25 ธ.ค. 2018 เวลา 07:12 • ปรัชญา
การเรียนรู้..เกิดจาก
มลทินในใจ
ทุกสิ่งบนโลกใบนี้ล้วนเกิดมาพร้อมความโดดเด่นที่ต่างกัน เพื่อมาเป็นคุณสมบัติต่างๆ ที่ประกอบรวมกันบนโลกใบนี้ให้มีความสมดุลอย่างลงตัว ถ้าเรามองด้วยวิธีอันคับแคบ เราก็จะมองไม่ค่อยออกเท่าไหร่ แต่เมื่อใดที่เราเปิดใจสิ่งต่างๆ ก็จะกลายเป็นคำตอบให้เราได้ทันที
คน..ไม่ได้มองเห็นในความมืดดีเท่ากับนกฮูก ไม่ได้ดมกลิ่นดีเท่ากับหมา ไม่ได้ตัวอ่อนเหมือนแมว ว่ายน้ำได้ไม่เก่งเท่าปลา วิ่งก็ไม่ดีเท่าม้า...แต่คน มีวิธีคิดที่ซับซ้อน เกินจินตนาการได้ คนจึงไปอยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร
มลทินต่างๆ ที่คนทำไม่ได้เท่าสัตว์ที่มีความโดดเด่นติดตัวมาแต่กำเนิด มันติดอยู่ในใจคนมาเสมอ ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ สัตว์ไหนมีสิ่งใดที่ดีกว่า คนจะต้องคิดหาวิธีทำให้ได้ใกล้เคียงที่สุด สิ่งใดทำไม่ได้เท่าก็ล่าเนื้อหนังเค้ามาเสริมเติมเข้าไปแทนที่
ถึงแม้ว่าทุกวันนี้คนจะพัฒนาสิ่งต่างๆ ไปทดแทนได้มากมาย แต่คนก็ยังไม่เคยหมดมลทินในใจอยู่ดี
รถราคาแพงมีแรงขับเคลื่อนเป็นร้อยแรงมา ก็ไม่พอสำหรับใครหลายคน เสื้อหนังสัตว์อันอบอุ่น มันก็ไม่สามารถทดแทนความหนาวเหน็บในใจได้ กระเป๋าหนังสัตว์หายากคู่บารมีแต่ก็ไม่ดีพอที่จะความเปล่าเปรี่ยวใจที่ใครๆ ไม่รู้ยามอยู่คนเดียว กล้องส่องทางไกลเห็นถึงดาวดวงไหนแต่กลับมองไม่เห็นไม่แม้แต่จะเข้าใจตัวเองและคนข้างๆ ได้ นวตกรรมต่างๆ ล้วนถูกหยิบยกสร้างสรรค์ขึ้นมาจนทุกวันนี AI แทบตะคิดแทนเราได้
แต่มันก็กลับทำให้คนเดียวดายมากยิ่งขึ้น เพราะมันไม่เคยเปิดเผยมลทินในใจของใครต่อใครที่ถูกปิดไว้เลย วิธีการเรียนรู้หลายอย่างกลับเพิ่มตัวตนทับถม ปิดบัง ขยะในใจไว้ ทำให้มันเน่าอยู่ข้างใน และสุดท้ายเราก็จะตายไปพร้อมด้วยขยะในใจเหล่านั้น
เราจะเป็นคนหนึ่งที่ขุดรากถอนขยะ มลทินที่อยู่ในใจเหล่านี้ทิ้ง มันแน่นอนว่าสะอาดเมื่อไหร่มันก็นจบ ขยะหมดมันก็จบการค้นหา ไม่ต้องใช้เวลาไปเรียนรู้อะไรอีก เพราะมันไม่มีอะไรผลักเราให้ต้องปกปิดซ่อนบังอะไรอีกแล้ว ... เมื่อแจ้งแล้วมันก็หมด มันก็จบด้วยตัวมันเอง
โฆษณา