27 ก.ค. 2019 เวลา 15:32 • ความคิดเห็น
ร้อนเข้าไปอีกโลก!! หมอกควันจากไฟป่าครั้งประวัติการณ์ในไซบีเรีย สามารถมองเห็นได้จากนอกโลก 😥
บริเวณกลางภาพไม่ใช่เมฆนะครับ แต่เป็นควันไฟป่า, Cr: Joshua Stevens/NASA Earth Observatory
นับตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ได้มีไฟป่าเกิดขึ้นมากกว่า 100 จุดในบริเวณ Arctic Circle
วงกลม Arctic Circle, Cr: Wikipedia
ซึ่งถือว่าสูงเป็นประวัติการณ์ สร้างความกังวลให้กับเหล่านักวิทยาศาสตร์ถึงสถานการณ์โลกร้อน
จากการที่พื้นที่บริเวณอาร์กติกอุ่นขึ้นเร็วกว่าเดิมเป็นเท่าตัว ช่วยให้เกิดการแพร่กระจายของไฟป่าครั้งประวัติการนี้ โดยสาเหตุของไฟป่าสันนิษฐานว่าเกิดจากฟ้าผ่า
ทั้งนี้ไฟป่าไม่ได้เกิดขึ้นที่ไซบีเรียที่เดียว ยังเกิดที่กรีนแลนด์และบางส่วนของอลาสก้าด้วย
หมอกควันไฟป่าจาก อลาสก้า ลอยข้ามไปยังบางส่วนของแคนาดา
ซึ่งก่อนหน้านี้อลาสก้าก็เพิ่งเจอกับคลื่นความร้อนถล่มจนทำลายสถิติอุณหภูมิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ไปแล้ว
อลาสก้า เพิ่งทำลายสถิติอุณหภูมิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
ทั้งนี้จากการคาดการณ์ของ The Copernicus Atmosphere Monitoring Service (CAMS) เหตุไฟป่าครั้งนี้ได้ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่บรรยากาศไปแล้วกว่า 100 ล้านตัน
และจากข้อมูลเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ไฟป่ากินพื้นที่รวมมากกว่า 1,400 ตารางกิโลเมตรในพื้นที่ของไซบีเรีย ทั้งนี้การตอบสนองต่อเหตุการณ์ไฟป่าครั้งนี้มีเพียงเล็กน้อยเนื่องจากอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ความหวังในการดับไฟป่าคงต้องอาศัยฝนตามธรรมชาติเท่านั้น
นักวิทยาศาสตร์ยังพบว่าการลามของไฟป่ามีแนวเลื่อนตัวขึ้นไปทางตอนเหนือเร็วผิดปกติ คาดว่าไฟป่าได้เข้าลามไปในบริเวณที่มีถ่านพีต ผสมอยู่ในดิน (peat soil) ซึ่งจะทำให้เกิดการลุกไหม้ต่อเนื่องยาวนานได้อีกเป็นเดือน
การไหม้ของถ่านพีตในดินนี้จะปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากแหล่งกักเก็บตามธรรมชาติ อันจะเป็นตัวเร่งสภาวะโลกร้อนที่เป็นอยู่ให้เลวร้ายลงอย่างรวดเร็วกว่าที่เคยประเมินไว้
เห็นข่าวแล้วก็เครียดครับ แค่น้ำมือมนุษย์ก็จะแย่กันแล้ว นี่เหมือนโดนธรรมชาติลงโทษซ้ำอีก ก็ไม่รู้ว่าที่ยังถกเถียงกันว่าโลกร้อนเกิดจากจากฝีมือมนุษย์หรือเป็นแค่วัฏจักรปกติของโลกไม่มีอะไรน่าตกใจ อันไหนจะจริง? แต่บางทีกว่าจะรู้ได้ก็อาจจะสายเกินไปเสียแล้ว 😔

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

    โฆษณา