Blockdit Logo (Mobile)
เฟจตัวที่หนึ่ง
•
13 ธ.ค. 2018 เวลา 16:36 • บันเทิง
10 years thailand : มองอนาคต​ประเทศในอีก10ปีข้างหน้าผ่านภาพยนตร์จาก 4 ผู้กำกับ
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาแอดมินได้ไปดูหนังเรื่อง #10yearsthailand​ มาค่ะ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่แอดมีโอกาสได้ดูรอบปฐมทัศน์​เต็มรูปแบบขนาดนี้
10 Years Thailand เป็นหนังโปรเจคต่อเนื่องจาก 10 years international ซึ่งโปรเจคนี้เป็นการถ่ายทอดมุมมองของประเทศต่างๆผ่านสายตาผู้กำกับหนังของแต่ละประเทศ
โดยเรื่องแรกนั้นคือ 10 Years(2015) เป็นมุมมองของประเทศฮ่องกง เรื่องต่อมาคือ 10 Years Thailand หลังจากนั้นจะมี 10 Years Taiwan และ 10 Years Japan ตามลำดับ
ยิ่งไปกว่านั้น หนังเรื่องนี้ยังเป็นหนังไทยที่ได้ไปจัดแสดงที่เทศกาล​หนังเมืองคานส์​เมื่อไม่นานมานี้อีกด้วย
ในภาพยนตร์​10 Years Thailand นี้ จะแบ่งเป็นหนังสั้น 4 ตอน จากผู้กำกับชื่อดังของไทย 4ท่าน
เรื่องแรก "Sunset"​ โดยคุณ อาทิตย์​ อัสสรัตน์
เรื่องนี้สื่อถึงมุมมองอีกมุมหนึ่งของทหารที่ต้องไปตรวจงานที่แกลลอรี่ศิลปะ เป็นกรณีหนึ่งที่เราเห็นได้ตามโซเชียล ว่างานศิลปะนั้น'กระทบกับความมั่นคง'​ของประเทศ ซึ่งความจริงจะกระทบหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคนนะคะ
เรื่องที่สอง "Catopia" โดยคุณวิศิษฏ์​ ศาสนเที่ยง(แอดชอบ
ผู้กำกับคนนี้มากๆค่ะ)
เรื่องนี้จะออกมาในแนวโลกเสมือนแบบดิสโทเปีย เล่าถึงเมืองเมืองหนึ่งที่มีแมวครองโลก และแมวจะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์​มนุษย์ แอดว่าเป็นการสื่อถึงประเทศเราตอนนี้ได้ดีเหมือนกันนะ ทั้งเรื่องการเมืองและการใช้โซเชียล แอดว่าแมวก็เหมือนเราๆนี่แหละค่ะ เรื่องนี้แอดชอบเพราะว่าดูง่าย เนื้อเรื่องสื่อสารค่อนข้างตรงไปตรงมา ทำให้มีอารมณ์​ร่วมมากกว่าเรื่องอื่น
เรื่องที่สาม "Planetarium"​หรือท้องฟ้าจำลอง
ของคุณจุฬญาณนนท์ ศิริผล
เรื่องนี้ผู้กำกับได้ให้ความเห็นว่าเป็นsci-fi และดิสโทเปียสไตล์ไทยๆ หนังจะไม่มีบทพูด เน้นการใช้ sound effects และสัญลักษณ์​เป็นนัยให้เราตีความ ซึ่งเรื่องนี้เรียกได้ว่าต้องตีความทั้งเรื่อง ในประเด็นที่ค่อนข้างแรงพอสมควร มีมุกตลกร้ายที่เจ็บและเสียดสีเหตุการณ์​ได้ลึกซึ้ง ส่วนตัวแอดชอบเรื่องนี้มากที่สุดใน4เรื่องแล้วค่ะ
เรื่องสุดท้าย "Song of the City" ของคุณ
อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล
เรื่องนี้เล่าเกี่ยวกับเพลงหนึ่งที่เราน่าจะคุ้นเคยกันในชีวิตประจำวันค่ะ สารภาพ​เลยว่าแอดเข้าไม่ถึงเรื่องนี้จริงๆ แต่ผู้กำกับน่าจะต้องการสื่อถึงความไม่เปลี่ยนแปลงและความน่าอึดอัดของสังคมที่เกิดขึ้นทั้งในอดีตและปัจจุบัน ซึ่งจะส่งผลถึงอนาคตแน่นอน
โดยรวมแล้ว 10 years Thailand เป็นหนังที่ดีมากๆเรื่องหนึ่ง ที่ออกมาฉีกแนวเดิมๆของหนังไทย เพราะปกติเราก็จะไม่ค่อยได้ดูหนังการเมืองกันเท่าไหร่ ยิ่งหนังที่ใช้มุกตลกร้ายแบบนี้ มักจะได้เห็นกันในหนังต่างประเทศมากกว่า
ส่วนตัวแอดดูแล้วรู้สึกถึงความสิ้นหวังที่ผู้กำกับแต่ละเรื่องพยายามสื่อคือ ไม่ว่าเวลาจะล่วงเลยไป10ปี ประเทศไทยก็ยังไม่เปลี่ยนจาก10ปีที่แล้ว แต่ในอนาคตทุกอย่างก็ยังคงวนลูปแบบเดิม และเป็นประเทศในแบบที่เราไม่ต้องการ
สุดท้ายนี้ แอดฝากเรื่อง 10 Years Thailand ด้วยนะคะ สามารถติดตามได้จากเพจ official https://www.facebook.com/1477263632357830/posts/2018672018216986/
สำหรับรอบฉายและโรงที่ฉายสามารถเช็คในเพจได้เลยค่ะ รีบไปดูกันก่อนหนังออกนะคะ (ขอโฆษณา​หนักๆเพราะชอบมาก)
ที่มา: official fb page และ youtube channel 10 Years Thailand
เรื่องนี้เป็นรีวิวหนังเรื่องแรกของแอดมิน สามารถติชมได้เต็มที่เลยนะคะ ขอบคุณ​ที่สละเวลาอ่านถึงตรงนี้ค่ะ♥️
โฆษณา