12 ธ.ค. 2018 เวลา 12:42 • ประวัติศาสตร์
อิคคิวซัง:พระเฒ่าเจ้าปัญหา
อิคคิวซางงงง
จะรีบไปไหนๆ พักเดี๋ยวนึงซี่…
อิคคิวซังตะโกนตอบพระลูกวัดที่จะเร่งตนให้ไปในหมู่บ้านเพื่อหารับจ้างปะซ่อมตุ๊กตา หรืองานอื่นๆ ที่พระนิกายเซนอย่างพวกเขาจะทำได้ ในภาวะบ้านเมืองไม่ค่อยปกติสุข แม้แต่พระก็ต้องพากันดิ้นรน
คิดแล้วก็รู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิต... จะรีบไปตายที่ไหนกันวะเจ้าพวกนี้ เดินมาตั้งไกล พักเดี๋ยวนึงซี่...ว่าแล้วอิคคิวซังก็คว้าน้ำเต้าบรรจุสุราซึ่งเหน็บไว้ที่เอวขึ้นกรอกปาก ก่อนจะนอนเอกขเนก หลับตาพริ้มอย่างมีความสุข
ครับ...นี่คือตัวจริงเสียงจริงของอิคคิวซังในประวัติศาสตร์ แฟนคลับการ์ตูนเรื่องนี้ผมว่ามีมากมายทั่วโลก อายุตั้งแต่เด็กหัดเดินจนถึงพวกตีนกายับเต็มหน้าอย่างผมเป็นต้น
เรามักชินกับภาพของเณรน้อยน่ารัก จิตใจดีมีเมตตา ชอบใช้ปัญญาช่วยเหลือผู้ อื่นจนเป็นที่รักใคร่ของคนทั่วไป ตั้งแต่โชกุนยันชาวบ้านร้านตลาด และพวกเราทั้งหลายที่นั่งดูอยู่หน้าจอโทรทัศน์
ขอบอกไว้ก่อนครับ อิคคิวซังที่ผมจะนำเสนอในบทความนี้ เป็นบุคคลจริงที่มีตัวตนในประวัติศาสตร์และเป็นต้นแบบที่เวอร์ชั่นการ์ตูนนำมาดัดแปลง บทความนี้อาจทำร้ายจิตใจใครหลายคนที่มีอิคคิวซังภาคการ์ตูนเป็นไอดอล ความรู้สึกนั้นเกิดกับผมมาแล้ว
โปรดทำใจดีๆไว้แล้วตามผมมา เราจะพากันย้อนเวลาไปสู่ยุคมุโระมะชิของญี่ปุ่น
3
อิกคิว โซจุนเกิดที่เมืองเกียวโตใน พ.ศ 1937 ชื่อในวัยเด็กคือเซงกิกุมารุ เขาเป็นลูกนอกสมรสของจักรพรรดิโงโคะมะสึกับเจ้าหญิงเทรุโกะจากตระกูลฟุจิวะระ
ซึ่งเป็นธิดาแห่งราชวงศ์ทางใต้
แม้จะเป็นถึงองค์ชาย แต่เซงกิกุมารุก็โชคร้ายตั้งแต่ยังไม่เกิดเนื่องจากท่านแม่เป็นภรรยานอกสมรส(เมียน้อย)และมาจากราชวงศ์ทางใต้ซึ่งเคยเป็นคู่สงครามกันมาก่อน จึงถูกมเหสีและบรรดาสนมใส่ใคล้ต่อจักรพรรดิให้ระแวงเจ้าหญิงเทรุโกะ จนในที่สุดเจ้าหญิงก็ถูกเนรเทศไปอยู่ยังชนบททุระกันดารขณะตั้งครรภ์ลูกชาย
และเมื่ออายุหกขวบก็ตกดวงชะตาอับโชคอีกครั้ง เมื่อโชกุนอะชิคะงะ โยชิมิสึได้ทำการยึดอำนาจจักรพรรดิและสถาปนารัฐบาลโชกุนได้สำเร็จ ทั้งตัวจักรพรรดิ ราชวงศ์และผู้สนับสนุนทั้งหลาย ล้วนกลายเป็นศตรูของโชกุนทั้งสิ้น ถ้าไม่ถูกสังหาร ก็ถูกควบคุมอย่างเคร่งครัด องค์ชายเซงกิกุมารุ แม้จะเป็นแค่โอรสนอกสมรสของพระจักรพรรดิ แต่ก็มิพ้นภัยทางการเมือง เจ้าหญิงเทรุโกะจึงตัดสินใจส่งโอรสไปบวชเป็นเณรยังวัดอังโคะขุจิ เมื่ออายุได้เพียงหกขวบ
หลังจากบวชเป็นเณรก็ได้รับการเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น ‘อิคคิว โซจุน’
อิคคิว โชจุน หรืออิคคิวซังตัวจริงนั้นก็ฉลาดไม่แพ้ในการ์ตูนครับ โดยเฉพาะเรื่องแต่งกาพย์กลอนด่าชาวบ้าน อิคิวเก่งนัก ถึงกับเคยแต่งกลอนวิพากษ์สังคมหน้าไหว้หลังหลอกในวงการศาสนาของญี่ปุ่นในเวลานั้น จนได้รับรางวัลจากท่านโชกุน
ใช่ครับ อิคคิวซังตัวจริงถือเป็นก้างขวางคอชิ้นใหญ่ของวงการศาสนา บรรดานักบวชด้วยกันจึงไม่ชอบอิคคิวและคอยกลั่นแกล้งเสมอๆ ไม่เว้นแม้แต่พระรุ่นพี่ในวัดเดียวกัน
อย่าถือว่าแค่นี้แสบแล้ว...ยังไม่พอครับ
อิคคิวพบรักครั้งแรกกับฮารุยาชะ ซึ่งเป็นนักแสดงเร่(นักบวชในญี่ปุ่นสามารถแต่งงานได้) การได้พบกันนั้นแสนประหลาด หล่อนเข้าช่วยห้ามชาวบ้านที่รุมประชาทัณฑ์อิคคิวซัง เนื่องจากไปยืนปัสสาวะรดพระพุทธรูปริมทาง!
ความรักครั้งแรกจบลงด้วยการที่อิคคิวซังถูกหักอก
อิคคิวซังขึ้นชื่อว่าเป็นพระเสเพล และชอบเดินเข้าซ่องโสเภณีอย่างเปิดเผย
ครั้งหนึ่งอิคคิวซังพยายามช่วยโสเภณีที่ป่วยหนักคนหนึ่ง ด้วยการเสี่ยงชีวิตปีนขึ้นไปเก็บสมุนไพรบนหน้าผามารักษาโสเภณีคนนั้น แม้สุดท้ายจะไม่รอด…
เมื่ออายุได้ 17 ปี อิคคิวซังย้ายมาประจำอยู่ที่วัดไซกินเป็นศิษย์ของหลวงพ่อเคนโอ โซอิ และต่อมา เมื่อหลวงพ่อเคนโออันเป็นที่รักได้มรณะภาพลง อิคคิวซังก็สติแตกคิดโดดน้ำฆ่าตัวตายทว่าก่อนตายก็ได้ตั้งจิตอธิฐาน "ถ้าพระโพธิสัตว์ต้องการให้ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่ก็ขอให้ข้าพเจ้าฆ่าตัวตายไม่สำเร็จ แต่หากชีวิตข้าพเจ้าไร้ซึ่งคุณค่าเสียแล้ว ข้าพเจ้าขออุทิศสังขารให้เป็นอาหารของปลาและสัตว์น้ำ"
หลังจากโดดลงไปในน้ำ ไม่ทันได้ขาดใจอิคคิวซังก็ตะเกียกตะกายขึ้นฝั่ง เพราะนึกถึงคำที่พระมารดาเคยสอน”เป็นลูกผู้ชายต้องอดทน อย่ายอมแพ้…”
เมื่ออายุได้ 23 ปี อิคคิวซังไปฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงพ่อคะโซ โซดน แห่งวัดไดโตคุ อิคคิวใช้เวลาสองปีที่นี่จนสามารถบรรลุปริศนาธรรมของหลวงพ่อคะโช โดยค้นพบแก่นแท้ว่า "เหตุแห่งความทุกข์และความเศร้าหมองที่เกิดขึ้นในชีวิตล้วนเกิดจากจิตที่ เต็มไปด้วยอัตตา"
หลวงพ่อคะโชจะออกเกรียติบัตรการสำเร็จเปรียญธรรมชั้นสูงให้ แต่พระอิคคิวไม่ยอมรับ โดยบอกว่ามันเป็นแค่สิ่งสมมุติ ว่าแล้วพระอิคคิวก็ออกจากวัดและใช้ชวิตเป็นพระธุดงค์ในช่วงที่บ้านเมืองยังคงเกิดสงครามกลางเมืองเป็นระยะ
พระอิคคิวไว้ผมเผ้าและหนวดเครารกรุงรัง ชอบดื่มสุราและกินปลาดิบที่จับได้สดๆจากแม่น้ำ
คืนหนึ่งในฤดูหนาวหลังจากดวดสุราได้ที่พระอิคคิวก็ลากเอาพระพุทธรูปไม้ในหอพระมาทำฟืนผิงไฟ!
6
นินะกะวะ ชินเอมอนจิกะมะสะ เป็นทหารรับใช้ท่านโชกุนอาชิคางะ โยชิโนริ(โชกุนลำดับที่ 6 ในรัฐบาลมุโรมะจิ) ในข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ระบุว่าชินเอมอนซังพบกันครั้งแรกเมื่อพระอิคคิวอายุได้สามสิบปี ทั้งสองทำการปุจฉา-วิปัสนากัน ชินเอมอนเลื่อมใสในความฉลาดหลักแหลมของพระอิกคิวยิ่งนักจึงปวราณาตัวขอเป็นศิษย์ ในช่วงชีวิตของชินเอมอน หลังจากเลิกรับราชการแล้วก็คอยติดตามศึกษาพระธรรมกับพระอิคคิวจนวาระสุดท้าย
พระอิคคิวอ้างว่าที่ตนมั่วสุมในอบายมุขทั้งปวงนั้นเพราะต้องการเสียดสีพระผู้ใหญ่ในสมัยนั้นที่ชอบทำตัวมือถือสากปากถือศีล ต่อหน้าเคร่งธรรมมะ แต่ลับหลังทั้งกอบโกยเงินทองจากความศรัธทราของชาวบ้าน และยังชอบทำลับๆล่อๆเรียกโสเภณีมาใช้บริการกันถึงในวัด เมื่ออิคคิวประกาศเช่นนี้ กลับไม่มีใครกล้าออกมาโต้เถียงหรือว่ากล่าวคัดค้าน เนื่องจากต่าง ‘เข้าตัว’ กันถ้วนหน้า
แต่แน่นอน อิคคิวได้รับความเกลียดชังจากพระด้วยกันเพิ่มขึ้นไปอีก
ในพิธีศพพระผู้ใหญ่รูปหนึ่ง อิคคิวไปร่วมงานด้วยเครื่องแต่งกายมอซอขาดรุ่งริ่ง ก่อนด่ากราดพระทุกรูปที่มาร่วมพิธีว่า เป็นพวกกิเลศหนาติดอยู่เปลือกนอก หวังแต่อำนาจและสมณศักดิ์(ในสมัยนั้นรัฐบาลต้องให้ประชาชนมีชื่อสังกัดเป็นสมาชิกวัดนิกายเซน หากใครไม่ยินยอมถือเป็นพวกนอกรีต ผิดกฏหมาย เหตุนี้พระนิกายเซนจึงมีอิทธิพลต่อสังคมยุคนั้นมาก)
เมื่ออายุได้ 75 พรรษา ระหว่างที่ธุดงค์เร่ร่อนหลบภัยสงครามไปยังเมืองซึมิโยชิ พระอิคคิวได้พบกับชินจิชะ หญิงขอทานตาบอด จึงได้รับนางไว้เป็นภรรยา และอยู่ด้วยกันมาจนวาระสุดท้าย พระอิคคิวมรณะภาพในอ้อมกอดภรรยาด้วยท่านั่งสมาธิ เนื่องจากป่วยหนักด้วยโรคมาลาเรียเมื่อ พ.ศ 2024 สิริรวมอายุ 87 พรรษา
7
พระอิคคิวนั้นรักท่านแม่มาก แต่หลังจากบวชเป็นเณรเมื่ออายุหกขวบ ตลอดชีวิตต่อมา พระอิคคิวได้พบกับท่านแม่อีกเพียงสองครั้ง โดยครั้งสุดท้ายคือตอนที่มารดาป่วย...
ตั้งแต่อายุสามสิบสามพระอิคคิวห่มจีวรอยู่ชุดเดียวทั้งชีวิตคือชุดที่ท่านแม่ตัดเย็บให้...
สมัยเป็นเณรอิคคิวเคยเขียนจดหมายหาท่านแม่สองฉบับ และนี่คือเนื้อหาของจดหมายสองฉบับนั้น
3
‘ท่านแม่ครับ สบายดีหรือเปล่า
เมื่อคืนผมเห็นดาวดวงหนึ่ง ส่องแสงสุกใส
อยู่บนปลายยอดต้นซีต้า
เมื่อจ้องมองดาวดวงนั้น
ผมรู้สึกถึงความอ่อนโยนของท่านแม่
ผมคุยกับดาวดวงนั้นว่า
ผมเป็นลูกผู้ชายจะไม่ท้อแท้
ถ้าเมื่อใดที่ผมเหงาผมจะมาคุยด้วยอีก
แค่นี้นะครับแล้ว จะเขียนมาหาท่านแม่อีก
ท่านแม่ครับ สบายดีหรือเปล่า
เมื่อวานนี้ที่วัดของเรามีคนมาจากหมู่บ้านข้างๆ
เอาลูกแมวตัวน้อยมาให้
เจ้าแมวน้อยร้องไห้
เพราะว่ายังติดแม่ของมันอยู่
ผมบอกกับมันว่าอย่าร้องไห้ไป
เจ้าจะไม่เหงาหรอก เป็นลูกผู้ชายใช่ไหม
แล้ววันนึงเจ้าจะเจอแม่เอง
แค่นี้นะครับแล้ว จะเขียนมาหาท่านแม่อีก’
บริษัทโตเอแอนิเมชัน นำอิคคิวซังมาดัดแปลงเป็นการ์ตูนโทรทัศน์และออกฉายครั้งแรกเมื่อปี 2518 ทางสถานีอาซาฮี และได้นำถ้อยความในจดหมายทั้งหมดมาแต่งเป็นเพลง
เพลงนี้มีชื่อว่า ‘ท่านแม่’ เปิดทุกครั้งหลังการ์ตูนจบตอน...คุณน่าจะเคยฟังกันทุกคนนะครับ แม้จะจำทำนองและเนื้อเพลงในภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ แต่คุณน่าจะจำความรู้สึกและบรรยากาศเศร้าสร้อยของเพลงได้ เนื้อหาทั้งหมดของเพลงมาจากจดหมายสองฉบับนั้น…
2
ครั้งต่อไปเวลาดูอิคคิวซังอย่าลืมฟังเพลงตอนจบพร้อมกับอ่านข้อความในจดหมายไปด้วยนะครับ บางทีน้ำตาคุณอาจจะไหล…
โฆษณา