20 ก.ย. 2018 เวลา 18:08
นิทานล้านบรรทัด
"สติ๊กเกอร์คนโง่" / ประภาส ชลศรานนท์
.
ที่ร้านแห่งหนึ่งในหมู่บ้าน ร้านที่ได้ชื่อว่าขายทุกสิ่งทุกอย่าง จนมีคนพูดกันเล่นๆว่าหากอยากได้ไม้จิ้มฟันหรือเรือรบก็สามารถหาซื้อได้จากร้านนี้
ตรงเคาเตอร์จ่ายเงิน นอกจากถ่านไฟฉายและยาอมขนมขบเคี้ยวแล้ว ยังมีกล่องใส่สินค้ากล่องเล็กๆกล่องหนึ่งตั้งอยู่ ดูจากฝุ่นที่จับและจำนวนสินค้าที่ยังวางเต็มกล่องก็คงพอดูออกว่าเป็นสินค้าที่ไม่มีใครสนใจ
ยิ่งมีตัวหนังสือเขียนไว้ที่กล่องว่า สติ๊กเกอร์คนโง่ ยิ่งทำให้ไม่มีใครอยากยุ่งกับสินค้ากล่องนี้
แล้ววันหนึ่งก็มีเด็กชายคนหนึ่งชื่อจ้อยเข้ามาถามถึงสินค้าตัวนี้ หลังจากที่ด้อมๆมองๆอยู่หลายวัน
“มันใช้อย่างไร” เด็กชายจ้อยถามคนขาย
“ง่ายมาก” คนขายตอบพลางหยิบสติ๊กเกอร์ขึ้นมาให้จ้อยดู มันเป็นสติ๊กเกอร์ดวงกลมๆสีส้มๆ ข้างในมีตัวหนังสือเขียนว่าโง่คำเดียวแค่นั้น “ถ้าเราอยากหายโง่ในเรื่องใดก็จงเอาสติ๊กเกอร์นี้ไปแปะไว้ เช่นถ้าอยากหายโง่เรื่องทำครัวก็เอาไปติดประตูครัว อยากหายโง่ในตำราเรียนเล่มไหน ก็เอาสติ๊กเกอร์คนโง่ไปติดไว้ ง่ายๆแค่นี้เอง ”
คนในร้านได้ยินคนขายพูดคำว่าโง่ ก็หันมามองทันที ค่าที่ไม่เคยมีใครซื้อสติ๊กเกอร์ประหลาดๆนี้เลย เหตุการณ์นี้เป็นเรื่องประหลาดแน่นอน
“แล้วมันจะหายโง่จริงๆหรือ แผ่นหนึ่งมีกี่ดวง” เด็กชายจ้อยส่งเงินให้
“หนึ่งร้อยดวง” คนขายทอนเงิน “หายโง่แน่นอนไอ้หนู”
เด็กชายจ้อยเดินถือสติ๊กเกอร์ออกจากร้านไป ผู้คนพากันซุบซิบกัน แทบทุกคนลงความเห็นว่าเด็กชายจ้อยนั้นท่าจะเป็นเด็กโง่จริงๆ เพราะหลงไปซื้อของบ้าๆบอๆไร้สาระอย่างนี้
เด็กชายจ้อยแกะสติ๊กเกอร์ดวงแรกเอามาติดที่เสาไฟข้างถนนที่เขาเดินผ่าน “ฉันไม่เข้าใจเรื่องไฟฟ้าที่ครูสอนเลย” แล้วก็ติดที่รถจักรยานของเขา “ใครหนอประดิษฐ์มันขึ้นมา จักรยานช่างเป็นพาหนะที่ยอดเยี่ยมจริงๆ”
เมื่อถึงบ้านเด็กชายจ้อยก็ติดสติ๊กเกอร์บนหนังสือแทบทุกเล่ม เขาติดลงที่ว่าวจุฬาตัวที่ลุงจอมเหลาไม้ทำให้เขา ก็เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับว่าวจุฬาเลยนี่ และไม่ทันจะข้ามคืนดี ของในบ้านของเด็กชายจ้อยถูกติดไว้แทบทุกอย่าง บนกระเป๋านักเรียน บนรองเท้าผ้าใบ บนหมวกลูกเสือ ฯลฯ
รุ่งเช้า เป็นดังที่คาดเมื่อเด็กชายจ้อยเดินไปโรงเรียน เขาก็ถูกเด็กในโรงเรียนล้อเลียนเอาทันทีที่ทุกคนมองเห็นสติ๊กเกอร์ที่ติดอยู่ตามกระเป๋าและรองเท้า เด็กบางกลุ่มถึงกับร้องตะโกนต่อเป็นทอดๆว่า ไอ้โง่ ไอ้โง่ ไอ้โง่
แม้เรื่องนี้ถึงครูผู้ปกครอง และครูก็ได้กำราบเด็กที่กลั่นแกล้งเด็กชายจ้อย แต่เอาเข้าจริงๆครูแทบทั้งโรงเรียนก็คิดเหมือนกับเด็กพวกนั้นว่าเด็กชายจ้อยเป็นเด็กโง่
...
ยี่สิบห้าปีผ่านไป
เด็กชายจ้อยเติบโตเป็นด็อกเตอร์จ้อยผู้มีปริญญาเอกถึงสามใบ ทุกวันนี้ด็อกเตอร์จ้อยเป็นอาจารย์พิเศษในมหาวิทยาลัยหลายแห่ง เขาได้รับรางวัลนักวิจัยดีเด่นสี่ปีติดต่อกัน สำหรับแวดวงการศึกษาแล้วด็อกเตอร์จ้อยได้รับการยอมรับว่า เขาเป็นนักวิจัยที่ฉลาดที่สุดคนหนึ่งของประเทศ
ถ้าใครจะสังเกตเสียหน่อยว่าบนแฟ้มเอกสารที่ด็อกเตอร์จ้อยถือเดินไปมาระหว่างบรรยายในการประชุมระดับชาติ ตรงด้านหน้าแฟ้มมีสติ๊กเกอร์ที่ติดมานานจนสีซีดแล้วดวงหนึ่ง และถึงแม้จะขาดหลุดลุ่ยไปเกือบหมดแต่ถ้าจะอ่านจริงๆก็คงแกะเป็นคำออกมาได้ว่า “โง่”
ด็อกเตอร์จ้อยมักให้สัมภาษณ์เสมอว่าเขาเติบโตร่ำเรียนหนังสือและประสบความสำเร็จในชีวิตมาได้ด้วยสติ๊กเกอร์วิเศษนี้
“ทุกครั้งที่ผมเห็นคำนี้ติดอยู่ที่ไหน มันทำให้ผมรู้ตัวเองว่ายังโง่อยู่ และเมื่อผมรู้ว่าตัวเองโง่ ผมก็พยายามศึกษาเรื่องนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นบัญชี ศิลปะ เครื่องยนต์ ตอนเด็กๆ ผมมีสติ๊กเกอร์วิเศษนี้หลายร้อยดวง เด็กคนอื่นเก็บตังค์ไว้ซื้อของเล่น แต่ผมเก็บตังค์เพื่อซื้อสติ๊กเกอร์คนโง่มาใช้ตลอดวัยเด็ก ต่อให้ถึงทุกวันนี้ผมก็ยังจินตนาการเห็นสติ๊กเกอร์คำนี้ติดอยู่บนเรื่องที่ผมไม่เข้าใจตลอดเวลา”
.................................................................
โฆษณา