CU-TEP สมัยนี้มีด้วยกันกี่แบบ?
ข้อสอบ CU-TEP ง่ายกว่าโทอิก โทเฟิล จริงหรือไม่?
ครูพี่เป้จะเล่าให้ฟัง
เอาภาพรวมก่อน
ปัจจุบัน CU-TEP แบบปกติสามัญจะประกอบด้วยข้อสอบ 120 ข้อ แบ่งเป็น
ข้อสอบการฟัง 30 ข้อ
ข้อสอบการอ่าน 70 ข้อ
ข้อสอบการเขียน 30 ข้อ
ซึ่งข้อสอบการเขียนนี่ไม่ได้ให้เขียนเรียงความ หรือ essay นะครับ แต่เป็นข้อสอบแบบที่เรียกกันว่า error identification หรือข้อสอบจับผิดแกรมมาร์
ทีนี้ในบางหลักสูตรของจุฬาฯ เค้าต้องการวัดทักษะการพูดด้วย ก็เลยเกิดข้อสอบ CU-TEP & Speaking เพิ่มขึ้นมา
โดยการสอบ speaking จะแบ่งออกเป็น 3 parts ประกอบด้วยการพูดอธิบายภาพ การพูดตอบคำถาม และการพูดสรุปใจความสำคัญของสิ่งที่ได้ฟัง
ทั้งหมดนี้พูดใส่ไมโครโฟนนะครับ บันทึกลงคอมพิวเตอร์ และใช้เวลาแค่ 15 นาที
นอกจากการสอบแบบปกติสามัญแล้ว CU-TEP เค้าพัฒนาข้อสอบเป็นแบบ Computer-based ด้วย โดยใช้ชื่อว่า CU-TEP E-Testing
ข้อดีของแบบ E-Testing คือสอบเสร็จปุ๊บ รู้คะแนนปั๊บเลย
แต่แพงจ้ะ ค่าสอบ 2,500 บาท แพงกว่าปกติ 1,600 บาท
นอกจากนี้ยังมีแบบ E-package ที่รวม speaking เข้ามาให้ด้วย แต่คะแนนส่วน speaking จะรู้หลังสอบ 1 สัปดาห์
ถ้าให้เทียบโทอิคกับ CU-TEP
ในมุมมองครูพี่เป้ โทอิกง่ายกว่านะ
ศัพท์ก็เป็นศัพท์ในชีวิตประจำวัน และที่สำคัญคือไม่มีข้อสอบ error identification ซึ่งต้องแม่น grammar มากจึงจะทำได้ถูกหมด
สิ่งที่ทำให้โทอิกดูยากกว่า CU-TEP คือ เวลาสอบกับจำนวนข้อสอบครับ
โทอิกให้เราสอบ 200 ข้อ เวลานิดเดียว กดดันสุด ๆ สอบเสร็จนี่หมดเรี่ยวแรงราวกับไปวิ่งมาราธอนมาเลย
ดังนั้น ต้องอึด ต้องถึก ต้องทน ต้องเตรียมตัวดี ๆ
เตรียมตัวดี ต้องอ่านสาระดี ๆ จากครูพี่เป้
เพียงกด like กด share กด follow เป็นกำลังใจให้ครูพี่เป้
ความรู้เกี่ยวกับการสอบส่งตรงถึงมือทุกคนทุกวันกันแบบฟรี ๆ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
