เส้นเลือดในสมองตีบ สมองขาดเลือด
คนไข้จะต้องเจอปัญหาอะไรบ้าง ?
ผมเป็นแฟนละคร แฟนเพลง และชื่นชอบไอเดียความคิดของพี่อ๊อฟมากๆ ได้ยินข่าวพี่อ๊อฟเป็นเส้นเลือดในสมองตีบก็ใจหาย ขอส่งกำลังใจให้พี่อ๊อฟหายเร็วๆนะครับ
แต่การส่งกำลังใจอย่างเดียวคงไม่พอจะทำให้พี่อ๊อฟหายดี ผมเลยขอส่งความรู้และประสบการณ์การฟื้นฟูคนไข้โรคนี้ให้พี่อ๊อฟ ญาติ เพื่อนๆ แฟนเพลง และแฟนคลับพี่อ๊อฟ เผื่อได้อ่านได้นำไปใช้ น่าจะทำให้พี่อ๊อฟหายเร็วขึ้นครับ
(ช่วงนี้เจอคนไข้เส้นเลือดตีบอายุน้อย 25-35 ปีบ่อยมาก !)
จาก “ข่าว”
- คนไข้ขยับร่างกายแขนขาข้างขวาไม่ดี คาดการณ์ว่าสมองที่ขาดเลือดเป็นด้านซ้าย เป็นสมองที่ควบคุมเรื่องภาษา การพูด การคิดการอ่านค่อนข้างเยอะ
- คนไข้เริ่มพูดได้บ้างแล้ว และ CT สมองไปล่าสุดไม่มีปัญหา คาดการณ์ว่าเส้นเลือดตีบเป็นไม่เยอะมาก และไม่มีการตายของสมองเพิ่มขึ้น ไม่มีเลือดออกเพิ่มต่อ
แล้วคนไข้เส้นเลือดในสมองตีบข้างซ้าย จะต้องเจอปัญหาอะไรบ้าง ?
1. ด้านการรับรู้
คนไข้จะรับรู้ช้า รับรู้ได้ไม่หมด คิดช้า ประมวลผลช้า แต่ยังรับรู้ได้อยู่ ดังนั้นเวลาพูดหรือสื่อสารกับคนไข้ ต้องใจเย็นๆ พูดช้าๆ ชัดๆ อย่าแย่งกันพูด บางทีเค้าหลับตาอยู่ก็ยังรับรู้ได้ หลายๆคนฟังเข้าใจ รับรู้ได้ดี แต่เค้าพูดไม่ได้เหมือนเดิม อย่าตีความว่าเค้าไม่รับรู้ อย่าบ่น อย่าพูดอะไรที่ทำให้คนไข้รู้สึกไม่ดี
2. ด้านภาษา
อันนี้เรื่องใหญ่เลย คนไข้อาจจะมีอาการ อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ นึกคำศัพท์ไม่ออก พูดไม่ชัด พูดติดๆขัดๆ พูดช้าๆ พูดไม่รู้เรื่อง พูดคนละอย่างกับที่คิด พูดคำอื่นที่ไม่มีความหมาย เช่น บาบ๊ะบาบ๊ะ ฯลฯ
ถ้าคนไข้เป็นนักร้องหรือผู้กับกับล่ะ จะมีปัญหายังไงบ้าง ? น่าจะมีผลพอควรเลย
3. ด้านอารมณ์
คนไข้จะมีอารมณ์แปรปรวน เสียใจก็ร้องไห้ง่าย โกรธก็แสดงออกมาเลย หงุดหงิดง่าย ซึ่งเป็นเรื่องปกติของโรคนี้ ไม่ใช่นิสัยของเค้าที่แท้จริง
ลองคิดดูว่าถ้าเราต้องนอนติดเตียงตลอดเวลา เมื่อยก็ขยับเองไม่ได้ คันก็เกาไม่ได้ จะพูดจะทำอะไรก็ไม่ได้ดั่งใจ มันน่าหงุดหงิดมากๆ ยิ่งสารเคมีในสมองเปลี่ยนแปลงไป ยิ่งทำให้ควบคุมอารมณ์ไม่ได้
ดังนั้น ญาติหรือคนดูแล อย่าตกใจ อย่าเครียดว่าทำไมคนไข้อารมณ์แปรปรวนหรืออารมณ์ร้าย มันเป็นเรื่องของสารเคมีในสมอง มีวิธีรักษาหลายอย่าง เดี๋ยวจะพิมพ์ใน ตอนรักษา ต่อไป
4. ด้านความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
คนไข้จะอ่อนแรงแขนขาตัวข้างขวา มักมีหน้าข้างขวาอ่อนแรง ถ้ากินน้ำตอนนี้อาจสำลักได้ ปกติเรามักจะใส่สายอาหารทางจมูกไว้เพื่อความปลอดภัย ญาติหรือผู้ดูแลอย่าพึ่งหวังดีนะครับ อย่าไปป้อนอะไรเข้าปากคนไข้ในช่วงแรก เดี๋ยวจะเป็นปอดบวม
*** ถ้าคนไข้สามารถขยับมือได้ภายใน 1 เดือน แนวโน้มจะดูดีมาก ลองสังเกตดูนะครับ
5. อาการปวดหัวไหล่ข้างอ่อนแรง อาจมีสาเหตุจาก
เส้นประสาทอักเสบ ทำให้หัวไหล่และมือข้างที่อ่อนแรงปวด บวม แดง แตะโดนไม่ได้ ภาษาการแพทย์เราเรียกว่า CRPS (Complex Regional Pain Syndrome) หรือง่ายๆว่าโรค shoulder hand syndrome
เอ็นหัวไหล่อักเสบ เกิดจากเวลาขยับพลิกตัว หัวไหล่ถูกกดทับ ของเดิมมีการอักเสบอยู่แล้วเนื่องจากอายุและการใช้งาน พอมาเป็นอัมพฤกษ์เลยยิ่งทำให้อักเสบง่ายขึ้น
หัวไหล่เลื่อน (shoulder subluxation) เพราะกล้ามเนื้ออ่อนแรง ต้องระวังอย่าดึงหรือกระชากแขนคนไข้ เวลาจะพลิกตัวคนไข้นอนตะแคง ต้องช้อนเอาไหล่ออกมาให้ดีๆ ไม่ใช่นอนทับไหล่ไปเฉยๆ
แขนงประสาทบาดเจ็บ (brachial plexus injury) จากการ “ดึง” ที่ผิดของผู้ดูแลหรือญาติ กระชากแรงไป อยู่ผิดท่านานๆ ถูกกดทับเป็นเวลานานในท่าที่ผิด
ไหล่ติด: ถ้าคนไข้ไม่ได้รับการขยับข้อต่อเลย ก็ทำให้ไหล่ติดได้
6. อาการเกร็ง
อันนี้เจอได้ทุกคน ช่วงแรกๆแขนขาข้างอ่อนแรงจะอ่อนปวกเปียกก่อน แล้วหลังจากนั้นจะค่อยๆเกร็งมากขึ้นๆ ถ้าเกร็งไม่มาก ไม่ต้องกินยาเลยนะ ยิ่งทำให้คนไข้ฟื้นช้า แต่ถ้าเกร็งมากจนมีผลต่อการเช็ดตัวหรือเกิดแผลกดทับ อันนี้อาจให้ยาได้บ้าง หรือมีอีกหลายวิธีเพื่อลดเกร็ง ส่วนตัวไม่ค่อยให้ยาลดเกร็งมากเพราะมีเครื่องมืออื่นๆช่วยได้ พอคนไข้ฟื้นกลับมามากขึ้น อาการเกร็งจะค่อยๆหายไปได้
7. ข้อติด
เวลานอนติดเตียงนานๆ ขยับน้อย ถ้าไม่ได้รับการทำกายภาพที่เหมาะสม ข้อก็จะติด แต่ถ้ายังปล่อยไปอีก ก็จะยึดแข็ง เอาไม่ออกแล้ว
8. เส้นเลือดอุดตันที่น่อง
สาเหตุเพราะไม่ได้ขยับขาข้างอ่อนแรง ทำให้เลือดไหลเวียนช้าลง เจอได้บ่อยมากๆ น่องจะบวมแดงกดเจ็บ (ถ้าคนไข้ยังรู้สึกได้)
อันนี้แค่ปัญหาคร่าวๆ ยังมีเรื่องชัก กลืนลำบาก สำลัก ปอดบวม ปัสสาวะไม่ออก ปัสสาวะเล็ดลาด ติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ท้องผูก แผลกดทับ ฯลฯ ซึ่งอาจเกิดได้ง่ายๆ 😑
ปัญหาทั้งหมดข้างบน “ป้องกัน” ได้ หรือเกิดขึ้นน้อยมาก หรือเกิดแล้วแก้ไขได้ไวมาก ถ้าผู้ดูแล ญาติ และทีมผู้รักษามีความเข้าใจที่ถูกต้อง
รักและเป็นห่วงพี่อ๊อฟครับ ❤
อยากทำให้พี่อ๊อฟมาร้องเพลง มากำกับหนังได้อีก
#funnydoctor #หมอเป็นคนตลก
#เส้นเลือดในสมองตีบ #สมองขาดเลือด #อ๊อฟพงษ์พัฒน์ #อัมพาต
---------------------------------
หมายเหตุ
- ผมขอพิมพ์เป็นภาษาคนทั่วไปอ่านเข้าใจได้ เลี่ยงศัพท์วิชาการจ๋าๆนะครับ เพราะไม่ได้เขียนหนังสือและมันจะน่าเบื่อเกินไป
- ผมไม่ได้ดูคนไข้ด้วยตาตัวเองเลย ข้อมูลทั้งหมดมาจากข่าว ถ้าได้ตรวจตัวเป็นๆ น่าจะให้คำแนะนำที่แม่นยำกว่านี้ได้
- คุณหมอที่จะตอบได้ดีที่สุด ก็คือคุณหมอที่ดูแลคนไข้โดนตรง แต่ว่าท่านอาจจะไม่ตอบคำถามบางอย่าง เนื่องจากมันมีรายละเอียดเยอะมากกกกกกกก คงเป็นเลคเชอร์ประมาณ 40 ชั่วโมงได้ และในทางการแพทย์ไม่มีอะไร 100% มันมีความน่าจะเป็นตลอด กี่ % ก็ว่ากันไป ดังนั้นถ้าถามแล้วคุณหมอแล้วท่านไม่ได้ตอบหรือตอบกว้างๆไม่ได้ฟันธง ก็อย่าไปโกรธท่านนะครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
