20 พ.ย. 2018 เวลา 13:02 • ความคิดเห็น
💣😔ลาออกเลยดีไหม
หลายคนคงกำลังมีความเครียดอยู่ ไม่ได้เครียดธรรมดา แต่เป็นความเครียดสะสมที่มีมาช้านาน แม้จะคิดบวกก็แล้ว คิดคูณก็แล้ว ก็ยังวนเวียนเครียดซ้ำซาก
เครียดอะไร?
เครียดเรื่องงานที่ต้องรับบทบาทหนัก อย่างเช่นฝ่ายการตลาดที่ต้องเร่ง launch สินค้าให้ได้ตามกำหนดเวลา แต่ก็ยังติด ๆ ขัด ๆ หลายเรื่องซึ่งไม่พ้นเรื่องความร่วมมือของแผนกต่าง ๆ อาจหมายรวมถึงเจ้านายด้วยว่าตกลงจะเอาอย่างไร ตัดสินใจไปแล้วก็มาแก้ นี่ก็ปลายปี จะมีห้างที่ไหนรับสินค้าใหม่มั๊ย😖
ถ้าเป็นฝ่ายขาย ช่วงปลายปีจะเป็นช่วงที่เครียดเพราะยอดขายสะสมทั้งปีไม่ถึงเป้า ตัวเลขปิดปีจะต่ำกว่าปีที่ผ่านมาไม่ได้ นั่นคือสิ่งที่เจ้านายพยายามกรอกหูบ่อยๆ
เครียดสะสมเพราะผลงานมันก็ต้องมี 👨🏻‍💼เจ้านายก็ไม่ค่อยเข้าใจ นี่ยังไม่นับรวมเรื่องปัญหาส่วนตัวอีกนะ
ลูกน้องล่ะ บางทีก็ไม่ได้เข้าใจหัวหน้าอย่างเรา มันเครียดทั้งบนทั้งล่าง นี่ยังไม่รวมเพื่อนร่วมงานที่นิสัยไม่ดี เอาเรื่องที่เราระบายไปเล่าต่อ 🐦🐤ทำตัวเป็นนกสองหัว หรือมีนิสัยขโมยซีน ขโมยไอเดียไปนำเสนอ เราจะไว้ใจใครได้บ้างเนี่ย ก็หลายเรื่องหลายปัญหาประเดประดัง
😵เหนื่อย ... บ้านอยู่ชานเมือง ต้องออกจากบ้านตั้งแต่ก่อนหกโมงเช้าเพื่อมาทำงานในเมืองให้ทัน ฝ่าการจราจร รถติด กว่าจะไปส่งลูกเสร็จ ต้องมาทำงาน ตอนเย็นก็รถติดอีก เพลียทั้งกาย เพลียทั้งใจ
🤦🏻‍♂️หางานใหม่ดีไหม? 🤦🏼‍♀️ลาออกเลยดีไหม? เบื่อจะตายอยู่แล้ว กับปัญหาเดิม ๆ เซ็ง...
ถ้าเซ็งขนาดคิดอยากลาออกวันละหลายรอบ อยากลาออกแม้ยามฝัน ลองคิดดังนี้ก่อนสักนิด☝🏻✨
คุณมีภาระเยอะไหม?
ผ่อนบ้าน
ผ่อนรถ
ค่าใช้จ่ายสำหรับลูก
ค่าใช้จ่ายสำหรับพ่อแม่
คุณมีเงินเก็บสำรองไว้ใช้ให้ได้สัก 6-8 เดือนไหม
ถ้าคุณมีภาระ และเงินเก็บสำหรับหมุนเวียนก็ยังไม่เยอะพอ คุณควรหางานใหม่ให้ได้ก่อน อันนี้เบสิคสำหรับจะแนะนำ อย่าเพิ่งใจร้อน...
อยากให้ถามตัวเองด้วย ว่าถ้าลอง weight ดูแล้ว เรื่องไหนที่คุณเซ็งที่สุดจนอยากลาออก ส่วนใหญ่จะเบื่อหัวหน้า เบื่อเจ้านาย (หัวหน้าคือคนที่ไม่ใช่เจ้าของบริษัท แต่คำว่าเจ้านายในที่นี้คือเหล่าเจ้าของบริษัท) ส่วนมากแล้วมนุษย์เงินเดือนจะลาออกเพราะเหตุนี้มากกว่าจะลาออกเพราะเบื่อเพื่อนร่วมงาน เพราะเพื่อนร่วมงานไม่ได้มีอิทธิพลทางความเป็นอยู่มากเท่ากับหัวหน้า
สมมติว่าได้งานใหม่ แล้วหัวหน้าใหม่เราจะไม่มีเรื่องที่ทำให้เซ็งใช่ไหม
ถ้าเป็นกรณีที่อยากลาออกเพราะว่างานที่ทำมันมากมาย สร้างมูลค่าให้กับองค์กรได้เพียบ 💰💵💶แต่โดนหัวหน้าขมิบผลงานไว้ไม่ให้โต เงินเดือนก็น้อยกว่าที่ควรจะเป็น และศักยภาพเรามันได้ระดับเกินมาตรฐานสากล จะรออะไร หางานใหม่แล้วไปขึ้นเวทีที่เราจะได้รายได้ให้สมน้ำสมเนื้อไปเลย อันนี้สมควรลาออก อย่ารอช้า
ขออย่างเดียว...
อย่าลาออกเพราะต้องการความสะใจ
อย่าลาออกเพราะต้องการประชดหัวหน้าหรือเจ้านาย
อย่าลาออกเพราะคิดว่าไม่มีเราที่นี่เจ๊งแน่
เพราะว่า...
สะใจแค่ไม่กี่นาที
หัวหน้าจะสมหวังมากที่เราลาออกซะได้ สู้อยู่ให้แม่นมันกระอักกระอ่วนเล่นดีกว่า
และโปรดรับรู้ ต่อให้คุณเป็นเบอร์ 1 ในองค์กร ไม่มีคุณ...รับประกันว่าบริษัทเค้าไม่เจ๊งแน่ ๆ จ้า
อีกเคสที่น่าสนใจ คือถ้าเป็นผู้บริหารระดับกลางถึงสูงที่ต้องแบกรับความรับผิดชอบในบทบาทหน้าที่เยอะ และแน่นอนว่านอกจากเครียดเรื่องงานแล้ว ลมเพลมพัดทำให้วาระนี้ต้องเครียดเรื่องเจ้านาย โดนการเมืองในที่ทำงานเล่นงาน จนเกิดความเครียดสะสม มันสะสมมากจนจะทำให้เกิดปัญหาทางสุขภาพใจ
สุขภาพจิตเสื่อม
จนมันลามมาทางกายได้ เพราะความเครียดทำให้เรานอนไม่พอ ร่างกายก็อ่อนเพลีย เกิดโรคภัยได้เมื่ออายุมากขึ้น ตรงนี้ควรจะลองไตร่ตรองดูว่า...
ถ้าเราลาออกไปพักกาย พักใจ เรามีเงินเก็บเพียงพอในช่วงพักกายใจหรือยัง มีเท่าไร เพียงพอที่จะรับผิดชอบกับครอบครัวได้ 6-8 เดือนหรือไม่ แล้วครอบครัวเรารับได้ไหม
ลาออกแล้วแน่ใจนะว่าจะไม่เครียดกว่าเดิม?
ศักยภาพเราล่ะ มาตรฐานพอที่จะได้งานใหม่ในเวลาที่รวดเร็วหรือเปล่า
ถ้าพร้อมแล้ว ... ก็ลาออกเลยถ้าคิดดีแล้ว
☝🏻✨ไม่สมควรลาออกเพราะต้องการความสะใจ มันไม่มีประโยชน์
ถ้าเลือกได้ อยากให้หมั่นอัพ resume หรือ LinkedIn ไว้ล่วงหน้า เพราะระดับบริหารส่วนมากไม่ได้ไปสัมภาษณ์ครั้งเดียวแล้วได้งาน บางทีเงินเดือนยิ่งเยอะ ความเสี่ยงยิ่งสูง ควรมีเงินเก็บสำรองไว้บ้าง
ทั้งหมดนี้ขอให้ทุกท่านคิดให้ดี คิดให้รอบคอบ
ทำงานทุกที่ก็ล้วนแต่กดดันทั้งนั้น อดทนได้ก็อดทนไปก่อน แต่อดทนแบบมีแผนรองรับก็แล้วกัน..อย่างน้อยๆก็ทนกันอีกหน่อย นึกถึงโบนัสเข้าไว้ (แม้อาจจะน้อยนิด แต่ก็เป็นสิ่งที่ควรจะได้🤪)
ขอให้สติจงอยู่กับชาวเราทุกคน✨😌
#มาเล่า
โฆษณา