3 พ.ย. 2019 เวลา 12:00 • ธุรกิจ
Risk : Reward สำคัญแค่ไหน
cr.pixabay
"เราเป็นหนึ่งในผู้ชนะ ที่สามารถเกิดเป็นมนุษย์"
กว่าเราเกิดเป็นมนุษย์เราต้องต่อสู้กับผู้ร่วมชะตากรรม และเราเป็นผู้เดียวที่รอดชีวิตมาได้
ทุกๆชีวิตล้วนมีความเสี่ยงเสมอ แต่ก็พร้อมด้วยผลตอบแทนที่หอมหวานเช่นกัน
ในโลกนี้มี 2 ด้านเสมอ เหมือนเป็นของคู่ขนาน ที่ทำให้เราต้องประเมินสถานการณ์ตลอดเวลา
เช่น กลางวัน กลางคืน ความดี ความเลว สูง ต่ำ ดำ ขาว รวย จน ล้วนเป็นคู่ขนานกัน แม้กระทั้ง
"ผลตอบแทนและความเสี่ยง"
twintrade จะมาเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง เพื่อแนวทางในการเทรด การลงทุน ที่สามารถนำไปปรับใช้ในโลกที่เรียกว่า " การลงทุน"
มนุษย์เรานั้นมีวิวัฒนาการในด้านการลงทุน ตั้งแต่ค้าขายด้วยการแลกเปลี่ยนสิ่งของกัน
เมื่อไม่สะดวกในการแลกเปลี่ยนที่มีความยุ่งยากก็เริ่มเป็นระบบเงินตราที่ง่ายต่อการเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยน เราก็ใช้ระบบเงินตรามาหลายศตวรรษ
จนกระทั้งการมาของเทคโนโลยีในช่วงทศวรรษนี้เองที่ เริ่มปรับเปลี่ยนเป็นสกุลเงินดิจิตอล ที่กำลังจะพัฒนาเป็นสังคมไร้เงินสด
ทุกอย่างมันมีการประเมินจาก risk : reward เสมอในการพัฒนาสังคม ให้มีความเจริญก้าวหน้า
ในทุกช่วงของเศรษฐกิจโลก ต่างเกิดจากการแก้ปัญหา ให้ผู้คนในยุคต่างๆ
แม้กระทั้งในโลกการลงทุน เรื่อง risk กับ reward หรือ บางตำรา จะเปรียบเทียบระหว่าง risk : return ก็ได้ไม่ผิดอะไร ความหมายคล้ายๆกัน
ในโลกการลงทุน การเทียบ risk : reward มีความสำคัญ มาก เพื่อให้เราแยกตัวออกจากนักพนัน เพราะปกติ นักพนัน ในความหมายของผมคือ 50:50 คือ โอกาสได้ กับ เสียพอๆ กันนั้นเอง
ส่วนการลงทุนที่ดีจะเพิ่มโอกาส ความน่าจะเป็นที่จะได้ผลตอบแทน กับ ความเสี่ยงที่ 70:30
อะไรคือปัจจัยที่ทำให้สามารถเพิ่มผลตอบแทนและลดความเสี่ยง
1.ความรู้ในด้านการลงทุน ในยุคปัจจุบันมีหนังสือตำรา การลงทุนมากมายเต็มไปหมดที่ออกมาให้ผู้อ่านเสพจนตาลายเลยก็ว่าได้ เราจะเรียนรู้แบบไหนดี สำหรับผมอาจจะเริ่มจากการอ่านตำราที่เกี่ยวกับการเงินการลงทุน การเข้าฟังสัมมนาที่เกี่ยวกับการเงินการลงทุน
2.ปรับmindset การลงทุน การลงทุนเป็นเรื่องของการเรียนรู้ + ประสบการณ์ ที่สะสมกันมา
การเรียนรู้จากคนผู้อื่น เหมือนเป็นการเรียนบนไหล่ยักษ์ เราสามารถนำมาต่อยอด ย่นระยะเวลาในการลองผิดลองถูก แต่สิ่งที่สำคัญที่ไม่ควรละเลยก็คือ การพัฒนาตนเอง ด้วยการลงสนามจริงนั้นเอง
3.ฝึกการตัดสินใจ สำหรับนักลงทุนและเทรดเดอร์ ที่เป็นระดับ top จะมีการตัดสินใจที่เฉียบคม และเมื่อผ่านกระบวนการความคิดแล้ว จะตัดสินใจซื้อหรือขายทันที ไม่มัวลังเล เพราะสำหรับตลาดหุ้น มีความผันผวน หากไม่เด็ดขาด ผลเสียหายจะตามมาอย่างมากมายครับ
4.การเทียบ risk:reward ควรเทียบ เสี่ยง 1 ได้ผลตอบแทน 3 เสมอ เพราะว่า เวลาที่เสีย เราจะต้องทำกำไรกลับมามากกว่าเก่าตามตารางข้างล่างนี้
cr.finnomema
เช่นเงินลงทุน 100 ขาดทุน 10% หากจะต้องทำให้กลับมาเท่าทุนต้องสร้างผลตอบแทน 11%
และหากเรา stop loss ไม่เป็นทำให้ขาดทุน ถึง 50% เราจะต้องสร้างผลตอบแทน ให้ ได้ 100% กันเลยที่เดียวครับ
เพราะฉะนั้น ทุกไม้เทรด เราจะต้องประเมินความเสี่ยงและผลตอบแทนเสมอ และต้อง let profit run ( ปล่อยให้กำไรเติบโต)ให้ได้เมื่อเราคิดถูก เพื่อชดเชยยามที่เราคิดผิด ครับ
5.ไม่มีสูตรสำเร็จในโลกการลงทุน ในระบบนิเวศน์มักจะมีเปรียบเทียบวิธีนี้ดีกว่า แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ตลาดมีการขับเคลื่อนเป็นพลวัต (dynamic) บางช่วงการลงทุนด้วยวิธี value investment ดีมาก แต่ถ้าพอมาดูในช่วง2-3 ปีนี้ ก็ไม่ได้ดีมาก แสดงว่าขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดเช่นกัน
บางช่วง คนที่เทรดแบบ trend following ( เทรดตามแนวโน้ม) ช่วงมีเทรนด์ก็จะได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ
ส่วนในช่วงนี้ คนที่เทรดด้วย ระบบ swing trade ก็จะได้รับผลตอบแทนที่ดี เพราะตลาดเป็น sideway (ออกข้าง) ครับ
หัวใจของการลงทุนและการเทรด ก็คือ การ stop loss ให้เป็น เพราะเราไม่รู้ตลาดจะเคลื่อนไปทางไหน หากแต่ว่าการกำหนดวิธีการที่เราใช้ จะช่วยให้เรา ป้องกันความเสี่ยงที่เราสามารถควบคุมได้
เพราะถ้าไม่ควบคุม สุดท้ายตลาดจะควบคุมเราและจะบีบให้เราขาดทุนหนักครับ
หวังว่ามีประโยชน์กับเพื่อนๆ ฝาก กด like กด ติดตาม เป็นกำลังใจให้แอดด้วยเด้อ^^
ช่วงนี้แอดมีงานเข้ามาอาจมีแนวปรัชญาเข้ามาเยอะหน่อย แต่จะเข้าเนื้อหาหนักๆเกี่ยวกับการลงทุนเร็วๆนี้ครับ ^^
reference:
-www.set.or.th
-รูป finnomena
ช่องทางการติดตาม:twintrade เล่าหุ้นให้มันง่าย

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา