29 พ.ย. 2018 เวลา 23:09 • ธุรกิจ
มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ตอนที่ 9 : Facebook, Inc.
ทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก ๆ เพียงแค่ไม่กี่อาทิตย์ หลังจาก ที่ฌอน มาร่วมชายคาเดียวกับมาร์ค นั้น ถึงตอนนี้ด้วยสถานการณ์ทุกอย่าง รวมถึงการเติบโตอย่างฉุดไม่อยู่ของ facebook มันถึงเวลาแล้วที่ต้องมีการเลือกนักลงทุน เพื่อมาสานต่อให้บริษัทนี้ กลายเป็นบริษัทหน้าใหม่ที่จะช่วยพลิกโฉม วิถีชีวิต ของคนทั้งโลกได้ ผ่านเครือข่ายสังคมอันทรงพลังอย่าง thefacebook
Facebook, Inc.
ฌอน ไม่เคยสงสัยในความอัจฉริยะของมาร์คเลย แต่ ความทะเยอทะยาน การที่มาร์ค แทบจะใช้เวลาแทบจะทุกนาที อยู่กับ thefacebook ที่ตอนนี้ มันกำลัง จะเติบโตก้าวข้ามไปอีกขั้นหนึ่ง ซึ่งฌอนนั้นได้ตัดสินใจแล้วว่าควรที่จะเปิดรับเงินลงทุนจริง ๆ จัง ๆ จากนักลงทุนได้แล้ว
สิ่งหนึ่งที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาของมาร์ค ให้ตัดสินใจรับเงินลงทุน เร็วขึ้น ไม่น่าเชื่อเลยจริง ๆ ว่าจะมาจากสาเหตุการทะเลาะกันกับ ผู้ร่วมก่อตั้ง thefacebook อย่าง เอดูอาร์โด ซึ่ง  ฌอนก็แทบจะไม่เชื่อว่าทุกอย่างมันจะรวดเร็วถึงเพียงนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้เขาคิดว่าอย่างน้อย ต้องใช้เวลาตลอดปิดซัมเมอร์นี้เป็นอย่างน้อย ในการที่ดึงมาร์ค ให้มายืน ณ จุดนี้ แต่กลายเป็น เอดูอาร์โด ที่เป็นตัวผลักดัน ให้มาร์ค ตัดสินใจที่จะพา thefacebook ก้า่วไปข้างหน้าด้วยตัวของเขาเองแทน
mark zuckerberg และ eduardo saverin
ซึ่งในสายตาฌอนแล้วนั้น ยังเห็นว่า มาร์คนั้น พยายามที่จะมีเหตุผลกับเพื่อนมากที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้แล้ว  แต่จุดแตกหัก คงเป็นการก้าวล้ำเส้น ที่เป็นเส้นที่มาร์คขีดไว้ชัดเจนว่า ใครที่มาทำให้ thefacebook เสี่ยงต่อความเสียหาย เหมือนแทบจะเป็นการฆ่าเขา ที่อุตส่าห์พยายามปลุกปั้นกันมา ยอมอดหลับอดนอน เป็นเวลามากว่าครึ่งปีแล้ว ซึ่งมันอาจจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่มาร์ค อุตส่าห์ฝ่าฟันมา ซึ่งมาร์ค มองว่ามันเป็นการกระทำของเด็ก ๆ แล้ว ไม่ใช่มืออาชีพเขาทำกัน เหมือนที่ เอดูอาร์โด พยายามอ้างความเป็นมืออาชีพมาตลอดในก่อนหน้านี้
สิ่งแรกที่ด่วนที่สุดที่มาร์ค ต้องทำคือการจดทะเบียนบริษัทใหม่ ตามคำชี้แนะของฌอน เพื่อปกป้อง thefacebook ไม่ให้มีโอกาสถูกทำร้ายจากเอดูอาร์โดอีก แม้ว่ามันจะเสี่ยงต่อการฟ้องร้องภายหลังก็ตาม แต่มาร์ค ก็จำเป็นต้องทำ และต้องทำการปรับโครงสร้างบริษัทเสียใหม่ แม้ตอนที่ เอดูอาร์โด ทำการอายัติเงินทั้งหมดนั้น มาร์ค ได้ทำการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการ รวบรวมเงินทั้งหมดที่มี ที่มาจากบัญชีออมเงินส่วนตัวของมาร์ค เอง เพื่อให้ server นั้นสามารถรันต่อไปได้อีกสักพัก
ทีมงานปั่นงานกันแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน
แต่การที่บริษัทยิ่งเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากกระแสความแรงของ thefacebook มันไม่ใช่แค่เพียง server เท่านั้น ที่จะมาทำการหล่อเลี้ยงให้ thefacebook เดินต่อไป แต่ตอนนี้มันต้องใช้กำลังคนเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม เพราะเท่าที่มีอยูู่นั้น เริ่มจะเอาไม่อยู่แล้ว ทุกคนทำงาน overload กันหมด มันไม่ส่งผลดีในระยะยาวอย่างแน่นอน
ถึงเวลาต้องใช้ทางเลือกสุดท้ายพึ่งระบอบยุติธรรม
และปัญหาอีกอย่างที่เข้ามารุมเร้ามาร์คคือ สองพี่น้อง winklevoss นั้นได้ว่าจ้างบริษัททนายความที่มีชื่อเสียง โดยส่งจดหมายมายังมาร์ค เพื่อให้รับรู้ถึงกระบวนการที่จะเข้าสู่การฟ้องคดี เพื่อดำเนินคดีทางกฏหมายอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งถึงนาทีนี้นั้นมาร์ค ก็ต้องมีทีมกฏหมายของบริษัทตัวเองมาสู้ในส่วนนี้ด้วยเหมือนกัน อันจะนำมาซึ่งค่าใช้จ่ายอีกมากโข และการขายกิจการนั้นไม่ใช่ทางเลือกแรกของมาร์คเลยด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้น ต้องหานักลงทุนโดยด่วนที่สุด
Facebook, Inc.
ในที่สุดก็ถึงเวลาของฌอนได้ออกโชว์บ้างแล้ว การใช้เส้นสาย หรือ connection ทางธุรกิจต่าง ๆ ที่เค้ามี แม้ก่อนหน้านี้จะพบปะกับนักลงทุนมามากมาย และมีท่าทีสนใจที่จะลงทุน แต่ทางเลือกที่ดีที่สุดที่ฌอน แนะนำ คือ ปีเตอร์ ธีล ผู้ร่วมก่อตั้ง paypal หนึ่งในบุคคลที่ได้ยอมรับในฐานะผู้ปฏิวัติระบบการชำระเงิน online ซึ่งตอนนี้เป็น ประธานของบริษัท คลาเรียม แคปปิตอล กองทุนเพื่อผู้ประกอบการหรือ startup หน้าใหม่ ซึ่งมีเงินลงทุน กว่าหลายพันล้านเหรียญในมือ
ปีเตอร์ ธีล และมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก มีอะไรหลาย ๆ อย่างที่เหมือนกันมาก
และสิ่งหนึ่งที่สำคัญ คือ มาร์ค นั้นเปรียบเสมือนภาพเหมือนของ ปีเตอร์ ธีล ทั้งคู่มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เหมือนกันอย่างมาก ทั้งการพูดเร็ว และความเป็นอัจฉริยะมาตั้งแต่เด็ก ไม่มีอะไรจะลงล็อคได้ขนาดนี้อีกแล้ว
เคยร่วมกับ elon musk สร้าง paypal ปฏิวิตการชำระเงินออนไลน์มาแล้ว
ในที่สุดการพบกันของ มาร์ค  , ฌอน และ ปีเตอร์ ธีล ก็มาถึง เป็นการพบกันครั้งแรกของหนึ่งผู้ปฏิวัติที่เคยทำ paypal สำเร็จมาแล้ว กับ อีกหนึ่งอัจฉริยะ อย่าง มาร์ค ที่กำลังจะดำเนินรอยตาม ปีเตอร์ ธีล ด้วยการที่จะทำการปฏิวัติ เครือข่ายสังคมออนไลน์  ซึ่ง ธีล ก็พอจะมองเห็นและเข้าใจได้ถึงศักยภาพของ thefacebook ว่าจะพลิกโฉม วงการได้อย่างไร
1
ส่วนเรื่องเงินนั้น ปีเตอร์ ธีล ให้ทุนตั้งต้นมา 500,000 เหรียญ แม้จะดูไม่มากมาย ถ้าเมื่อเทียบกับ เมื่อครั้งมาร์ค สร้าง synapse  และยักษ์ใหญ่อย่าง microsoft เคยมาขอซื้อถึง 1 ล้านเหรียญ มาร์ค ยังเคยปฏิเสธมาแล้ว แต่ตอนนี้เงิน 500,000 เหรียญ มันก็พอให้สามารถหล่อเลี้ยง thefacebook ไปได้ 3-4 เดือนก่อนที่จะมีการระดมทุนรอบใหม่ ซึ่งหากยังเติบโตในลักษณะนี้ก็มีโอกาสที่มูลค่าบริษัทจะสูงขึ้นไปอีกเรื่อย ๆ
โดยนับจากนี้ บริษัทจะถูกเรียกชื่อใหม่ว่า facebook ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการก่อตั้งบริษัทใหม่ Facebook,Inc  โดยสิ่งที่ ธีลจะได้จากเงินลงทุนแรกเริ่ม 500,000 เหรียญ คือ หุ้น 7%  และ 1 ที่นั่งในเก้าอี้กรรมการอำนวยการ โดยส่วนที่เหลือจะถูกควบคุมโดยมาร์ค   ซึ่งมาร์ค ยังถือว่ามีอำนาจเบ็ดเส็จใน facebook เหมือนเดิม ซึ่ง ฌอน กับมาร์ค คิดว่า ไม่สามารถหาข้อเสนออะไรที่ดีกว่านี้ได้อีกแล้ว
เปลี่ยนเป็น facebook inc ที่เป็นบริษัทมืออาชีพ จริง ๆ จัง ๆ เสียที
ตอนนี้ปัญหาใหญ่คือ เอดูอาร์โด ไม่มีส่วนรับรู้เห็นกับการกระทำดังกล่าวของมาร์ค เลย เพราะมาร์คทำในนามบริษัทใหม่ที่แอบไปจดใหม่หลังจาก การถูกระงับเงินจากเอดูอาร์โด ซึ่งมองจากตรงนี้นั้น เหมือน เอดูอาร์โดจะไม่ข้องเกี่ยวกับ facebook อีกต่อไปแล้ว
แต่สุดท้ายเพื่อนก็ยังคือเพื่อน ยังไงมาร์ค ก็ยังคงให้ เอดูอาร์โด ยังคงสัดส่วนไว้ 30%  รวมถึงฌอน ก็จะได้หุ้นจากการปรับโครงสร้างใหม่ครั้งนี้ด้วย แต่มันมีข้อแม้ว่า จะมีการออกหุ้นเพิ่มทุนตามความจำเป็นของสถานการณ์ เพื่อให้บริษัทเดินหน้าต่อไปได้  ซึ่งตอนนี้กลายเป็นบริษัท Facebook ที่เป็นมืออาชีพเต็มตัว ไม่ใช่ โครงการโปรเจคนักศึกษา ที่ทำเล่น ๆ กันที่ฮาร์วาร์ดอีกต่อไป
มาร์ค , ฌอน และ ดัสติน ยังอยู่ต่อที่ ซิลิกอน วัลเลย์
ซึ่งหมายความว่า  ทั้ง มาร์ค , ดัสติน และ ฌอน นั้น ยังคงทำงานต่อเนื่องที่ ซิลิกอน วัลเลย์ เพื่อให้บริษัทเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง พวกเขาก็มีสิทธิ์ที่จะได้รับหุ้นในสัดส่วนที่มากกว่า และเช่นเดียวกัน หากเอดูอาร์โด ทำงานในนิวยอร์ค โดยการหาโฆษณาได้มากขึ้น  และเป็นผลดีกับบริษัท เขาก็จะได้ในส่วนนั้นไป แต่หากเขาหยุด หรือ ไม่ทำ ก็มีสิทธิ์ที่จะลดทอนสัดส่วนการถือหุ้นของเขาลงไปเรื่อย ๆ  ซึ่งเป็นเหมือนกันทุกบริษัทที่ใช้แนวทางนี้ในการจัดการ หากต้องการเงินทุนเพิ่มอีกในอนาคต
สำหรับมาร์คนั้น ตอนนีสิ่งนึงที่ชัดเจนแน่นอนแล้ว คือ เค้าคงไม่กลับไปเรียนต่อที่ ฮาร์วาร์ด หลังปิดภาคฤดูร้อนอย่างแน่นอน คงต้องดร็อปเรียนไปชั่วคราว และมา โฟกัส ที่ facebook อย่างเต็มตัว ซึ่ง หาก facebook มันเกิดไม่ work ขึ้นมาจริง ๆ มาร์ค ก็สามารถที่จะกลับไปเรียนต่อได้
ตัดสินใจ ดร็อปเรียนที่ ฮาร์วาร์ดชั่วคราว
และตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดที่มาร์คต้องทำคือ ต้องจัดการเรื่อง เอดูอาร์โด ให้ตกลงในรายละเอียดของบริษัทใหม่ ให้เรียบร้อย ทำให้ทุกอย่างมันเคลียร์ อย่างที่ เอดูอาร์โดต้องการ แม้จะเป็นเรื่องยากในการคุย และมีรายละเอียดเรื่องข้อกฏหมาย อีกมากมาย ที่ไม่เป็นเรื่องง่ายในการพูดเคยเลย แต่ตอนนี้ facebook ต้องเดินต่อไปแล้ว บริษัทที่เกิดขึ้นที่หอพักในฮาร์วาร์ดมันจบไปแล้ว ตอนนี้เป็นการออกสตาร์ทรอบใหม่ ในฐานะบริษัทมืออาชีพจริง ๆ ซึ่งตอนนี้มาร์คนั้น รู้ดีว่ากำลังขับเคลื่อนอะไรบางอย่างที่ใหญ่โตมาก ซึ่งมันจะเปลี่ยนแปลงโลก มันคือการเปิดข้อมูลข่าวสาร มันคือเสรีภาพ มันเป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์ ในยุคใหม่อย่างแท้จริง
แล้วมาร์ค จะจัดการกับเอดูอาร์โดอย่างไร ที่ตอนนี้ที่เขายังไม่รับรู้ว่าบริษัทเดิมอย่าง thefacebook นั้นมันจบลงแล้ว ตอนนี้มันกลายร่างเป็น Facebook, Inc. บริษัทใหม่ที่เป็นมืออาชีพอย่างแท้จริงแล้ว เอดูอาร์โด จะดำเนินการอย่างไรกับเรื่องที่มาร์คทำทั้งหมดนี้เพียงคนเดียวโดยไม่ปรึกษาเขา  และ Facebook, Inc. บริษัทใหม่ที่เป็นมืออาชีพเต็มตัวจะเดินไปทางไหน? โปรดติดตามตอนต่อไป
ปล. แม้บริษัทจะเปลี่ยนเป็น Facebook, Inc. แล้วนั้น แต่ตัวเว๊บไซต์ยังใช้ชื่อ thefacebook.com อยู่ต่อ จนมาร์คสามารถที่จะซื้อ domain facebook.com จาก AboutFace Corporation ได้ในปี 2005 โดย domain ดังกล่าวมีมูลค่าอยู่ที่ 200,000 เหรียญ
อ่านตอนที่ 10 : Death Note
Credit แหล่งข้อมูลบทความ
ช่องทางติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา