17 มิ.ย. 2019 เวลา 03:35 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
2020 ภาระกิจสำรวจดวงอาทิตย์ ของ "อินเดีย"
หนึ่งในประเทศที่เอาจริงเอาจังด้านอวกาศ คือประเทศอินเดีย ล่าสุดเตรียมสำรวจดวงอาทิตย์ในปีหน้า มาดูรายละเอียดกัน
นิวเดลี อินเดีย ทางองค์การวิจัยอวกาศอินเดีย หรือ Indian Space Research Organisation, (ISRO)
ได้เปิดเผยข้อมูลกับสื่อว่า อินเดียกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการปฏิบัติภารกิจทางอวกาศครั้งสำคัญในเร็วๆนี้ เพื่อทำการสำรวจดวงอาทิตย์เป็นครั้งแรก โดยใช้ยาน“อาดิตยา-แอล 1” (Aditya-L1) โดยการสำรวจจะเริ่มขึ้นในปี 2020 หรือปีหน้านี้เอง
📌 ประวัติย่อของยานสำรวจ
ยานสำรวจ Aditya-L1 เป็นยานอวกาศที่มีภารกิจคือเพื่อศึกษาดวงอาทิตย์ โดยแนวความคิดโดยคณะกรรมการที่ปรึกษาเพื่อการวิจัยอวกาศในเดือนมกราคม 2008 มันได้รับการออกแบบและถูกสร้างขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างองค์กรวิจัยอวกาศของอินเดีย (ISRO) และสถาบันวิจัยอินเดียต่าง ๆ ด้วยงบประมาณราว 55 ล้านยูเอสดอลลาร์และคาดว่า จะเปิดตัวในครึ่งแรกของปี 2020
Aditya-L1 จะให้การสังเกตการณ์โฟโตสเฟียร์ของดวงอาทิตย์ , โครโนสเฟียร์ (UV) ,ลมสุริยะและโคโรนา รวมถึงภาระกิจอื่นๆที่เกี่ยวกับการตรวจจับกิจกรรมของดวงอาทิตย์
ยานสำรวจ Aditya L1 ภาพ ISRO
ความร่วมมือ
โครงการนี้มีค่าใช้จ่ายเบื้องต้นประมาณ 400 ล้านรูปีและเป็นการร่วมทุนระหว่าง ISRO และ
- นักฟิสิกส์จากสถาบันฟิสิกส์ดาราศาสตร์แห่งอินเดียเบงกาลูรู (Indian Institute of Astrophysics, Bengaluru)
- ศูนย์มหาวิทยาลัยดาราศาสตร์และฟิสิกส์ดาราศาสตร์ปูเน (Inter University Centre for Astronomy and Astrophysics, Pune)
- สถาบันวิจัยพื้นฐานทาทา (Tata Institute of Fundamental Research)
และสถาบันอื่น ๆ
เป้าหมายของภารกิจนี้คือการเฝ้าสังเกตการณ์ดวงอาทิตย์อย่างต่อเนื่อง โดยยานอาดิตยา-แอล 1 จะปฏิบัติการอยู่ในโคโรนา ซึ่งเป็นบรรยากาศชั้นนอกสุดของดวงอาทิตย์"
Aditya - L1 จะถูกแทรกในวงโคจรรอบรัศมีจุดลากรองจ์ 1 (L1) ซึ่งอยู่ห่างจากโลก 1.5 ล้านกิโลเมตร
📖 จุดลากรองจ์คืออะไร
จุดลากรองจ์ (Lagrangian points)
เป็นสถานที่ในอวกาศที่แรงดึงดูดของแรงดึงรวมกันของมวลขนาดใหญ่สองตัวทำให้เกิดความสมดุลซึ่งกันและกัน มวลขนาดเล็กที่วาง ณ ตำแหน่งนั้นจะยังคงอยู่ในระยะห่างคงที่เมื่อเทียบกับมวลขนาดใหญ่
ณ.จุดนี้จึงเป็นจุดที่แรงดึงดูดโดยดวงอาทิตย์และโลกจะเท่ากัน หากวางดาวเทียมไว้ที่ตำแหน่งนี้ มันจะไม่ได้รับการเบี่ยงเบน และข้อมูลที่ถ่ายจะถูกต้อง
จุดลากรองจ์ https://iasshiksha.blog/2016/05/29/launching-aditya-l1-satellite-for-solar-study-underway-isro-chairman/
ยาน Aditya L-1 มีภาระกิจใดบ้าง
นี่คือรายการที่สมบูรณ์ของอุปกรณ์และวัตถุประสงค์ทางวิทยาศาสตร์:
- Visel Emission Line Coronagraph (VELC):
เพื่อศึกษาพารามิเตอร์การวินิจฉัยของแสงอาทิตย์โคโรนาและพลศาสตร์และต้นกำเนิดของการปลดปล่อยมวลโคโรนา (3 ช่องมองเห็นและ 1 ช่องอินฟราเรด) การวัดสนามแม่เหล็กของโคโรนาแสงอาทิตย์ลงไปที่ Gauss
💬 * Gauss คือ การวัดแรงดูดของแม่เหล็ก
* Coronagraph คือ อุปกรณ์ที่ติดตั้งมาเพื่อป้องกันแสงโดยตรงจากดาวฤกษ์ ซึ่งอุปกรณ์นี้ในยานมีวัตถุประสงค์เพื่อดู Corona ของดวงอาทิตย์
- กล้องโทรทรรศน์สุริยภาพรังสีอัลตราไวโอเลต
Solar Ultraviolet Imaging Telescope
: เพื่อถ่ายภาพปริภูมิแสงอาทิตย์ที่ได้รับการแก้ไขเชิงพื้นที่และ Chromosphere ในบริเวณใกล้กับรังสีอัลตราไวโอเลต (200-400 นาโนเมตร) และวัดการแปรผันของรังสีแสงอาทิตย์
- Aditya Solar wind Particle Experiment (ASPEX): เพื่อศึกษาการแปรผันของคุณสมบัติของลมสุริยะรวมถึงลักษณะการกระจายและสเปกตรัม
- ชุดเครื่องมือวิเคราะห์พลาสมาสำหรับ Aditya
Plasma Analyser Package for Aditya
(PAPA): เพื่อทำความเข้าใจองค์ประกอบของลมสุริยะและการกระจายพลังงานโซลาร์ X-ray
- สเปกโตรมิเตอร์พลังงานแสงอาทิตย์ต่ำ
Solar Low Energy X-ray Spectrometer (SoLEXS)(SoLEXS)
: เพื่อตรวจสอบเปลวไฟ X-ray เพื่อศึกษากลไกการทำความร้อนของโซล่าร์โคโรนา
- High Energy L1 Orbiting X-ray Spectrometer (HEL1OS):
: เพื่อสังเกตเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบไดนามิกในโซลาร์โคโรนาและให้การประมาณค่าพลังงานที่ใช้ในการเร่งอนุภาคในช่วงเหตุการณ์ระเบิด
- Magnetometer : เพื่อวัดขนาดและธรรมชาติของสนามแม่เหล็ก
จุดติดตั้งอุปกรณ์บน Aditya L1ภาพ https://iasshiksha.blog
นอกจากนั้นองค์การวิจัยอวกาศอินเดียกำลังวางแผนการก่อสร้างสถานีอวกาศของอินเดียภายในปี 2030 ด้วย
ส่วนภาระกิจอื่นๆทางอวกาศในแผนงานขององค์การวิจัยอวกาศอินเดีย คือ
- การสำรวจดวงจันทร์ครั้งที่ 2 โดย “จันทรายาน-2” (Chandrayaan-2) ซึ่งจะทะยานสู่อวกาศในวันที่ 15 ก.ค. นี้
- การก่อสร้างสถานีอวกาศภายในปี 2030 หรืออีกสิบปีข้างหน้า
เรียบเรียงโดย
สาระอัปเดต
17.06.2019

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา