“Today I will be free after 4 oclock but Im not sure whether you call me or not”
**จะสังเกตว่า ถ้าอิ๋งจะเขียนว่า
“Today i will be free after 4 oclock but im not sure if you call me or not”
- ก็ใช้ได้ ; ดังนั้น if ... or not // กับ whether ... or not จะใช้แทนกันได้นะคะ เหมือนกันเป๊ะเลยยยยย ต่างกันแค่ ตัวแรกที่เค้าให้จะเป็นภาษาเขียน(ทางการ; ในอีเมล) ส่วน if ... or not เป็นภาษาพูดนะคะ
4. เวลาฉันพูดว่า
“ฉันไม่ชอบกินถั่วงอก”
I dont like bean sprouts
อีกคนจะบอกว่า
“เหมือนกันเลย” (คือหมายถึง ไม่ชอบกินเหมือนกันเลย
ใช้ “me either” / me too(ก็ได้) แต่คนเมกัน หรือยุโรป เอาจริงๆไม่ค่อยมีใครพูด me too เลยยยยย ในกรณีนี้นะคะ******
สรุป ก็คือ ถ้าได้ยินใครพูดเป็นประโยคปฏิเสธก่อนหน้า แล้วเราก็ เหมือนกัน ควรใช้ me either.
ถ้า
Do you want to cream in Coffee ?
No cream for me, Thanks
จะไม่เอา ครีมในกาแฟเหมือนกัน ก็จะต้องบอกว่า
Me neither (ก้ไม่เอา)
คือ ทำไมใช้ neither คือ แค่ประโยคปฏิเสธก่อนหน้า มันไม่มีคำว่า not (😁😁😁แค่นั้น)
ย้ำอีกที!! ถ้าประโยคปฏิเสธที่เราได้ยินก่อนหน้า มันมี คำว่า not >>เวลาเราจะตอบ ว่าเราก็ไม่... เหมือนกัน คือต้องใช้ me either
ถ้าปฏิเสธ แบบไม่มี not (แต่เป็น noแทน) ก็ใช้คำว่า me neither จ้าาาาาาาาา
คำว่า me too ก็แบบใช้ตอนที่เราเห็นด้วย ตอนที่มันเป็นประโยคธรรมดา ที่ไม่ใช่ประโยคปฏิเสธนะคะ