งทุ่มเงินจอง เพื่อให้ได้ของมาสต๊อคเยอะๆ เพราะกลัวของขาด แถมสต็อคเยอะ ราคายิ่งถูก รางวัลล่อใจยิ่งมาก ประกอบกับกระแสแรง โปรโมทหนัก ตัวแทนจำหน่ายเลยตกเป็นเหยื่อได้ง่ายๆแบบไม่รู้ตัว เพราะหวังผลตอบแทนก้อนโตที่รออยู่ข้างหน้า
ตรงนี้แหละที่ทางเจ้าของจะเอาเงินที่ทางตัวแทนจำหน่ายจ่ายมาไปสั่งผลิตของจริงๆ แต่เมื่อยอดจองมันเยอะถล่มทลาย แน่นอน กำลังการผลิตไม่เพียงพอ เมื่อถึงเวลาใช้ส่งมอบของ จะเป็นการทยอยส่งสินค้าให้เพียงบางส่วน เช่น นส เอ จอง 100 กล่อง โดยทางแบรนด์สัญญาว่าจะส่งมอบให้ทีเดียว 100 กล่องภายใน 14 วัน แต่เมื่อถึงเวลา ของผลิตไม่ทัน แต่ทุกคนจ่ายตังแล้วอยากได้ของ จึงเกิดวิธีการ คือ ให้นส เอที่จองไว้ 100 กล่องไปแค่ 10 กล่องก่อน ที่เหลืออีก 90 กล่อง ก็กระจายให้แต่ละคนที่จองมา เพื่อลดแรงกดดัรที่จะเกิดขึ้นหากไม่มีการส่งมอบของเลย
ทีนี้พอเวลาผ่านไปสินค้าก้อจะถูกผลิตๆๆออกมาแบบเต็มสูบ และสามารถกระจายให้ตัวแทนจำหน่ายแต่ละคนได้ แต่อย่าลืมว่ากว่าจะผลิตได้ครบตามยอดสั่งจองที่มากมายมหาศาลขนาดนั้น ไม่ได้ใช้เวลาแค่ไม่กี่วัน แต่มันกินเวลาหลายเดือนอยู่ เลยกว่าตัวแทนจำหน่ายจำหน่ายจะได้ของครบ เวลาอาจล่วงเลยไปถึง 4-6 เดือน และต้องไม่ลืมว่า ก่อนหน้านี้มีการผลิตสินค้าและแจกจ่ายให้ตัวแทนจำหน่ายที่จองไว้คนละนิดละหน่อย ตอนนั้นสินค้ายังขายได้เพราะมีของน้อย คนก้ออยากลอง ถ้าลองแล้วดี โอกาสเกิดมาก แต่ถ้าไม่ดี ก็ดับ เมื่อผลิตสินค้าได้ครบตามจำนวนออเดอร์ที่สั่งมาเรียบร้อย ตัวแทนจำหน่ายก็จะได้รับสินค้าที่สั่งจองไว้จากแบรนด์
ฟังดุเหมือนจะดี แต่อย่าลืมว่า ไม่ใช่เราคนเดียวที่สั่งจองสินค้าเอาไว้ ดังนั้นเมื่อสินค้าผลิตเสร็จตัวแทนจำหน่ายทุกคน ก็จะได้รับลอตที่ตัวเองสั่งไปอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งในจุดนี้เองที่เป็นหายนะของตัวแทนจำหน่าย
คุณลองนึกภาพนะ คุณไปเดินห้างสรรพสินค้า แล้วเจอสินค้าตัวเดียวกันทุกร้าน ในขณะที่กระแสความนิยมนั้นผ่านมาแล้วถึง 3- 6 เดือน คนขายมาก คนซื้อน้อย สินค้าล้นตลาด และถ้ายิ่งสินค้าคุณภาพไม่ได้ดี หรือโดดเด่น ของปล่อยไม่ออก ตัวแทนจำหน่ายเงินจม ในขณะที่เจ้าของรับเงินไปแล้วเต็มๆ ไม่ต้องเสี่ยงแต่อย่างใด รับไปเน้นๆ โดยไม่สนใจว่าตัวแทนจำหน่ายจะขายได้ไหม เพราะเจ้าของโกยไปแล้วแบบเต็มๆ
พอของขายไม่ออก ตัวแทนจำหน่ายก็เลยนำของไปขายขาดทุน หวังใจว่าอย่างน้อยก็ได้เงินกลับมาบ้างก็ยังดี แต่แล้วเจ้าของแบรนด์ก็จะประกาศก้องโลกว่า ของปลอมบ้าง คนพวกนั้นโกงบ้างอย่าไปซื้อ หากกินแล้วเป็นอะไรแบรนด์ไม่รับผิดชอบ ให้มาซื้อกับแบรนด์ตรง มั่นใจกว่า แหม่ เหมือนว่าถ้ากินแล้วเป็นอะไร หล่อนจะรับผิดชอบงั้นเหอะ ฝันสิ 🌸🌸🌸
แล้วแบบนี้เจ้าของจะไม่รวยยังไงไหว เมื่อผลประโยชน์มันล่อใจซะขนาดนี้ จึงไม่แปลกที่เหล่าคนดังหันมาขายครีมกันเป็นอาชีพ
ไว้ตอนหน้าจะมาเล่าให้ฟังถึง model ที่ 2 ต่อไป
ด้วยรักและห่วงใย จากใจซ้อเอง ❤️❤️❤️
ปุกาศ จากนี้ไปอาจมิได้มาเขียนใน blockdit แล้วน้า
Blockdit : ซ้อขอเล่า
- 156
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
