13 ธ.ค. 2018 เวลา 08:25 • ธุรกิจ
กรณีศึกษา ร้านโอ้กะจู๋
1
จากความคิดวัยเด็กที่ใฝ่ฝันเป็นเกษตรกร ที่เริ่มแรกปลูกผักเล่นๆ เพียงแค่ในครอบครัว สู่การเป็นสวนผักขนาดมากกว่า 70 ไร่ และร้านอาหารสวนผักโอ้กะจู๋ 100 คิว
1
เริ่มจากคุณอู๋ ชลากร เอกชัยพัฒนกุล กับคุณโจ้ จิรายุทธ ภูวพูนผล เป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเด็กที่บ้านทำอาชีพเกษตรกรเป็นทุนเดิม เลยทำให้ทั้งสองคนมีความฝันที่จะเป็นเกษตรกร ทำธุรกิจเกี่ยวกับเกษตรร่วมกัน และมักจะได้รับคำสบประมาทว่า เรียนทำไมเกษตร ไม่ต้องเรียนก็ทำได้ เรียนไปเพื่อไปขุดดินเหรอ
หลังจากที่พวกเขาจบมหาวิทยาลัยกันแล้ว ทั้งสองคนก็เริ่มทำธุรกิจของตนเอง โดยแนวคิดของพวกเขาคือการผสมผสานเกษตรรูปแบบใหม่และรูปแบบดั้งเดิม และปรับแก้ไขจุดอ่อนของเกษตรกรรุ่นเก่า กับ ช่องทางการตลาดและช่องทางการจัดจำหน่าย
ในตอนแรกที่เริ่มทำธุรกิจ ในปี 2553 พวกเขาเริ่มทำสวนเล็กๆ ก่อน ขนาด 1 ไร่ ซึ่งได้เพื่อนเขาอีกคนที่ชื่อ คุณต้อง วรเดช สุชัยบุญศิริ เข้ามาดูแลเรื่องปุ๋ยอินทรีย์ และเริ่มแจกจ่ายให้เพื่อนบ้านและคนรู้จักก่อน แล้วค่อยๆ ส่งขายตามร้านอาหารทั่วเชียงใหม่ ประกอบกับที่คุณอู๋นั้น มีความชอบด้านทำอาหาร จึงเกิดเป็นร้าน โอ้กะจู๋
 
ที่มา มาจากชื่อของเจ้าของนั้นเองคือ อู๋กับโจ้ ที่เล่นผวนคำเป็น โอ้กับจู๋ เพื่อความแปลกใหม่ ด้วยคอนเซ็ปต์ที่ว่า From Farm to Table ขึ้นมาในปี 2556
จุดเด่นที่ทำให้สวนผักและร้านอาหารคาเฟ่นี้ ดังไปทั่วเชียงใหม่ คือผักที่สดใหม่และปลอดสารพิษ จากสวนที่อยู่ข้างหลังร้านอาหาร และอาหารทีเสริฟในจานใหญ่ น้ำสลัดที่โดดเด่นจากสูตรของครอบครัวคุณอู๋
นอกจากนี้ยังมีทั้งจุดถ่ายภาพ บรรยากาศในการรับประทานอาหารจากสวนผักของทางร้านอีก
สิ่งที่สำคัญอีกอย่างคือเรื่องการประชาสัมพันธ์หรือโฆษณา คุณโจ้ ยังใช้สื่ออย่างโซเชียลมีเดีย เป็นช่องทางประชาสัมพันธ์ทั้งมีการทำเว็บไซต์ และ Facebook ให้คนรู้จักสวนผักและร้านสเต๊กโอ้กะจู๋มากยิ่งขึ้น
ในปี 2560 ร้านอาหารสวนผักโอ้กะจู๋ ก็มาเปิดสาขาที่กรุงเทพ เพื่อตอบรับความต้องการของคนในกรุงเทพ ที่ทางร้านสังเกตเห็นว่า คนในกรุงเทพนั้นไปกินร้านอาหารของตนที่เชียงใหม่เป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดปรากฏการณ์ โอ้กะจู๋ 100 คิว ถ้าหากไม่ได้จองคิวมาก่อน ก็อาจจะต้องรอนานหน่อย
รายได้และกำไร บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด
ปี 2557 รายได้ 4.4 ล้านบาท กำไร 210,060 บาท
ปี 2558 รายได้ 39.7 ล้านบาท กำไร 1.2 ล้านบาท
ดูจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นเพียงปีเดียวเท่านั้น ที่เพิ่มขึ้นมาถึง 35 ล้านบาทเลยทีเดียว
ในปัจจุบันนี้ สวนผักโอ้กะจู๋ได้เพิ่มจำนวนสายพันธุ์ผักสลัดมากขึ้นมาถึง 17 ชนิด และ มีสวนผักทั้งหมด 3 สวน พื้นที่ขนาดมากกว่า 70 ไร่
เรื่องนี้สอนอะไรเราบ้าง?
ไม่ว่าจะทำอาชีพอะไร คนทุกคนต่างก็มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จทั้งนั้น
แต่สิ่งที่จะทำให้ประสบความสำเร็จในอาชีพหรือธุรกิจนั้นได้ คืออะไร? อย่างสวนผักโอ้กะจู๋นั้น ก็คงเป็นการได้ทำในสิ่งที่ตนเองรัก มุ่งมั่นตั้งใจคิดหาวิธีการ ที่จะสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า หรือสร้างความแตกต่างให้กับสินค้า
แง่คิดของเรื่องนี้ก็สามารถนำเอามาใช้กับธุรกิจของเราได้
ขนาดสินค้าที่น่าเบื่ออย่างการปลูกผัก ยังสามารถหาวิธีเพิ่มมูลค่าได้
จริงๆ แล้ว
ไม่มีสินค้าไหนที่น่าเบื่อ
แต่ตัวเราเองมากกว่าที่ทำให้สินค้าของเราดูน่าเบื่อ
อย่างในกรณีนี้ จุดเด่นแรกของร้านนี้ก็คงเป็นชื่อร้านที่เรียกว่า โอ้กะจู๋
ถ้าเราหาวิธีที่จะแปลงโฉมสินค้าให้แตกต่าง มีจุดที่น่าสนใจ
เราก็อาจจะกลายเป็น โอ้กะจิ๋ม คู่แข่ง โอ้กะจู๋ ก็เป็นได้..
รูปจาก LINE โอ้กะจู๋
โฆษณา