แวมไพร์ตนแรก วลาดที่ 3 เจ้าชายแห่งวาลาเคีย
เราขอแนะนำให้คุณรู้จักชายผู้ที่เป็นต้นแบบของนวนิยายผีดูดเลือดสุดโด่งดังของของอย่างเรื่อง "แดรกคูลา" ชายผู้มีฉายาสุดเหี้ยมโหดอย่าง "วลาด จอมเสียบ" เจ้าชายแห่งวาลาเคีย ที่สังหารศัตรูด้วยการเสียบทั้งเป็น
วลาดที่ 3 เจ้าชายแห่งวาลาเคีย (ค.ศ. 1431–1476/7) ผู้ที่ถือคือราชสกุล "แดรกคิวลา" พระองค์ได้รับสมัญญาหลังชิ้นพระชนม์ว่า "วลาด จอมเสียบ" (อังกฤษ: Vlad the Impaler; โรมาเนีย: Vlad Țepeș) เป็นผู้ครองวาลาเคีย 3 สมัย ระว่างปี ค.ศง 1456 ถึง 1462 เป็นช่วงที่ออตโตมันเริ่มพิชิตดินแดนคาบสมุทรบอลข่าน
องค์วลาดที่ 3 เป็นพระโอรสของ วลาดที่ 2 ดรากูล ในวัยเยาว์ พระองค์และพระอนุชา ราดู ผู้รูปงาม ถูกส่งไปเป้นตัวประกันภายใต้จักรวรรดิออตโตมันในฐานะประเทศราช ต่อมาเมื่อพระราชบิดาของพระองค์คือ วลาดที่ 2 และพระเชษฐา มีร์ชาที่ 2 ถูกพวกขุนนางภายใต้สังกัดฮังการีปลงพระชนม์ใน ค.ศ. 1447 จักรวรรดิออตโตมันจึงพยายามกำจัดอิทธิพลของฮังการีโดยการส่งกองทัพมายึดวาลาเคีย และตั้งวลาดที่ 3 ในวัย 17 พรรษา เป็นเจ้าชายผู้ครองรัฐภายใต้อาณัติแห่งจักรวรรดิออตโตมัน
ค.ศ. 1459 สุลต่านเมห์เหม็ดที่ 2 แห่งออตโตมันได้ส่งทูตมาเรียกร้องบรรณาการจากวาลาเคีย วลาดปฏิเสธจะจ่ายบรรณาการ และสังหารทูตโดยการตอกตะปูกับผ้าโพกหัวให้ติดกับศีรษะ สุลต่านทรงพิโรธ และส่งทหารเข้าโจมตีวาลาเคียในปี ค.ศ. 1462 ซึ่งวลาดได้รบแบบกองโจรและประสบความสำเร็จหลายครั้ง โดยครั้งที่สำคัญที่สุดคือการลอบโจมตีในกลางดึกที่ตรือโกวิชเต้ ซึ่งส่งผลให้ออตโตมานสูญเสียกำลังพลไปเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตามในภายหลังวลาดต้องพ่ายแพ้เพราะมีขุนนางไส้ศึกแปรพักตร์ ออตโตมานจึงสามารถเข้าพิชิตวาลาเคีย และตั้ง ราดู ผู้รูปงาม พระอนุชาของวลาด ซึ่งเป็นชาวมุสลิมและมีใจฝักใฝ่ต่อออตโตมัน ขึ้นบัลลังก์เป็นเจ้าชายแห่งวาลาเคีย วลาดเสด็จหนีไปขอความช่วยเหลือจากพันธมิตรของพระองค์คือฮังการี แต่แทนที่จะได้รับความช่วยเหลือ พระองค์กลับถูกจับกุมตัวโดย พระเจ้ามะติอัช ซึ่งเป็นพระโอรสของฮุนยาดี ยานอช และเป็นพระมหากษัตริย์ฮังการี โดยสาเหตุของการจับกุมอาจเป็นไปได้ว่าพระเจ้ามะติอัชทรงไม่ประสงค์จะเปิดศึกกับออตโตมาน เนื่องจากพระองค์ทรงกำลังต้องการที่จะขยายอำนาจในยุโรปกลางมากกว่า จึงทรงแต่งจดหมายปลอมว่าวลาดมีใจฝักใฝ่ต่อออตโตมาน เพื่อแสดงถึงความชอบธรรมในการจับกุมตัววลาด
อย่างไรก็ตามในภายหลังพระเจ้ามะติอัชทรงต้องการแผ่ขยายอำนาจสู่ดินแดนวาลาเคีย จึงทรงปล่อยตัววลาดในปี ค.ศ. 1474 และในปี ค.ศ. 1476 พระองค์ได้ตัดสินใจที่จะสนับสนุนวลาดให้กลับไปยึดวาลาเคียอีกครั้ง วลาดสามารถยึดบัลลังก์จาก บาซารับ ลาโยเตอะ ซึ่งเป็นเจ้าชายแห่งวาลาเคียพระองค์ใหม่ที่ฝักใฝ่ในออตโตมาน ได้สำเร็จ และปกครองบัลลังก์วาลาเคียเป็นสมัยที่ 3 แต่พระองค์ปกครองได้ไม่นาน ก็ได้ถูกสังหารลงในการรบกับออตโตมัน
วลาดที่ 3 ทรงเป็นที่เคารพในฐานะวีรบุรุษพื้นบ้านในประเทศโรมาเนียตลอดจนส่วนอื่นของทวีปยุโรป เพราะวีรกรรมการพิทักษ์ปกป้องประชาชนชาวโรมาเนียได้ทั้งใต้และเหนือแม่น้ำดานูบ โดยทักษะการข่มขวัญศัตรูผู้บุกรุกทุกผู้นาม ที่คิดจะเข้ามารุกรานอาณาจักรของพระองค์ด้วยการเสียบข้าศึกทุกคนของพระองค์ เป็นวิธีที่มีความโหดเหี้ยมเกินกว่าผู้ใดจะจิตนาการถึง เพื่อประกาศให้เหล่าศัตรูรู้ว่า ถ้าพวกนายเข้ามา นายอาจจะกลายเป็นหนึ่งในเสามนุษย์พวกที่เสียบเรียงรายรองดินแดนของพระองค์บ้างก็ได้
มีเรื่องเล่าขานกันในวาลาเคียว่า องค์วลาดที่ 3 ต้องทอดพระเนตรการเสียบเชลยศึกในทุกเย็นก่อนรับประทานอาหารค่ำ พร้อมกับร่ำสุราระหว่างทอดพระเนตรการสังหารสุดโหดเหี้ยมนี้ ชื่อเสียงของพระองค์ด้านความโหดร้านเกินขีดแพร่ไปทั่วสารทิศในทวีปยุโรปในตอนนั้น
จนนักแต่งนิยายนามว่า บราม สโตกเกอร์ ก็ได้นำพระองค์มาเป็นต้นแบบในการสร้างตัวละคร เค้าท์แดรกคูลา ของเขานั้นเอง
อ่านมาถึงตรงนี้ คุณก็จะมองเห็นปุ่มไลด์ อยู่ใกล้ๆ กับมุมซ้ายของจอด้านล่างแล้วนะครับ หากถูกใจ อย่าลืมกดไลค์ กดติดตามเพื่อเป็นกำลังใจให้เราทำบทความดี ๆ กันต่อไปด้วยนะครับ
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
