กินยา..”แก้ปวดไมเกรน"..อย่างไร? จึงจะปลอดภัย
ไมเกรน (migraine) เป็นโรคปวดศีระษะที่พบได้บ่อยสาเหตุ: เชื่อว่า อาจเกิดจากพันธุกรรม หรือ ปัจจัยกระตุ้น จากสิ่งแวดล้อม
ส่งผลให้หลอดเลือดแดง ทั้งด้านในและด้านนอกกระโหลก เกิดการขยายตัวได้มาก และง่ายกว่าคนปกติทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ
การค้นหาให้พบ ปัจจัยที่ส่งผลกระตุ้น และหาทางหลีกเลี่ยง เป็นการป้องกันอาการปวดศีรษะไมเกรนที่ดีที่สุด อย่างไรก็ดี การใช้ยารักษาอาการปวดไมเกรนก็มีความจำเป็นในบางราย
ยาที่ใช้แบ่ง 2 กลุ่ม
1. ยารักษาอาการปวดไมเกรนฉับพลัน (Abortive drugs)
2. ยาที่ใช้ป้องกันการเกิดไมเกรน (Preventive drugs)
ยาที่มีการใช้บ่อย และมีข้อควรระวังในการใช้ค่อนข้างมาก คือ ยา Ergotamine ซึ่งเป็นยาประเภทที่ใช้รักษาอาการปวดไมเกรนฉับพลัน
เออโกตามีน (Ergotamine) ออกฤทธิ์กระตุ้นตัวรับของสารสื่อประสาทซีโรโทนิน (serotonin) ส่งผลให้หลอดเลือดที่ขยายตัวผิดปกติเกิดการหดตัวลง อาการปวดศีรษะจึงหายไป
ควบคู่กันนี้ ยายังกระตุ้นตัวรับอื่นๆ ได้แก่ α-1 และ dopamine-2 (D2) ซึ่งการกระตุ้นนี้จะทำให้เกิดผลข้างเคียงจากยา
ชื่อการค้าของยา เช่น Cafergot®, Avamigran® Tofago® หรือ Poligot-CF® ซึ่งประกอบไปด้วยตัวยาสำคัญ คือ Ergotamine tartrate 1 มก. + Caffeine 100 มก., ส่วน Ergosia® ประกอบด้วยตัวยาสำคัญ คือ Ergotamine tartrate ขนาด 1 มก. เพียงอย่างเดียว
การใช้: **ต้องใช้เฉพาะเวลาที่มีอาการปวดเท่านั้น ห้ามใช้ติดต่อกันทุกวัน
ขนาด: ครั้งแรก 1-2 เม็ด หากอาการไม่ดีขึ้น กินซ้ำ 1 เม็ด ทุกๆ ครึ่งชั่วโมง “ห้ามกินเกิน 6 เม็ด/วัน และห้ามกินยาเกิน 10 เม็ด/สัปดาห์”
การกิน Ergotamine มากกว่ากำหนด อาจทำให้เกิดความดันโลหิตสูง รวมทั้งมีอาการเจ็บหน้าอก คลื่นไส้ อาเจียน
# Ergotamine ใช้รักษาอาการไมเกรนที่มีประสิทธิภาพดี แต่มีข้อควระวัง และข้อห้ามใช้ค่อนข้างมาก การกินอย่างถูกต้องปลอดภัยจึงสำคัญ
Cr: เภสัชฯ มหิดล
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
