27 พ.ย. 2018 เวลา 02:55 • สุขภาพ
ถ้าอีกสี่เดือนจะต้องตาย… คุณจะไปทำงานไหม?
นี่เป็นเรื่องราวของสามีภรรยาคู่นึง “อาคิโอะ” เป็นฝ่ายชาย และ “คุริโกะ” เป็นฝ่ายผู้หญิง
เรื่องราวที่เสมือนดังกับเป็นละครเวทีโดยเริ่มจากอาคิโอะซังป่วยเป็นมะเร็งหลอดอาหาร… ฝ่ายภรรยาที่คอยดูแลสามีก็ประคบประหงมเต็มที่ อาคิโอะเป็นซาลารี่แมนที่นอกจากจะชอบทำงานแล้ว ยังชอบกินเป็นชีวิตจิตใจ แต่ตั้งแต่ผ่าตัดมา ทำให้อาคิโอะเคี้ยวอาหารได้ยากกว่าเดิมมาก.. ทำให้คุริโกะซังนอกจากจะต้องดูแลสามีเรื่องร่างกายและจิตใจแล้ว เธอยังต้องรังสรรอาหารที่ทำให้อาคิโอะทานได้ง่ายขึ้น… แต่ยังอร่อยเหมือนเดิม
ตัวอย่างอาหารที่คุริโกะทำให้อาคิโอะทาน เนื้อไก่ยัดไส้หัวผักกาด
เรื่องราวเหมือนจะไปในทางที่ดี… ถ้าปลายทางข้างหน้าไม่ใช่แบบนี้
เพราะหลังจากได้รักษาตัว อาคิโอะกลับมาทำงานได้ คุริโกะเล่าว่าอาคิโอะดีใจราวกับปลากระดี่ได้น้ำ ฟันปลอมที่หมอเสนอให้ก็ทำให้อาคิโอะ ทานอาหารง่ายขึ้น
แต่หลังจากกลับไปทำงานได้เพียงหนึ่งเดือน… จู่ ๆ อาคิโอะก็เบื่ออาหารขึ้นมาพร้อมกับล้มป่วย
คุณหมอแจ้งว่ามะเร็งกลับมาหาอาคิโอะอีกครั้ง คราวนี้เชื้อวิ่งแพร่ตามต่อมน้ำเหลืองแล้ว… อาคิโอะซัง
—– จะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียงสี่เดือน แต่อาคิโอะก็ยังไปทำงาน
พวกเราเองคงไม่เข้าใจและไม่มีวันรู้จริง ๆ ว่าถ้าเราเหลือเวลาบนโลกใบนี้อีกเพียงสี่เดือน เราจะคิดและจะทำอะไร
จากบ้านถึงสถานีรถไฟใช้เวลาเดินประมาณสิบนาที… แต่เมื่ออาคิโอะป่วย เขาต้องเดิน ๆ พัก ๆ 7-8 ครั้งกว่าจะไปถึงสถานี จากสิบนาทีกลายเป็นต้องใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง!!
แม้แต่คุริโกะเองก็ตั้งคำถามขึ้นมาว่าจะไปทรมานทำไม… แต่สิ่งที่คุริโกะเข้าใจคือ อาคิโอะอยากจะจดจำอากาศของทุกเช้าวันทำงาน กลิ่นต้นไม้ใบไม้ระหว่างทางที่เขาเดิน รวมถึงอยากจะได้อยู่กับ “ความปกติธรรมดา” ของชีวิตประจำวันให้นานที่สุดเท่าที่ชีวิตนี้จะทำได้
ด้วยร่างกายและข่าวเรื่องมะเร็งของอาคิโอะ งานของเขาที่ทำงานเหลือน้อยลง แต่อะไรที่เขายังพอทำได้ อาคิโอะยังขอทำทั้งหมด อาคิโอะมีความคิดว่างานไม่ใช่ชีวิต แต่งานทำให้เรามีชีวิต
หากผมไม่อยู่แล้ว ฝากภรรยาผมด้วย
อาคิโอะสร้างแพลนกินเลี้ยงลงตาราง excel เพื่อร่ำลากับทั้งเพื่อน ๆ ในวัยเรียนวัยทำงานอย่างจริงจัง…เขาชวนเพื่อนของเขาและระบุเลยว่าอยากกินร้านนี้ ร้านไหนแน่นอนไม่มีใครปฎิเสธอาคิโอะ
ทุกครั้งอาคิโอะจะเอาภรรยาคุริโกะซังไปงานเลี้ยงด้วยเสมอ ในงานเลี้ยงจะพูดกันแต่เรื่องที่สนุกสนาน อาคิโอะกล่าวชมคุริโกะที่คอยดูแลเขามาเสมอ…
และในตอนท้ายของงานอาคิโอะมักจะขอเพื่อน ๆ ของเขาว่าเมื่อผมไม่อยู่แล้ว… ช่วยติดต่อกับภรรยาเขาด้วย ไม่อยากให้คุริโกะซังเหงา
เพื่อนบางคนรับคำทั้งน้ำตา…แต่ทุกครั้งอาคิโอะจะเป็นคนนำเปลี่ยนโหมดอารมณ์ ให้พวกเขาได้ร่ำลากันด้วยเสียงหัวเราะเสมอ
อยากไปหยิบของที่โต๊ะตัวเอง
เพราะมะเร็งไม่เคยปราณีใคร… ท้ายที่สุดคุณหมอก็ออกคำสั่งเด็ดขาด ไม่ให้อาคิโอะไปทำงาน
จนมาวันนึงอาคิโอะชวนคุริโกะซังไปทานข้าวหน้าอานาโกะ ที่ร้านใกล้ ๆ บริษัทตัวเอง
จากคำบอกเล่าของภรรยานั่นเป็นมื้ออาหารที่ดีทีสุดมื้อนึง อาคิโอะและภรรยาโรยหน้าด้วยรอยยิ้ม… และเมื่อออกมาจากร้าน อาคิโอะกลับขอขึ้นมาว่า
“ยังมีของใช้ส่วนตัวในโต๊ะผมที่บริษัทอยู่ อยากขึ้นไปหยิบ”
คุริโกะเข้าใจทันทีว่าที่อาคิโอะชวนมากินข้าว… วัตถุประสงค์หลักวันนี้ไม่ใช่อยากกินอานาโกะ แต่อยากไปบริษัทนี่แหล่ะ!!
เพราะบริษัทก็อยู่ตรงหน้าแล้วคงห้ามอะไรไม่ได้
คุริโกะเลยช่วยเข็นรถเข็นเข้าไปในบริษัทให้
ในวันนั้นราวกับอั้ม พัชราภา มาเยี่ยมบริษัท… ตั้งแต่ประชาสัมพันธ์ เพื่อนร่วมงานทุกชั้น วิ่งลงมาทักทายอาคิโอะเป็นการใหญ่ บางคนก็ร้องไห้
คุริโกะถึงเข้าใจว่าทำไมสามีของเขายังอยากมาทำงานทั้ง ๆ ที่เขาเหลือเวลาบนโลกใบนี้ ไม่กี่เดือน…
อาคิโอะ ยังอยากพบหน้าเพื่อน… ยังอยากเห็นพวกเขาด้วยตาตัวเองอยู่
และสิ่งที่สำคัญที่สุด…. นั่นคือความหวัง
ช่วงสุดท้ายอาคิโอะยังซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ ซื้อเครื่องเสียงชุดใหม่ จัดใหญ่ไฟกระพริบ ซื้อตั๋วคอนเสิร์ตวงที่คุริโกะชื่นชอบ ทั้ง ๆ ที่เลยกำหนดเวลาที่หมอบอกไประดับนึง…
อย่างที่บอกเราไม่มีวันรู้และเข้าใจว่าคนที่เหลือเวลาบนโลกใบนี้อีกไม่กี่เดือน เขาจะคิดและอยากทำอะไร… แต่คุริโกะรู้แน่ ๆ ว่าอาคิโอะไม่ทิ้งความหวังในการมีชีวิต
คุริโกะพูดถึงเรื่องราวของสามีในทุกโอกาส เธอพยายามสื่อให้เห็นถึงคุณค่าที่ได้มีชีวิต หากยังมีชีวิตอยู่ก็ต้องใช้ชีวิต… และต้องเป็นชีวิตที่มีความหวังด้วย
อาคิโอะเคยบอกกับคุริโกะว่าชีวิตของเขามีความสุขเหลือล้น… ได้มีเพื่อนที่รัก ได้กินในสิ่งที่อยากกิน ได้ใช้ชีวิตที่อยากใช้ ได้ชื่นมื่นกับคุณค่าของความปกติและธรรมดาของชีวิต และได้กอดกับคนที่เขารัก
จนถึงวันนี้.. อาคิโอะจากโลกนี้ไปแล้วเป็นหลักปี…
…และนี่คือชีวิตของซาลารี่แมนคนนึงในญี่ปุ่นที่ถูกนำมาแชร์ในช่วงเดือนที่ผ่านมา
ปัจจุบันคุริโกะยังมีเพื่อนอยู่รายล้อม เธอนำความรู้และประสบการณ์ตอนที่ดูแลสามีโดยเฉพาะเมนูอาหารที่เธอทำเพื่ออาคิโอะ ตอนประสบปัญหาในการเคี้ยวและกลืนอาหาร เพราะเชื่อว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับคนไข้รายอื่นเช่นกัน
ไข่ลวกโปะบนซุปซอสมะเขือเทศ
พาสต้าซอสครีม โรยท็อปปิ้งที่กลืนง่าย
ข้าวต้มที่เอาซุปมันกุ้งมาผสมในบทความบอกว่าจะหอมกลิ่นกุ้งมาก
พุดดิ้งฟักทอง คุริโกะบอกว่าใช้เวลาทำแค่ไม่กี่นาที ง่ายและคนไข้ก็กินสะดวก
เรื่องโดย : วิน เวธิต https://www.marumura.com/four-months-before-die/
ติดตามเรื่องราวญี่ปุ่นที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ www.marumura.com
โฆษณา