27 พ.ค. 2019 เวลา 15:25 • ประวัติศาสตร์
การล้างมือ จุดเปลี่ยนสำคัญของการเเพทย์!!
การล้างมือ ในสังคมปัจจุบันถือเป็นเรื่อง ความสะอาดพื้นฐาน ที่ทุกคนรับรู้ เเละถูกสั่งสอนตั้งเเต่เด็กในการรักษา ความสะอาด จนผู้คนในปัจจุบันอาจจะคิดว่าการล้างมือเป็นเรื่องที่ ทุกคนต้องปฎิบัติกันตั้งเเต่สมัยโบราณ
1
เเต่ เมื่อ ราว 180 ปี ก่อน ประมาณ ปี คศ 1840 เเพทย์ที่โรงพยาบาลชั้นนำของยุโรป อย่างโรงพยาบาล ในกรุง เวียนนายัง ผ่าศพหรือ ทำคลอด ทารก ด้วยมือเปล่า เเละยังไม่มีการล้างมือ เพียงเเค่ มีผ้าไว้สำหรับเช็ดมือเล็กน้อยเท่านั้น !!!
เพราะ ในสมัยนั้นยังไม่มี องค์ความรู้ที่ชื่อทฤษฎีเชื้อโรค จนได้มีหมอท่านนึงได้จุดประกายเรื่องนี้
หมอท่านนั้นชื่อ อิกนาซ เซมเมลไวส์ (Ignaz Semmelweis) ผู้เป็นสูติเเพทย์ โรงพยาบาล เวียนนา
https://en.m.wikipedia.org/wiki/Ignaz_Semmelweis
ซึ่งในสมัยนั้น รพ เวียนนา มีหอผู้ป่วย สูติ อยู่ สองหอ โดยที่ ผู้ป่วยในหอผู้ป่วยที่ หนึ่งมีอัตราการตาย จากโรคจากโรคไข้หลัง
คลอดถึง ราวๆ 10 เปอเซ็น ส่วนผู้ป่วยในหอผู้ป่วยที่สอง มีอัตราการตายจากไข้หลังคลอดน้อยกว่า 4 เปอร์เซ็นต์
https://en.m.wikipedia.org/wiki/Ignaz_Semmelweis
ในสมัยนั้นเเม่ ที่ตั้งครรถ์จะ พยายามทำทุกทางเพื่อให้ได้คลอดที่หอ ผู้ป่วยที่สอง เนื่องจากมีความเชื่อต่างๆว่ามีสิ่งเร้นรับในหอผู้ป่วยที่หนึ่งที่จะคอยพรากชีวิตลูกๆของเธอไป
เเล้วอะไรหล่ะคือ สาเหตุ?? เเพทย์ในสมัยนั้นตั้งข้อสันนิษฐานมากมาย ทั้งจากอากาศ , เชื้ออสุจิ, เทคนิคทำคลอด เเต่ก็ไม่ได้ข้อสรุปชัดเจน โดนที่ ทั้งสองหอผู้ป่วย อากาศก็ถ่ายเทคล้ายๆกัน เทคนิคการทำคลอดอุปกรณ์ทำคลอดก็คล้ายๆ กัน เเต่ที่เเตกต่าง คือ หอผู้ป่วยที่หนึ่งทำคลอดโดย เเพทย์เเละนักศึกษา เเพทย์ ส่วนหอผู้ป่วยที่สอง ทำคลอดโดย พยาบาล พดุงครรภ์
จุดเปลี่ยน ของ เรื่องนี้ เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1847 หมอ เซมเวลไวส์ ได้ทำการผ่าศพ เพื่อนหมอที่ตาย หลังจาก โดนมีดผ่าศพที่ผ่าศพ หญิงที่ตายจาก โรคไข้หลังคลอด บาด หลังจากการ ชันสูตร หมอเซมเวลไวส์ก็ได้ พบว่า ในพนังช่องท้อง ของเพื่อน เต็มไปด้วยหนองเเละมีลักษณะคล้ายกับศพของผู้หญิงที่ตายด้วยโรคไข้หลังคลอด ซึ่งเป็นเรื่องประหลาด ที่ เพื่อนหมอเซมเวลไวส์ซึ่ง เป็นผู้ชาย จะมีลักษณะโรค ที่คล้ายกับ โรคไข้หลังคลอด เเต่ มีจุดเชื่อม อย่างนึง คือ เพื่อนของหมอเซมเวลไวส์ ได้ถูกมีดผ่าศพหญิงที่ตายจาก โรคไข้หลังคลอดบาด เเละมีบางสิ่งได้ เเพร่เข้ามาสู่ตัวของเพื่อนหมอเซมเวลไวส์
ซึ่งก็สอดคล้อง กับเรื่องหอผู้ป่วย เพราะหอผู้ป่วยที่หนึ่ง ที่ทำคลอดโดยเเพทย์ ที่ต้องทำหน้าที่ผ่าศพเเละทำคลอดโดยไม่มีการทำความสะอาด ย่อมทำให้มีโอกาศเเพร่กระจายโรคได้มากกว่าหอ ผู้ป่วยที่สองที่ทำคลอด โดยพยาบาลที่ไม่ต้อง ผ่าชันสูตร
จากข้อสรุปนี้ หลังจากนั้น หมอเเซมเวลไวส์
ได้คิดค้น วิธีการทำคลอดใหม่โดยให้ทุกคนที่ทำคลอด ต้องล้างมือ ก่อนทำคลอดโดยนำ้ยา คลอรีน อย่างเคร่งครัดซึ่งต่อมาทำให้เปอร์เซ็นการตายของผู้ที่มาคลอดในหอผู้ป่วยที่หนึ่งลดลงจนมีบางช่วงน้อยกว่า 1 เปอร์เซ็น
https://en.m.wikipedia.org/wiki/Ignaz_Semmelweis
ซึ่งนับว่า เป็นครั้งเเรกที่ มีคนกล่าวถึงการล้างมือ มาใช้ทางการเเพทย์อย่างจริงจัง
ซึ่ง หมอเเซมเวลไวส์ ควรจะได้รับการยกย่อง จากสังคมเเพทย์ ว่าเป็น คนคิดค้นช่วยชีวิต ผู้คนได้จำนวนมากใช่ไหมครับ
เเต่ในความเป็นจริง หลังจากนั้น ได้มีการถกเถียงกันอย่างมากในหมู่เเพทย์ ซึ่งหมอเเซมเวลไวส์ก็หา เหตุผลไม่ได้ว่า การลดลง ของการตายของผู้ป่วยจากการล้างมือเกิดจากอะไร เเละ ตัวหมอเเซมเวลไวส์ก็เป็นคนดุดัน ไม่เคารพหมอท่านอื่นเเละเขียนจดหมายว่าร้ายหมอที่ไม่เชื่อวิธีการของตัวเองว่าคนนั้นเป็นฆาตรกร ที่โง่เง่า จนสุดท้าย หมอเซมเวลไวส์ก็ถูกไล่ออกจากงาน เเละมีอาการทางประสาท เเละต้องเข้า รพ ของผู้ที่มีอาการทางจิต จนเสียชีวิตในเวลา ต่อมา
ซึ่ง เป็นที่หน้าเสียดาย ว่าหลังจากหมอเเซมเวลไวส์เสียชีวิต ไม่นานก็ได้มีการค้นพบ ทฤษฎีเชื้อโรค เเละอธิบาย เรื่องการล้างมือในการลดอัตราการตาย ของโรคไข้หลังคลอดได้
สุดท้ายนี้ผู้เขียนก็อยากให้ทุกคนอย่าลืมล้างมือกันบ่อยๆเพื่อความสะอาดเเละลดการเเพร่ของเชื้อโรคนะครับ
โฆษณา