ข้อคิดที่ได้จากการทำงานและลงทุนในหุ้นมากว่า 10 ปี
1. การวางแผนชีวิตการทำงาน (Roadmap) ตั้งแต่เริ่มต้นทำงานสำคัญมาก เราต้องคิดว่าเราจะทำงานแบบไหน สิ่งที่เราต้องพัฒนาปรับปรุงเพื่อไปใช้ในการทำงานมีอะไรบ้าง ในแต่ละช่วงอายุควรมีรายได้เท่าไร การประเมินสถานการณ์เป็นระยะๆ จะช่วยให้เราสามารถแก้ปัญหาอย่างได้ทันท่วงที
2. ทักษะภาษาอังกฤษเป็นสิ่งสำคัญมาก มันมีอิทธิพลมากพอที่จะสามารถตัดสินได้ว่าชีวิตการทำงานจะประสบความสำเร็จหรือไม่
3. การรู้ลึก/เชี่ยวชาญในงานเฉพาะด้านเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าเรารู้ลึก/เชี่ยวชาญในงานเฉพาะด้าน และยังมีความรู้ทั่วไปในงานด้านอื่นๆ ด้วยเป็นสิ่งที่ดีกว่า
4. ตอนเรียนจบและเริ่มสมัครงานใหม่ๆ พยายามให้ความสำคัญกับตัวงานมากกว่าเงินเดือน ให้นึกว่างานนี้จะสามารถไปต่อยอด/เพิ่มประสบการณ์ เพื่อไปทำอะไรได้ ต้องคิดไว้ว่าช่วงแรกที่เริ่มต้นทำงาน โดยเฉพาะ 10-15 ปีแรก คุณกำลังสะสมประสบการณ์เพื่อก้าวไปเป็นผู้บริหารที่จะทำให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
5. ต้นทุนเวลาในการทำงานมีจำกัด บางครั้งการย้ายงานเป็นสิ่งสำคัญเพื่อเพิ่มเงินเดือน คนๆ หนึ่งเมื่อย้ายงานสามารถได้เงินเดือนจำนวนเดียวกันกับที่เขาจะได้ในอีก 5-10 ปีข้างหน้าได้กรณีที่ยังทำงานที่เดิม
6. หลายๆ คนอยากทำงานในบริษัทที่มั่นคง จะได้มีหน้าที่การงานที่มั่นคงแต่จริงๆ แล้วคนที่จะทำให้หน้าที่การงานมั่นคงคือตัวคุณ ไม่ใช่บริษัท ในความเป็นจริง ถ้าคุณเก่งจริงคุณไปทำที่ไหนคุณก็มั่นคง
7. ทัศนคติจะช่วยให้การทำงานสำเร็จมากขึ้น
8. จะซื้อหุ้นตัวไหน ศึกษาสักนิด ว่าบริษัททำอะไร หนี้เยอะไหม บางคนขนาดเวลาจะซื้อตั๋วเครื่องบิน ยังเปรียบเทียบราคาหลายที่ ตรวจสอบเงื่อนไขต่างๆ ของสายการบินละเอียดยิบ หาราคาที่ถูกที่สุด แต่คนๆ เดียวกันเวลาซื้อหุ้นสายการบินกลับเคาะซื้อ โดยไม่ได้ศึกษาอะไรลึกซึ้งเลย
9. ตลาดสินค้าอื่นๆ เวลาราคาสินค้าลงคนมักจะเข้าไปซื้อ แต่ตลาดหุ้นน่าจะเป็นตลาดสินค้าที่แปลกที่สุดในโลกที่เวลาราคาหุ้นลงแล้ว คนมักไม่ค่อยซื้อ
10. Low Risk Low Return และ High Risk High Return เป็นสโลแกนที่ตำราวิชาการ นักการเงินต่างๆ เอาไว้บอกนักลงทุนส่วนใหญ่ ...แต่ที่ดีกว่าควรจะเป็น Low Understanding Low Return และ High Understanding High Return
11. ในหลายๆ ครั้ง ความรู้ที่ไม่ธรรมดา (uncommon knowledge) ไมว่าจะเป็นการวิเคราะห์เชิงสถิติขั้นสูง การใช้สารพัดสูตรทางการเงินที่นักการเงิน/นักวิเคราะห์ชอบใช้ ไม่ว่าจะเป็น Capital Asset Pricing Model (CAPM), Multi-Factor Model (MFM), Arbitrage Pricing Theory (APT), Price Multiple valuation ต่างๆ นาๆ กลับทำได้เพียงผลกำไรที่ธรรมดา (common profit)
12. ขณะที่ความรู้ธรรมดาๆ (common knowledge) เช่น บวก ลบ คูณ หาร ซึ่งพวกเราเรียนจบกันมาตั้งแต่ ป.4 หลายๆ ครั้งก็สามารถทำให้ได้ผลกำไรที่ไม่ธรรมดาได้ (uncommon profit)
13. ถ้าอยากประสบความสำเร็จในการลงทุน อัตราดอกเบี้ยทบต้นคือ สิ่งที่เราต้องรู้
14. สำหรับการลงทุนที่ประสบความสำเร็จ ความมั่นคงทางจิตใจสำคัญไม่แพ้ความรู้ทางการลงทุน
15. ในตลาดหุ้น บางครั้งการที่เรานั่งเฉยๆ โดยที่เราไม่ได้ทำอะไร จริงๆ แล้วนั่นคือ การที่เรากำลังทำอะไรอยู่
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
