17 ธ.ค. 2018 เวลา 06:23 • การศึกษา
” ลูกเรียนไม่เก่ง.. แล้วยังไง? ” บทความสอนใจที่คนเป็นพ่อแม่ต้องอ่าน!
หัวอกของคนเป็นพ่อเป็นแม่ย่อมอยากให้ลูกเรียนหนังสือเก่งๆกันทั้งนั้น บางบ้านถึงขนาดว่าหากลูกเรียนไม่ดีถึงกับต้องลงโทษกันเลยก็มี วันนี้เราเลยมีบทความดีๆของ นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ ที่ได้เขียนไว้เตือนใจพ่อแม่ที่คาดหวังในตัวลูกมากเกินไป ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อเด็กได้ในอนาคต…..
– ทบทวนอีกครั้ง
อยากให้ลูกเรียนเก่ง ไปทำไมกัน
ฟังข้อดี ข้อเสีย ก่อนจะเล่นบทพ่อแม่หลงทาง
เมื่อลูกเรียนไม่เก่ง แล้วไงล่ะครับ ? ก่อนจะอ่านต่อไป พวกเรามาทบทวนกันก่อนว่า อยากให้ลูกเรียนเก่งไปทำอะไร
– เพื่อเขาจะได้เอนทรานซ์ได้ ถ้าตอบข้อนี้ให้เวียนไปอ่านบรรทัดแรกอีกทีนะครับ
พูดเล่นๆ เอ็นทรานซ์ได้สมัยนี้ไม่ได้ให้หลักประกันเลยว่าจะไม่ตกงาน จะไม่ใช้ยาเสพย์ติด
จะไม่ติดเชื้อเอดส์ จะไม่ตั้งครรภ์ก่อนวัย จะไม่ทำแท้ง จะไม่พนันบอล และอื่นๆ
– เพื่อให้เขามีอาชีพมั่นคง ไม่จริงหรอกครับ เรียนเก่งแล้วไม่มีงานทำมีเยอะขึ้นเรื่อยๆ
มีงานทำแล้วประคองงานไว้ไม่ได้ก็มีเยอะ ประคองงานไว้ได้แล้วไม่มีความสุขก็มีอีกเยอะ
มีเงินเยอะ แต่ไม่มีความสุขยิ่งเยอะใหญ่
– ยกตัวอย่างอาชีพแพทย์ แพทย์สมัยนี้ตกงานทันทีหลังเรียนจบนะครับ
ไม่ได้บรรจุเข้ารับราชการ และไม่รู้อนาคต ประกอบวิชาชีพไปถูกฟ้องไปก็เยอะ
สังคมก็คาดหวังสูงขึ้น ต้องเคารพสิทธิผู้ป่วย ต้องแจ้งป้ายราคา ต้องไปชันสูตรพลิกศพ และอื่นๆ
– แทนที่จะเรียนเก่ง น่าจะเรียนให้มี “ความสุข” มากกว่า
การเรียนให้มีความสุขมีประโยชน์ดังนี้คือ ทำให้เด็กรักตนเอง ภาคภูมิใจในตนเอง เชื่อมั่นในตนเอง
เมื่อเป็นเด็กเล็กก็ดูแลตนเองได้ เมื่อเป็นเด็กโตก็วิ่งไปซื้อของหน้าปากซอยได้
เมื่อเป็นวัยรุ่นก็กล้าแสดงออกในทางที่เหมาะสม เมื่อเป็นผู้ใหญ่ก็รู้จักหาทางเลือกของชีวิต
รู้ทีหนีทีไล่ รู้รุก รู้รับ รู้ชนะ รู้แพ้ รู้สู้รู้ถอย และไม่ฆ่าตัวตาย ดีกว่าเรียนเก่งตั้งมากมาย
– คิดให้ดีๆ นะครับ ว่ากว่าจะถึงเวลาที่ลูกโตเป็นผู้ใหญ่ พวกเราซึ่งเป็นพ่อแม่หากไม่แก่
หรือหงำเหงือกก็ตายไปแล้ว อยู่บนสวรรค์มองลงมาเห็นลูกใช้ชีวิตแบบหลังย่อมดีกว่าแบบแรกแน่นอน
ยังไม่นับว่าสังคมในอนาคตจะเสื่อมทรามไปถึงไหนก็ยังไม่รู้
– บางคนอยากให้ลูกเรียนเก่งไว้ก่อน เพราะกลัวลูกจะไม่มีเงินใช้ เรียกว่าผูกเรื่องข้ามช็อต
เอาการเรียนเก่งไปเชื่อมโยงกับการมีเงินใช้
– ไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องลูกไม่มีเงินใช้ในอนาคต รัฐไทยจะจัดระบบประกันสังคมได้เด็ดๆ
ไม่แพ้อย่างที่เห็นในหนังฝรั่งแน่นอน แต่ถ้าเกิดไม่มีระบบประกันสังคมที่ดีพอ งั้นคิดให้ดีอีกทีว่า
รัฐที่ไม่มีสวัสดิการสำหรับประชาชนทุกระดับนั้น คนรวยกับคนจนใครจะมากกว่ากัน
คนที่เข้าถึงทรัพยากรกับคนที่ถูกกีดกันจากทรัพยากรใครจะมากกว่ากัน
– แน่ใจหรือว่าอยากให้ลูกเราเป็นพวกชนกลุ่มน้อย (ฮา) ตอนนี้ใครไม่ฮากรุณาพาลูกและครอบครัวอพยพ
ไปอยู่ต่างประเทศนะครับ เอาใหม่ แทนที่ผมจะพยายามชี้ชวนว่าการเรียนไม่เก่ง ไม่มีประโยชน์อะไรในอนาคตแล้ว
ผมจะอธิบายให้ฟังถึงข้อดีของการเรียนไม่เก่งดีกว่า
– ก่อนอื่นมานิยามคำว่า เก่งก่อน เก่งในที่นี้หมายถึง ทำคะแนนได้สูงในระบบการศึกษาที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
แต่เด็กอาจจะไม่ได้ทำหน้าที่ทางจิตวิทยาของแต่ละวัยได้ครบถ้วนหรือพอเพียง
– ในทางตรงกันข้าม เด็กเรียนไม่เก่งแต่มีคุณพ่อคุณแม่ที่เข้าใจเรื่องหน้าที่ทางจิตวิทยาประจำวัย ของเด็กมากพอ
ก็จะได้ลูกซึ่งเป็นเด็กเรียนไม่เก่งที่มีความสุข รักตนเอง ภูมิใจในตนเอง เชื่อมั่นในตนเอง
และพร้อมที่จะเติบโตเป็นตัวของตัวเองต่อไปในอนาคตเมื่อพ่อแม่ตายแล้ว (ย้ำจริง)
– เพราะเด็กที่เรียนไม่เก่ง แต่คุณพ่อคุณแม่เข้าใจไม่เคี่ยวเข็ญจนเกินไป มักมีเวลาว่างจากการทำการบ้าน
การท่องหนังสือหรือการเรียนพิเศษมากกว่า เวลาเหล่านั้นคือ กำไรทางจิตวิทยาที่ได้มาโดยไม่รู้ตัว
– กำไรได้อย่างไร ลองอ่านต่อ
เด็กเล็กและเด็กโตมีงานสำคัญที่ต้องทำอยู่คนละเรื่องเดียวเท่านั้น เด็กเล็กต้องพัฒนากล้ามเนื้อนิ้วมือทั้งสิบให้แข็งแรง
และสามารถใช้ทำงานที่อาศัย ความละเอียดในอนาคตได้ เด็กโตต้องพัฒนาทักษะในการเข้าสังคม
เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันกับผู้อื่น ทะเลาะกันได้ก็ต้องดีกันได้ ต่อยกันไปแล้วก็ต้องอภัยกันได้
– หากเด็กเล็กใช้นิ้วมือได้คล่องแคล่ว เขาไม่เพียงมีความสามารถทำงานอะไรก็ได้ในอนาคต
แต่เขายังมีความรักตนเอง ภาคภูมิใจตนเอง เชื่อมั่นในตนเองที่สอบผ่านจิตวิทยาประจำวัยมาได้
– หากเด็กโตเข้าสังคมได้ทุกรูปแบบ เขาไม่เพียงมีความสามารถหางานอะไรก็ได้ และปรับตัวเข้ากับงานหรือครอบครัว
แบบไหนก็ได้ แต่เขายังมีความรักตนเอง ภาคภูมิใจตนเอง เชื่อมั่นในตนเองที่สอบผ่านจิตวิทยาประจำวัยมาได้เช่นเดียวกัน
– ความรักตนเองเป็นภูมิคุ้มกันต่อสิ่งเลวร้ายต่างๆ ในสังคมที่จะมาแผ้วพานชีวิตของเขาในอนาคต
นี่คือหนึ่งในคำอธิบายว่า เพราะอะไรคนที่รู้ว่าสูบบุหรี่ไม่ดีก็ยังจะสูบ เสพยาบ้าไม่ดีก็ยังจะเสพ
เที่ยวหญิงบริการเสี่ยงติดเชื้อเอดส์ ก็ยังจะไป เพราะพวกเขาไม่รักตนเอง ให้สืบกันจริงๆ
คงพบความบกพร่องทางจิตวิทยาในวัยเด็กเล็กเด็กโตนี่แหละ
– พวกเรามักคิดว่า งานหลักของเด็กเล็ก คือ คัดไทย
งานหลักของเด็กโต คือ บวกเลข ทำให้เราหลงทาง
เสียเวลา และคาดหวังลูกในทางที่ไม่ถูกไม่ควรกันค่อนประเทศ เมื่อลูกไม่ได้ดั่งใจก็คาดหวังสูงยิ่งขึ้นอีก
เด็กจึงไม่รักตนเอง เกลียดตนเอง ไม่ภูมิใจในตนเอง และขาดภูมิคุ้นกันไปในที่สุด
– อย่าเป็นเลยครับ เด็กเรียนเก่งแต่สุขภาพจิตไม่ดี และไม่มีหลักประกันอะไรว่าจะร่ำรวยในอนาคต
เป็นเด็กธรรมดา เรียนเต็มความสามารถของเขา ได้เล่นและทำงานกลุ่มอย่างเหมาะสม
เติบโตเป็นคนที่เอาตัวรอดได้ในยามคับขันทุกสถานการณ์
ถามตนเองอีกครั้งสิครับ ว่าอยากได้ลูกแบบไหน
โฆษณา