19 เม.ย. 2020 เวลา 14:21 • ความคิดเห็น
* It's me challenge
ที่ผ่านมา เวลามีคนถามว่า 'เธอเป็นคนยังไง?' ก็มักจะตอบกลับไปว่า 'รู้มั้ย นี่เป็นคำถามที่ตอบยากที่สุดในชีวิตเลย' เพราะแม้แต่ตัวเอง ก็ยังไม่เข้าใจว่าจริงๆแล้วเราเป็นคนยังไงกันแน่ ถ้าไม่นับเรื่องข้อมูลที่เป็นความจริงเช่น ชื่อ อายุ ส่วนสูง น้ำหนัก ก็คิดไม่ออกว่าจะตอบอะไรดี
แต่เนื่องจากเห็นเพื่อนๆบอกข้อมูลตัวเองเท่าที่บอกได้อย่างจริงใจ กรีนเลยไม่อยากเขียนแค่ว่าไม่รู้เหมือนกันค่ะ งั้นจะขอเล่าบางเรื่องที่อาจทำให้รู้จักกันมากขึ้นนะคะ ^ ^
-1-
มีโปรเจคที่เรียกว่า ‘คุณมองเห็นคนคนนั้นเป็นสีอะไร?’
คนออกแบบโปรเจคนี้ให้สัมภาษณ์ว่า บางทีเราอธิบายลักษณะของใครสักคนเป็นคำพูดไม่ได้ แต่จะมองเห็นว่าเขาเป็นสีอะไร
กรีนเห็นว่าน่าสนใจ เลยลองเล่นกับเพื่อน กรีนชอบสี midnight blue และคิดว่าตัวเองเป็นสีนั้น คือ ลึกๆแล้วก็ดาร์คๆหน่อย แต่นี่คือสีที่กรีนได้จากเพื่อนค่ะ
>> แน่นอนว่าสีน้ำเงินเข้มมุมขวาล่างคือสีที่กรีนมองเห็นตัวเอง
>>เพื่อนที่คบกันนานกว่าสิบปีให้สีเหลืองกับสีชมพูช่องใหญ่
>>นอกนั้นเป็นเพื่อนที่รู้จักกันประมาณ 5 ปี
กรีนแปลกใจกับผลลัพธ์นี้มาก เพราะสีที่คนอื่นมองเห็นเรานั้นช่างแตกต่างกับสีที่เรามองเห็นตัวเองเหลือเกิน 😂😂 ไม่เคยคิดว่าตัวเองเหมาะกับสีชมพูเลย เหตุผลส่วนใหญ่เพื่อนจะบอกว่าเพราะกรีนเป็นคนที่มี positive vibe ในตัวเยอะ
-2-
กรีนก็คิดว่าตัวเองเป็นคนมองโลกในแง่ดีค่ะ หรือที่คนทั่วไปอาจเรียกว่า ‘โลกสวย’
ตอนมัธยมเคยออกไปข้างนอกกับแม่ แล้วมีคุณป้าที่นั่งข้างๆมาคุยด้วย กรีนก็คุยๆๆๆกับเขาอยู่เป็นชั่วโมง จนแยกย้ายกัน กลับถึงบ้านแม่บอกว่าทีหลังอย่าไปคุยกับคนแปลกหน้าแบบนั้นอีก แม่บอกว่าคงเป็นเพราะกรีนเจอแต่เพื่อนดีๆมาตลอด เลยทำให้คิดว่าโลกนี้มีแต่คนดี แต่ความจริงโลกมันไม่ได้สวยงามขนาดนั้น
ไม่ใช่ว่ากรีนไม่เชื่อนะคะ แต่กรีนคิดว่ามันไม่ใช่แค่นิสัยที่สามารถทำหรือเลิกทำได้ เหมือนว่าตัวเราถูกหล่อหลอมให้มองโลกแบบนี้ซะแล้ว
เรื่องที่น่าตกใจที่สุดคงเล่าไม่ได้ ที่พอเล่าได้คือตอนไปเที่ยวต่างประเทศ กรีนเคยเรียก uber ไปต่างเมือง แต่เนื่องจากระยะทางมันไกล คนขับเลยขอเป็นราคาเหมาให้จ่ายเงินสด กรีนก็ตกลง คนขับกดยกเลิกคำสั่งเรียก แล้วก็ขับไปส่ง เวลาราวๆสองชั่วโมงที่กรีนนั่งอยู่บนรถกับเขา ซึ่งตอนหลังเพื่อนรู้ ก็ถามว่าทำไปได้ยังไง? ถ้าเกิดคนขับพาไปที่อื่น จะไม่มีใครรู้เลยว่ากรีนหายไปไหน เพราะคำสั่งเรียกอูเบอร์ถูกยกเลิกไปจากระบบ ซึ่งกรีนก็เพิ่งตกใจตอนนั้นว่า เออ จริงด้วย 😂😂
-3-
การมองโลกในแง่ดีเกินเหตุนำมาสู่นิสัยแปลกๆหลายอย่าง บางครั้งถึงขั้นอันตราย แต่กรีนก็ยังเป็นคนโชคดีที่มีชีวิตอยู่อย่างปลอดภัยมาจนถึงทุกวันนี้ มีเรื่องหนึ่งที่อยากจะเล่าคือ กรีนเคยทำพาสปอร์ตหายตอนอยู่ที่สนามบิน เรื่องของเรื่องคือสายการบินแจ้งเปลี่ยนเกต กรีนเลยลุกขึ้นเดินไปเกตใหม่ โดยลืมพาสปอร์ตวางทิ้งไว้ พอถึงเวลาจะขึ้นเครื่อง เพิ่งรู้ตัวว่าไม่มีพาสปอร์ตรีบวิ่งกลับไปที่เดิม ปรากฎว่าพนักงานบอกว่ามีคนเก็บมาฝากไว้ให้
หลังจากนั้นกรีนเลยซื้อกระเป๋าที่มีสายคล้องข้อมือเล็กๆ ไว้ใส่พาสปอร์ตโดยเฉพาะ จะได้คล้องไว้ที่มือตลอด ปรากฎว่าครั้งถัดมา กรีนหลับบนเครื่องบินค่ะ แล้วกระเป๋าที่มีพาสปอร์ตก็หลุดจากมือ ตกพื้นไปตอนไหนไม่รู้ ที่น่าตลกคือกรีนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพาสปอร์ตหายไป
จนเวลาผ่านไป 3 วันขณะที่นั่งกินข้าวอยู่ มีเบอร์แปลกๆโทรเข้ามาแล้วถามว่าชื่ออะไร ตอนแรกก็แปลกใจ หลังจากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นตกใจแทนเมื่อเขาบอกว่า “โทรมาจากสายการบินนะคะ ตอนนี้พาสปอร์ตคุณอยู่กับเรา” 😂😂😂
มีเรื่องที่คล้ายๆกันนี้อีก คือ ระหว่างที่กำลังจะเดินไปขึ้นรถเมล์กลับบ้าน ก็มีโทรศัพท์จากธนาคารโทรมาถามว่าเมื่อกี้ได้กดเงินแถวๆนี้หรือเปล่า กรีนตอบไปว่าไม่ได้กดเงินเลย แต่เมื่อกี้อยู่แถวนั้น พนักงานธนาคารเลยบอกว่าบัตร ATM ของคุณ มีคนเอาไปกดเงินที่ตู้แล้วใส่รหัสผิดหลายครั้ง ให้อายัติเลยมั้ย ก็เลยเพิ่งรู้แจ้งกับตัวเองตอนนั้นว่าหากระเป๋าตังค์ไม่เจอแล้ว โดนล้วงไปตอนไหนไม่รู้ 😂😂😂
-4-
เพื่อให้เข้ากับบล็อคดิท เลยอยากบอกว่ากรีนชอบเขียนไดอารี่ค่ะ เขียนมาตั้งแต่สมัยประถม แต่เริ่มเขียนจริงจังตอน ม.1 ตอนนั้นบังคับตัวเองให้เขียนไดอารี่วันละหน้าทุกวัน หมดปีหนึ่งจะได้หนึ่งเล่ม พอขึ้นปีใหม่ก็เริ่มเล่มใหม่ กรีนเขียนแบบนี้อยู่หลายปีจนเข้ามหาลัย แล้วค่อยเปลี่ยนเป็น planner ช่องๆ เลยไม่ค่อยได้เขียนความรู้สึกอะไรมาก แต่ก็ทำให้มีไดอารี่เก็บอยู่หลายเล่ม
เคยอ่านเจอมาว่า ‘หนังสือที่ตลกที่สุด คือ ไดอารี่เล่มเก่าของคุณเอง’
กรีนพบว่ามันเป็นคำพูดที่จริงมาก เพราะเมื่อเวลาผ่านไปเป็นสิบปี แล้วได้นั่งอ่านไดอารี่สมัยประถมที่กลัวถูกคุณครูดุเพราะลืมเอาการบ้านไปส่ง หรือสมัย ม.ต้น ที่เขียนถึงผู้ชายที่แอบชอบ แล้วก็นั่งหัวเราะอยู่คนเดียวว่ามันช่างเพ้อเจ้ออะไรแบบนี้
กรีนชอบของเก่า มีสโลแกนของ ‘บ้านพิพิธภัณฑ์’ ที่ชอบมาก บอกว่า ‘เก็บวันนี้ พรุ่งนี้ก็เก่า’ รู้สึกขอบคุณตัวเองที่เคยเขียนไดอารี่ไว้ทุกวัน เพราะทุกวันนี้มันกลายเป็นสมบัติล้ำค่าที่ไม่สามารถประเมินมูลค่าได้เลย ‘เวลา’ คือสิ่งที่ผ่านเลยไป ไม่ย้อนกลับมา ทุกเข็มวินาทีที่ลากผ่านนาฬิกา จะไม่มีวินาทีไหนที่ซ้ำเดิมได้อีก สิ่งที่กรีนหวงแหนคือการเก็บเวลาเหล่านั้นไว้นึกถึง ไม่ว่าจะด้วยตัวอักษร เสียง ภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหว ทุกอย่างล้วนมีค่าสำหรับกรีน
รูปนี้คือหน้าหนึ่งในไดอารี่ที่เคยถ่ายออกมาให้เพื่อนดู ว่าสมัยนั้นการตัดสินใจซื้อ 3310 เป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตเหมือนกันนะ 55555555 ต้องมีเหตุผลร้อยแปด นั่งคิดว่าส่งข้อความภาษาไทยได้มั้ย เกมงูเร็วหรือช้า 😂😂 ตอนนั้นเลือกระหว่าง N 3310, N 3350 กับ SC 45 ยังมีใครพอจำได้ไหมคะว่าโทรศัพท์ SC คือยี่ห้ออะไร? :P
ช่วงนี้กรีนกำลังทำงานที่สำคัญกับตัวเองมากๆ ที่ผ่านมานอนค่อนข้างน้อย เมื่อวานอยู่ๆก็มีคนติดต่อมาว่ามีซาเล้งมาจอด กรีนพอว่างเลยรีบมาขึ้นซาเล้งก่อน แล้วจะขอหายไปอีก เดือนหน้าจะกลับมาใหม่นะคะ ขอบคุณทุกคนนะคะ 😊😊❤️❤️
ไม่รู้จะส่งซาเล้งให้ใครต่อ เลยนึกถึงคนที่เคยส่งซาเล้งมาให้ คุณ Antfield เล่นไปยังคะ กรีนรู้จักแต่ชื่อเล่นเพราะเห็นพี่กู๊ดเรียก มารับซาเล้งต่อด้วยนะคะ อิอิ
ขอบคุณพี่เนิ้ตคนคิดซาเล้ง ชอบคุณพี่บีกับน้องอนาที่ส่งมาน้า ^ ^

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา