ยุทธการที่แวร์เดิง สงครามที่ยืดเยื้อ และเสียเลือดเสียเนื้อมากที่สุดในประวัติศาสตร์
ยุทธการที่แวร์เดิงนั้นเป็นการรบที่ยาวนานและเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์โลกในสงครามโลกครั้งที่ 1
กินระยะเวลาเกือบ1ปี ตั้งแต่ 21 กุมภาพันธ์ ถึง 18 ธันวาคม 1916 (9เดือน)
สาเหตุก็คือ ผู้นำของเยอรมันมองว่าศัตรูตัวฉกาจไม่ใช่ฝรั่งเศส แต่เป็นอังกฤษ แต่การที่จะจัดการกับอังกฤษได้นั้น ก็ต้องจัดการกับพวกฝรั่งเศสก่อน
เยอรมันเลยยกทัพไปปะทะกับฝรั่งเศสที่แวร์เดิงบริเวณเนินเขาทางตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส ตรงนั้นจะมีแม่น้ำเมิชขั้นกลางอยู่ และเยอรมันก็เข้ายึดเนินสูง จุดได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ได้อย่างรวดเร็ว
ทำให้ทหารเยอรมันมีจุดยุทธศาสตร์ที่ได้เปรียบกว่าฝรั่งเศสอย่างมาก และแผนของเยอรมันก็คือ บั่นทอนกำลังของฝรั่งเศสให้ได้มากที่สุด
ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ เป็นช่วงฝนฟ้าคะนอง ฝ่ายเยอรมันได้ยึดค่ายดูโอมง(Fort Douaumont)ภายในสามวันแรก และฝรั่งเศสก็เสียไพร่พลไปมากมาย แต่การรุกรานของเยอรมันกลับช้าลง
6 มีนาคม ทหารฝรั่งเศสประมาณ 20 กองพลที่อยู่ในแวร์เดิง ได้ก่อสร้างทางแนวลึกเพื่อรอต้อนรับทหารเยอรมันอย่างอบอุ่น(?) โดนแม่ทัพฝรั่งเศสได้กำชับกับทหารของเขาว่า ห้ามให้ทุกคนถอยเด็ดขาด ให้ตีโต้ตอบพวกเยอรมัน
ซึ่งตอนนั้น พื้นที่ของฝรั่งเศสเสียเปรียบอย่างมากเพราะมันเปิดโล่งต่อการยิงจากปืนใหญ่ของเยอรมัน
แต่ดูเหมือนแผนของพวกเขาจะได้ผล วันที่ 29 มีนาคม ปืนใหญ่ของฝรั่งเศสฝั่งตะวันตกเริ่มระดมยิงใส่พวกเยอรมันทางฝั่งตะวันออก ทำให้ทหารราบเยอรมันเสียชีวิตไปมากมาย
ในเดือนมีนาคมเดียวกันนั้น เยอรมันก็ได้ขยายการรุกรานไปยังบริเวณฝั่งตะวันตก เพื่อยึดพื้นที่สังเกตุการณ์ปืนใหญ่ของฝรั่งเศสที่ยิงข้ามแม่น้ำเมิชใส่เนินสูงที่เยอรมันยึดไว้ในทีแรก
แต่เยอรมันก็ไม่สามารถยึดพื้นที่ตรงนั้นได้นานเพราะฝรั่งเศสได้ส่งกองหนุนมาต้านเอาไว้ทัน ทำให้เยอรมันเปลี่ยนแผนไปโจมตีพื้นที่อื่นก่อน ฝรั่งเศสเลยได้โอกาสทวงคืนค่ายดูโอมง
ทหารฝรั่งเศสก็สามารถยึดค่ายดูโอมงได้บางค่าย แต่ก็ถูกพวกเยอรมันส่งกองกำลังมายึดคืนอีกที แถมฝรั่งเศสยังถูกเยอรมันจับเป็นเชลยอีกจำนวนมาก และเยอรมันรุกหนักขึ้นไปอีก
โดยสลับเข้าตีข้างบนทั้งสองฝั่งของแม่น้ำเมิช และยึดค่ายโว (Fort Vaux)ในเดือนมิถุนายน และรุกหนักเข้าไปอีกเพื่อไปยังจุดหมายของแผนการ นั่นก็คือ เมืองเฟลอรี เดอวอง ดูโอมง (Fleury devant Douaumont) และค่ายโซวีย์ (Fort Souville)
จากการรุกอย่างหนักของเยอรมันเข้าไปที่แนวป้องกันของฝรั่งเศส แต่ก็ไม่อาจต้านทานได้ เมืองเฟลอรีจึงถูกยึด ซึ่งเมืองนี้อยู่ห่างจากแวร์เดิง 4 กิโลเมตร
ทางด้านพันธมิตรของฝรั่งเศสอย่างอังกฤษ เห็นท่าไม่ดี ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด อังกฤษเลยยกพลบุก เกิดเป็นยุทธการแม่น้ำซอม เพื่อหวังจะลดความกดดันจากยุทธการที่แวร์เดิง
ซึ่งมันก็ได้ผล เยอรมันต้องจัดสรรกำลังบางส่วนมายังยุทธการซอม ทำให้แนวป้องกันเยอรมันขณะที่ยึดเฟลอรีลดลง
ทีนี้ก็เกิดการตีกันไป ยึดกันมาระหว่างเยอรมันและฝรั่งเศส เพื่อแย่งเมืองเฟลอรี นับระยะเวลาตั้งแต่ 23 มิถุนายน ถึง 17 สิงหาคม เมืองนี้ก็ถูกตี ถูกยึดเปลี่ยนมือไปมากว่า 16 ครั้งเลยทีเดียว
ในขณะเดียวกัน ทางเยอรมันก็พยายามเข้าตียึดค่ายโซวี่ย์ตั้งแต่กรกฏาคม แต่เพราะกำลังบางส่วนถูกส่งไปยังซอม ทำให้ความพยายามของเยอรมันไม่สำเร็จ ถูกปืนใหญ่ ปืนเบา สารพัดสารเพยิ่งไล่กลับไป วิ่งหนีแทบไม่ทัน
และในเดือนสิงหาถึงธันวาคม ฝรั่งเศสก็ตีโต้ ยึดดินแดน และค่ายที่เสียไปทั้งหมดกลับคืนมาจากพวกเยอรมันได้สำเร็จ
ยุทธการที่แวร์เดิง กินเวลาไปทั้งหมด 303 วัน หรือ 9 เดือน 3 สัปดาห์ และอีก 6 วัน ถือว่าเป็นการรบที่ยืดเยื้อ และยอดผู้เสียชีวิตสูงที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ
ในปี 2000 ผู้เชี่ยวชาญ ฮาเนส เฮีย และ K. นอวแมน (Hannes Heer and K. Naumann)ได้คำนวณความเสียหายไว้ ว่าทีกำลังพลสูญเสียรวม 714,231 นาย แบ่งเป็น ฝรั่งเศส 377,231 นาย และเยอรมัน 337,000 นาย เฉลี่ยคือ เดือนละ 7หมื่นนาย
และเมื่อปี 2014 นายวิลเลียม ฟิลพอต(William Philpott) ได้รวบรวมข้อมูลและคำนวณความเสียหายใหม่ โดยสถิติใหม่ก็คือ กำลังพลสูญเสียรวม 976,000 นาย และถ้ารวมผู้บริสุทธ์ และอีกหลายๆชีวิต ที่อาศัยอยู่บริเวณรอบๆที่เกิดสงคราม ตัวเลขพุ่งสูงถึง 1,250,000 คน!
เฉลี่ยแล้วคือ เดือนละกว่า 138,000 คน!
แม้ว่าสงครามจะเลวร้าย มีการสูญเสียเกิดขึ้นมากมาย เราก็ได้แต่หวังว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก เพราะหลายชีวิตต้องมาตายอย่างไร้ค่า
แต่ดูเหมือนว่า บทเรียนเกี่ยวกับการสูญเสียครั้งนี้ ไม่ได้สอนอะไรให้กับคนบางกลุ่มเลย จนมันเกิดสงครามโลกอีกครั้งตามมา. . .
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
