Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ผมรักฟุตบอล
•
ติดตาม
21 ธ.ค. 2018 เวลา 11:47 • กีฬา
ย้อนรอยตำนาน ปาร์ค จี ซอง : ระเบิดนิวเคลียร์แห่งเกาหลีใต้
เชื่อเหลือเกินว่าหากจะให้นึกถึงนักเตะเกาหลีใต้ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของวงการลูกหนัง ชื่อของปาร์ค จี ซอง จะต้องติดอยู่ 1 ใน 3 ของบรรดาแข้งเหล่านั้นอย่างแน่นอน และนี่คือชายที่ซึ่งครั้งหนึ่ง อังเดร ปีร์โล่ เคยได้ขนานนามว่าเป็นดั่ง”นิวเคลียร์ลูกแรกแห่งเกาหลีใต้”เลยทีเดียว…
ปาร์ค จี ซอง สร้างชื่อจากพละกำลังอันไร้ขีดจำกัดของเขา บวกกับการเป็นนักเตะเกาหลีใต้ที่เป็นที่จดจำมากที่สุดคนหนึ่ง เส้นทางจากซูวอนสู่ความความเป็นยอดนักเตะที่แมนเชสเตอร์ และนี่คือเรื่องราวของชายที่ประสบความสำเร็จในด้านลูกหนังมากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ของแดนกิมจิ โดยปาร์คเริ่มวาดเส้นทางการค้าแข้งอันวิเศษของเขากับ “เกียวโต เพอเพิ้ล ซังงะ” สวมบทบาทเป็นหัวใจหลักของสโมสร จนพาทีมเลื่อนชั้นสู่เจลีค 1 ในปี 2002 ได้สำเร็จ และเรื่องราวนับจากนี้คือสิ่งที่สร้างชื่อให้กับยอดมิดฟิลด์รายนี้
ปาร์คถูกเรียกติดทีมชาติเกาหลีใต้เพื่อทำศึกฟุตบอลโลกปี 2002 ซึ่งถูกจัดขึ้นบนแผ่นดินเกิดของเขาอีกด้วย และเป็นฟุตบอลโลกครั้งนั้นเองที่ทำให้โลกรู้จักกับแข้งหมายเลข 21 จากเจ้าภาพร่วมรายนี้ ย้อนไปในเกมรอบแบ่งที่เกาหลีใต้ต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบแรกอย่างทีมชาติโปรตุเกส ปาร์ค จี ซองซัดประตูชัยด้วยการพักอกเอาบอลลง ต่อด้วยการกระดกหลบคู่แข่งหนึ่งที ก่อนยิงลอดขาวิเตอร์ บายา ตำนานจอมหนึบชาวโปรตุกีสเข้าไปอย่างเฉียบคม พาทัพโสมขาวล้มโปรตุเกส 1-0 ได้สำเร็จ.. ไม่เพียงแค่นั้นปาร์คยังแสดงถึงความมุ่งมั่นที่ไม่มีหมดด้วยการช่วยเกาหลีใต้ทะลุเข้าถึงรอบรองชนะเลิศด้วยการผ่านทั้งสองทีมยักษ์ใหญ่อย่างอิตาลีและสเปน สร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมแรกบนแผ่นดินเอเชียที่สามารถทำได้สำเร็จ
ผลพวงจากลวดลายในฟุตบอลโลก 2002 ส่งผลให้เขาได้ออกไปตามหาฝันบนเวทียุโรปกับ พีเอสวี ไอด์โฮเฟ่น หลังถูกอดีตเทรเนอร์ทีมชาติอย่าง กุส ฮิดดิ้ง ต้องการตัวไปร่วมทีม ไม่นานนักนักเตะหน้าใหม่ของพีเอสวีรายนี้ก้าวขึ้นมาเป็นส่วนหนึ่งของสโมสรและบ่อยครั้งที่แฟนๆเป็นอันต้องตะโกนชื่อเขาให้กึกก้องสนาม ฟิลิปป์ สตาดิโอน… ปาร์ค จี ซองใช้เวลาราวๆ 1 ปีเพื่อปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่ เขาลงเล่นได้ทั้งในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง หรือฉีกออกทางขวาก็ไม่มีปัญหา
ระยะการจ่ายบอลอันเฉียบคมบวกกับความขยันที่จะลงไปช่วยเพื่อนเล่นเกมรับอยู่เสมอ ทำให้ปาร์ค จี ซองประสบความสำเร็จกับพีเอสวีเป็นอย่างมาก เขาคว้าแชมป์ลีกได้สองสมัย แชมป์บอลถ้วย รวมถึงมีส่วนช่วยยักษ์ใหญ่แห่งลีกแดนกังหันลมทะลุเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกไดอีกต่างหาก ก่อนที่จะตัดสินใจอำลาพีเอสวีเพื่อหาความท้าทายใหม่กับหนึ่งในสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุโรปอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ภายใต้การดูแลของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ปาร์ค จี ซองกลายเป็นนักเตะสารพัดประโยชน์ให้กับกุนซือชาวสกอตติช และมักจะพิสูจน์ตัวเองในเกมระดับท็อปได้อยู่เสมอ แต่ปัญหาอาการบาดเจ็บที่เข่าสมัยอยู่ที่เนเธอร์แลนด์มักรบกวนฟอร์มการเล่นอันต่อเนื่องของเขาอยู่บ่อยครั้ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นปาร์คก็สามารถทำสถิติลงสนามให้ทัพปีศาจแดงไปถึง 153 เกม ยิงไป 27 ประตูตลอด 7 ปีกับสโมสร ก่อนก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะเอเชียคนแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถยกถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีก รวมถึงเถลิงคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกได้อย่างยิ่งใหญ่อีกด้วย
เขาเป็นที่รักใคร่ของกองเชียร์เดอะ เรด เดวิลส์จนได้รับฉายาว่า “ปาร์คสามปอด” และบ่อยครั้งที่แข้งขวัญใจจากแดนกิมจิได้รับความไว้วางใจจากอเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ซึ่งสิ่งที่ยืนยันคำพูดนี้ก็คือการออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกนัดชิงชนะเลิศปี 2009 พบกับบาร์เซโลน่า หรือแม้แต่เกมบิ๊กแมตช์ในพรีเมียร์ลีก โดย 1 ส่วน 3 ของประตูทั้งหมดที่ปาร์คทำได้มาจากการพบกับอาร์เซน่อล (ทำไป 5 ประตู),เชลซีและลิเวอร์พูล(ทำไปทีมละ 2 ประตู
ภาพลักษณ์ของปาร์คเป็นที่ติดตาของเหล่าแฟนบอลเมืองผู้ดีไปโดยปริยาย พร้อมกับกุมหัวใจของแฟนจากประเทศบ้านเกิดเอาไว้ได้อย่างอยู่หมัดในเวลาเดียวกัน เจ้าตี๋ปาร์คขับเคลื่อนแดนกลางให้กับทัพโสมขาวในฟุตบอลโลก 2006 และ 2010 ที่เยอรมันและแอฟริกาใต้ และแม้ว่าบรรดานักเตะทีมชาติเกาหลีใต้ที่ลงทำศึกในสองปีดังกล่าวจะยังห่างไกลความสำเร็จของชุดเมื่อปี 2002 อยู่มาก แต่ปาร์ค จี ซองก็ยังมีเรื่องไว้ให้จดจำ เมื่อเขาสามารถทำประตูได้ในฟุตบอลโลกได้ทั้งสองครั้งหลัง ทำให้เขาเป็นนักเตะเอเชียคนแรกที่สามารถทำประตูในฟุตบอลโลกได้ถึง 3 ครั้งติดต่อกัน และดูเหมือนว่าค่ำคืนอันแสนหวานเมื่อปี 2002 จะไม่หวนคืนมาอีกแล้ว เมื่อทัพโสมสามารถทำได้เพียงจอดป้ายที่รอบ 16 ทีมสุดท้ายโดยพ่ายต่ออุรุกวัยไปเมื่อปี 2010
ปาร์คในวัย 31 ปี แยกทางกับยูไนเต็ดเมื่อปี 2012 เพื่อย้ายไปซบควีนส์ ปาร์ค เรนเจอร์ ก่อนล้มเหลวที่จะเป็นกำลังหลักให้กับต้นสังกัดใหม่ จนต้องย้ายกลับไปพีเอสวีอีกครั้ง หลังทัพ”ทหารเสือราชินี”ทำผลงานน่าผิดหวังจนต้องตกชั้นจากพรีเมียร์ลีกไปในที่สุด ปาร์คทำได้สองประตูในลีกเอเรดิวิซี่ ฮอลแลนด์ ก่อนตัดสินใจอำลาสังเวียนแข้งเนื่องจากอาการบาดเจ็บที่รุมเร้าเขามาโดยตลอด
และแม้ว่า ชา บัม กุน ตำนานดาวเตะเลือดโสมผู้บุกเบิกการค้าแข้งต่างแดนให้แก่นักเตะเกาหลีใต้ จะเป็นหนึ่งในคู่แข่งปาร์ค จี ซองในแง่ของเกียรติยศ แต่หากนับผลงานโดยรวมทั้งส่วนตัวและกับทีม ดูเหมือนว่าปาร์ค จี ซองจะเหนือกว่าตำนานรายนี้อยู่หน่อยๆ เมื่อเขาเป็นดั่งผู้เปิดทางให้แข้งจากแดนกิมจิตบเท้าข้ามน้ำข้ามทะเลมาสู่เวทีพรีเมียร์ ลีก สิ่งที่เรียกว่าความกระหายและแรงทะเยอะทะยานอย่างเปี่ยมล้น รอยยิ้มที่ทุกคนจดจำได้ขึ้นใจ ทัศนคติของปาร์คทำให้เขาเป็นนักเตะคนโปรดของแฟนบอลเสมอไม่ว่าจะอยู่ที่ใด และเรื่องราวทั้งหมดนี้เองที่ทำให้ชายผู้นี้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลของแผ่นดินเกาหลีใต้ “ปาร์ค จี ซอง”
บันทึก
31
2
31
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย