5 ธ.ค. 2018 เวลา 06:01
ลุงเสรี หอมมาก คนบุญผู้หยาบช้า
ชื่อนี้หลายๆคนอาจจะไม่คุ้นหูแต่ถ้าใครเป็นแฟนรายการ ”คนค้นฅน” แล้วละก็
จะต้องจำตอนๆหนึ่งของรายการเมื่อ 10 ปีที่แล้วได้เป็นอย่างดี
เป็นตอนที่ทางรายการนำเสนอชีวิต ของคนๆหนึ่ง นั้นก็คือ
ชีวิตของคุณลุงเสรี หอมมาก ที่ทางทีมงานจะต้องเหนื่อยกับการเซ็นเซอร์คำมากที่สุดตอนหนึ่งเลยก็ว่าได้
ต่อไปนี้อาจจะมีคำสมัยพ่อขุมรามอยู่บ้างนะครับ เพื่ออรรถรส ในการอ่านส่วนคำหยาบผมจะละไว้ในฐานที่เข้าใจครับ
ลุงเสรี หอมมาก เป็นคน อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี
ผู้มีชีวิตอยู่ด้วยคำ พูดหยาบๆ
แต่งกายด้วยเครื่องแบบเร้าใจ
นั่นคือรองเท้าบู๊ตยาง กับกางเกงขาสั้น มัดเอวด้วยเชือกเก่าแทนเข็มขัด และเสื้อหนัง(กำพร้า) แกบอกสรรพคุณของ เครื่องแบบว่า...
"กูไม่รู้หรอกว่าราคา มันเท่าไหร่ แต่ว่ามันสะดวกสบาย
ปลดตะขอก็เี่ยวได้ เลย ไม่ต้องเสียเวลา"
ลุงแกเป็นคนดังของตลาดบ้านโป่งเลยก็ว่าได้
เพราะชาวบ้านในตลาดนั้นไม่มีใครไม่รู้จัก ลุงเสรี
สาเหตุก็เพราะ ลุงแกจะชอบมาเรี่ยไรขอของทำบุญให้กับวัด
โดนที่แกมักจะบอกว่า “กูไปหลอกเขามา อย่าใช้คำว่าเรี่ยไร กูไปขอ”
โดยเอกลักษณ์ของแกก็จะมา กับรถเข็นคู่ใจ
พร้อมกับคำพูดจาที่อ่อนหวาน.....
โดยที่ชาวบ้านในตลาดบ้านโป่งนั้น ก็เชื่อและมั่นใจที่จะทำบุญกับลุงเสรี
เพราะว่าชาวบ้านทุกคนรู้ว่า
ข้าวของที่ชาวบ้านทำบุญไปนั้นของทุกชิ้นไปถึงวัดทั้งหมด
ลุงเสรี ไม่เคยเอามาเป็นของตนเองเลย
ซึ่งชาวบ้านให้สัมภาษณ์ว่า ”ลุงทำแบบนี้มาเป็น 40 ปีแล้ว"
ตนจะมั่นใจถ้าทำบุญกับลุงเสรี ถ้าเป็นพระมาเองต้องรู้ว่าเป็นพระวัดไหน
เพราะสมัยนี้มีพระปลอมเยอะ
ถึงแม้ว่าบุคลิกกับการแสดงออกทางว่าจาจะหยาบช้า
แต่ชาวบ้านในตลาดนั้นต่างบอกว่า”คุณลุงเสรีนั้นเป็นคนดีของบ้านโป่งเลย"
ไม่ว่าจะมีงานบุญที่ไหนก็ตามในอำเภอนั้น
ลุงเสรีจะต้องไป
ลุงเสรีจะไปช่วยงานทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นกวาด ถู ล้างจาน เก็บของ เก็บขยะ คุณลุงเสรีทำหมด
โดยคุณลุงมักจะบอกว่า “ที่ไปอะ ไปหากิน มันมีข้าวให้กิน"
ถึงแม้ชาวบ้านหรือเจ้าของงานจะพยายามให้เงินค่าจ้างกับลุง
แต่มักจะโดนลุงเสรีด่ากลับมาด้วยคำหยาบคายตลอด
"และยิ่งถ้าใครมีงานบุญงานกุศลแล้วไม่บอกเขา ก็จะโดนลุงเสรีด่า ยิ่งถ้าเป็นคนรู้จักกันก็ยิ่งโดนมากกว่าคนอื่น
1
หรือถ้าใครจ้างลุงให้มาช่วยงานด้วยเงิน บางทีลุงก็จะไม่มาเลย"
นี้คือคำบอกเล่าจากชาวบ้าน
โดยสาเหตุที่คุณลุงเสรีต้องไปร่วมงานนั้นคุณลุงให้เหตุผลว่า
“ด้วยจิตวิญญาณของพระท่านดึงดูดมาให้กูต้องไปเือก"
“ถ้าไม่ได้ไปก็จะ หงุดหงิด กลุ้มใจ พะว้าพะวง"
“ต้องไปให้เขาใช้บริการกูกูก็สบายใจ"
และเมื่อว่างเว้นจากงานช่วยสังคม(ซึ่งว่างน้อยมาก)
ลุงเสรีก็จะนำเศษเทียนที่เก็บมาจากวัด
4
นำมาหลอมเป็นเทียนพรรษา ที่บ้านของตัวเอง
เพื่อจะได้นำไปถวายวัดต่อไป
และตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่รายการคนค้นฅน
ได้ติดตามชีวิตของลุงเสรี
นั้นไม่เคยได้ขึ้นไปชั้นสองของบ้านเลย
เพราะลุงเสรีไม่ยอมให้ขึ้น
แม้แต่หลานของตัวลุงเอง ก็ไม่เคยได้ขึ้นไป มีแต่ตอนที่ไปทำไฟฟ้าให้ลุงเสรีช่วงแรกเลยเท่านั้นที่ได้ขึ้น
และถึงแม้ไฟจะเสียหลานจะขึ้นไปซ่อมให้ลุงก็ไม่ยอมให้ขึ้นไป
แต่สุดท้ายจนแล้วจนรอดลุงเสรีก็ยอมใจอ่อนให้ทางรายการได้ขึ้นไป
กลับพบว่าสภาพความเป็นอยู่ของบ้านนั้นเหมือนไม่ได้รับการดูแล
จากเจ้าของบ้านเป็นแรมๆปี
ข้างบนบ้านนั้นมีแต่เศษฝาขวดน้ำ หรือ ถ้าเป็นเราๆนั้นก็จะเรียกว่าขยะดีๆนี้เอง
และก็มีที่นอนและมุงเก่าๆที่ไม่ได้ซักมาเป็นแรมๆปี
แต่ลุงเสรีบอกว่านอนที่นี้สบายสุดแล้ว ไปนอนที่ไหนก็ไม่สบายเท่าที่นี้
สาเหตุที่ลุงเสรีเก็บฝาขวดน้ำไว้นั้นก็เพราะจะเอาไปบริจาคให้กับวัดและโรงพยาบาลเพื่อที่เขาจะได้เอาไปทำขาเทียม
และอีกอย่างที่ทางรายการพบก็คือขวดเหล้า
ซึ่งทางรายการก็ถามว่าลุงดื่มเหล้ารึป่าว
ลุงเสรีก็บอกว่า
ซึ่งเหล้าที่ลุงเสรีได้มา ก็ได้มาจากชาวบ้าน โดยที่ลุงเสรีก็บอกกับชาวบ้านว่าเขาดื่ม
แต่ทั้งที่จริงแล้วลุงเสรีเอาไปให้กับพ่อครัวแม่ครัว
ที่ช่วยในงานต่างๆได้ดื่มเพื่อผ่อนคลายจากการทำงาน
สาเหตุที่ลุงเสรีไม่ทำความสะอาดหรือทำงานบ้านก็เพราะลุงคิดว่าเอาเวลาไปช่วยเหลือสังคมข้างนอกดีกว่า
ส่วนข้างในไม่ต้องไปทำมันหรอก
แม้แต่จะหุ้งข้าวกินลุงยังไม่ทำ ลุงให้เหตุผลว่า ชีวิตเขาไม่ได้ตกต่ำขนาดนั้น
นี้เดินเข้าร้านอาหารก็ได้กินแล้ว โดยเจ้าของร้านก็ให้ลุงทานฟรีๆ เหตุผลก็เพราะแพ้ความดีของลุง
นี้แสดงให้เห็นว่า ลุงเสรี หอมมาก นั้นเป็นที่รักของชาวอำเภอบ้านโป่งมาก
นั้นก็เพราะความดีของลุงเสรีที่มีจิตใจที่ดีงามแม้บุคลิกกับกิริยาภายนอกจะต่ำช้าก็ตาม
ลุงเสรีนั้นเป็นตัวอย่างที่ดีของคำว่า
“อย่าตัดสินคนที่ภายนอก” ได้ดีเลยครับ
ปัจจุบัน ลุงเสรีเป็นผู้ป่วยติดเตียงเพราะประสบอุบัติเหตุตกรถ ตั้งแต่ปี 2557 ครับ
และเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 14 พ.ย.2561 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ พล.อ.ต.วีระพันธ์ ภูวจินดา เป็นผู้แทนพระองค์ เชิญแจกันดอกไม้และกระเช้าสิ่งของพระราชทานแก่ นายเสรี หอมมาก อายุ 75 ปี จิตอาสาที่ชาวบ้านรู้จักกันในนาม “ลุงเสรี คนบุญผู้หยาบช้า” ณ บ้านเลขที่ 123 หมู่ 3 ต.เบิกไพร อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี
โดยที่ทางครอบครัวไม่ทราบมาก่อนเลยว่าอาการป่วยของนายเสรี จะทราบไปถึงพระเนตรพระกรรณ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ประสานงานเข้ามาว่าจะมีผู้แทนพระองค์นำสิ่งของพระราชทานมามอบให้ สร้างความปลื้มปิติ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ทำให้ทุกคนในครอบครัว โดยเฉพาะลุงเสรี ได้มีกำลังใจที่จะต่อสู้กับโรคร้ายนี้ต่อไป
1
แหล่งข้อมูล: รายการคนค้นฅน
By:markpn
โฆษณา