18 ธ.ค. 2018 เวลา 07:11 • ศิลปะ & ออกแบบ
พื้นฐานเรื่องแสง และทุกอย่างที่ควรรู้เกี่ยวกับแสงสำหรับมือใหม่
พื้นฐานเรื่องแสง และทุกอย่างที่ควรรู้เกี่ยวกับแสงสำหรับมือใหม่ ในการถ่ายภาพการเปิดรับแสงเป็นองค์ประกอบส่วนสำคัญที่กำหนดให้กล้องรับรู้ว่ากำลังบันทึกภาพอะไรลงไป ซึ่งในที่นี้จะมีพื้นฐานง่าย ๆ อยู่สามอย่างด้วยกันครับคือ ISO, Aperture และ Shutter Speed จากนั้นจะเสริมอีกนิดหน่อยด้วยเรื่องของการชดเชยแสงครับ
ค่าความสัมพันธ์ของแสง Exposure Triangle (ISO, Shutter Speed, Aperture)
ผมเคยเขียนอธิบายเกี่ยวกับ Exposure Triangle แบบเต็ม ๆ ไปแล้ว แต่นี่เป็นฉบับเข้าใจง่ายแบบคร่าว ๆ นะครับ ตัว Exposure Triangle เนี่ยจะเป็น 3 ค่า ที่มีผลกับแสงที่เข้ามาในกล้อง การปรับค่าใดค่าหนึ่งล้วนมีผลกับแสงทั้งสิ้น เดี๋ยวมาดูกันครับว่ามีอะไรบ้าง
ISO – ความไวแสงของเซ็นเซอร์กล้อง ที่จะเร่งการรับแสงของกล้องให้มากขึ้น แม้ในปริมาณแสงที่เท่าเดิมแต่ด้วย ISO ก็ทำให้ภาพที่จะสว่างขึ้นได้ แต่ถ้าใช้ ISO เยอะเกินไปก็จะเกิด Noise ครับ แต่ข้อดีหลัก ๆ คือทำให้ภาพสว่างขึ้นได้แม้แสงจะน้อยนั่นเอง
Aperture – รูรับแสง ซึ่งอันนี้อยู่ที่ตัวเลนส์ รูรับแสงจะควบคุมปริมาณแสงที่เดินผ่านจากเลนส์เข้าไปยังตัวกล้อง การตั้งค่ารูรับแสงจะแสงด้วยหมายเลข F ครับ ยิ่งเลขน้อยรูรับแสงยิ่งกว้าง เมื่อรูรับแสงกว้างแสงก็จะเข้าเยอะ ถ้ารูรับแสงแคบลง ปริมาณแสงที่เข้ามาในกล้อง และผ่านตัวเลนส์ แสงก็จะน้อยลง
Shutter Speed – ความเร็วชัตเตอร์ หมายถึงความเร็วในการเปิดม่านและปิดม่านชัตเตอร์ นี่คือระยะเวลาที่แสงจะวิ่งเข้าเซ็นเซอร์ครับ ถ้าความเร็วชัตเตอร์ช้า ๆ แสงก็จะเข้ากล้องได้นานขึ้น(เยอะขึ้นนั่นแหละ) ถ้าความเร็วชัตเตอร์เร็ว ๆ แสงก็จะเข้ากล้องได้น้อยลง
เมื่อทั้งสามองค์ประกอบรวมกันจะเป็นค่าของแสงที่กล้องคำนวนออกมา (Exposure Value) เมื่อเปลี่ยนแปลงค่าใด ๆ ของ 1 ใน 3 องค์ประกอบนี้ก็จะมีผลกับแสงทั้งสิ้นนะครับ รวมถึงมีเอฟเฟกต์บางอย่างกับภาพด้วย
ถ้าเราเพิ่ม F-Stop เราก็จะทำให้รูรับแสงแคบลง ทำให้ปริมาณแสงในภาพลดลง แล้วก็ยังทำให้ภาพมีระยะชัดเพิ่มขึ้น
การลดความเร็วชัตเตอร์ ก็จะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวด้วย ซึ่งจะทำให้ภาพมีโอกาสเบลอได้ แต่อย่างไรก็ตามการเปิดความเร็วชัตเตอร์ที่นานขึ้นก็ทำให้ปริมาณแสงเพิ่มขึ้นได้ด้วย
การเพิ่ม ISO ช่วยให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น แต่เราก็จะเพิ่มปริมาณ Noise ในภาพเยอะขึ้นเหมือนกัน
นี่แหละก็เป็นเหตุที่ต้องเรียกว่าค่าของความสัมพันธ์แสง 3 อย่าง หรือว่า Exposure Triangle ครับ
1. ISO – ค่าความไวแสง
ISO เป็นตัวย่อมาจาก International Standards Organization ซึ่งเป็นองค์กรที่จัดให้มีการจัดระดับความไวสำหรับเซ็นเซอร์กล้อง
การจัดอันดับ ISO ซึ่งส่วนใหญ่แล้วตามกล้องปกติจะเริ่มที่ ISO 100 – 200 แล้วลากยาวไปถึงความไวแสง 25600 หรือเป็นแสนเลยก็มี ซึ่งการที่เราทำให้ค่า ISO ต่ำ ก็จะทำให้เซ็นเซอร์มีความไวแสงน้อยลง ภาพมืดลง แต่มีความชัดเจน นุ่มนวลขึ้นเพราะไม่มีสัญญาณรบกวนหรือว่า Noise เข้ามาในภาพนั่นเอง
การที่มี ISO ที่สูงขึ้น จะทำให้กล้องไวต่อแสงมากขึ้น เซ็นเซอร์ก็ทำงานกับแสงได้ดีขึ้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาอีกเรื่องคือเกิด Noise หรือสัญญาณรบกวนในภาพเพิ่มมากขึ้นด้วยนั่นเอง
Noise คืออะไร?
Noise ก็เป็นสัญญาณรบกวนในภาพที่ไม่ได้เกิดจากวัตถุนะ แต่จะสร้างสีแบบสั่งในภาพ เป็นสัญญาณรบกวนที่เกิดจากการเร่ง ISO ที่สูง ๆ ครับ จะเริ่มเห็นชัดขึ้น (ไม่ได้อธิบายตามทฤษฏีเป๊ะ ๆ นะแต่ให้เข้าใจภาพรวมว่าคืออะไร และเกิดขึ้นได้ยังไง)
2. Aperture – รูรับแสง
รูรับแสงของเลนส์ คือ การเปิดช่องรูรับแสงหรือไดอะเฟรมที่กำหนดปริมาณแสงที่เข้ามาผ่านในตัวเลนส์ จะใช้ค่า F ในการเรียก
สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับรูรับแสงคือ ปริมาณแสงและระยะชัด คือเมื่อรูรับแสงกว้างขึ้น จะทำให้เกิดการละลายของฉากหลัง หรือจุดที่อยู่พ้นจากระยะโฟกัส(จุดที่เราโฟกัส)ออกไป ทำให้เกิดการละลายฉากหลัง และในขณะเดียวกันเมื่อรูรับแสงกว้างขึ้น แสงก็จะผ่านจากเลนส์ไปยังเซ็นเซอร์ได้มากขึ้นด้วย
เช่นเดียวกัน เมื่อรูรับแสงแคบลง ระยะชัดก็จะมากขึ้น แล้วก็ปริมาณแสงจะผ่านเลนส์ไปยังเซ็นเซอร์ได้น้อยลงด้วยครับ
3. Shutter Speed – ความเร็วของม่านชัตเตอร์
ความเร็วชัตเตอร์วัดเป็น 1 ส่วนวินาที และระบุความเร็วของม่านชัตเตอร์ที่เปิดและปิดการรับแสง
ความเร็วชัตเตอร์สามารถที่จะควบคุมระยะเวลาที่แสงเข้ามายังเซ็นเซอร์ได้ ความเร็วชัตเตอร์ที่มากขึ้นจะช่วยให้เราจับภาพสิ่งที่เคลื่อนไหวเร็ว ๆ ได้อีกด้วย ซึ่งหลัก ๆ เมื่อเราปรับค่า Shutter Speed จะมีผลดังนี้
Shutter Speed ต่ำ จะทำให้ปริมาณแสงเข้ามาที่กล้องได้มากขึ้น และโอกาสที่วัตถุหรือภาพจะเบลอก็มากขึ้น
4. การชดเชยแสง
ไม่อยากลงทฤษฏีเยอะ แต่เอาคร่าว ๆ ว่าการชดเชยแสงจะทำให้เราได้ค่าแสงที่ตรงกับความต้องการเรามากที่สุด แม้ว่าเราจะตั้งกล้องออกมาแล้วได้ค่าแสงที่เหมาะสมแล้ว แต่ภาพออกมายังมืด หรือสว่าง เกินจากที่เราต้องการ เราสามารถที่จะปรับชดเชยแสงเพิ่มเติมตรงนี้ได้อีกครับ
1
โดยการชดเชยแสงเราสามารถเลือกได้ว่าจะชดเชยให้มืดลง หรือสว่างขึ้น ซึ่งก็แล้วแต่เราจะเลือกนั่นเองครับ
5. Over Exposure และ Under Exposure คืออะไร ?
เราจะเคยได้ยินว่าแสง Under ไป หรือ Over ไป จริง ๆ แล้วคำพูดเต็ม ๆ ก็คือ Under Exposure และ Over Exposure ครับ สองค่านี้จริง ๆ เป็นการบอกแหละว่าภาพมันมืดกว่าที่สเกลวัดแสงบอก หรือว่าภาพมันสว่างกว่าที่สเกลวัดแสงบอก จริง ๆ มันมีแค่นี้แหละ ฮ่า ๆ
เอาเป็นว่าถ้าแสงน้อยไปก็เรียก Under Exposure ถ้าสว่างไปก็เรียก Over Exposure แล้วถ้าแสงมันเป็นอย่างที่ว่าต้องทำยังไงล่ะ
ถ้าแสงมัน Under Exposure ก็ทำให้ภาพสว่างขึ้นไง แล้วแต่จะเลือกว่าปรับอะไร รูรับแสง ความเร็วชัตเตอร์ หรือ ISO ไม่ก็ ชดเชยแสงเพิ่ม อันนี้แล้วแต่
Over Exposure ก็ทำเหมือนกันครับ แล้วแต่จะเลือกว่าปรับอะไร รูรับแสง ความเร็วชัตเตอร์ หรือ ISO ไม่ก็ ชดเชยแสงเพิ่ม
ถ้าเข้าใจค่าที่มีผลกับแสงอะไรก็เป็นเรื่องง่ายไปได้เลย แต่สิ่งสำคัญคือการฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่องจนเข้าใจครับ
โฆษณา