#ฮวงจุ้ยคอนโด
ฮวงจุ้ยเป็นศาสตร์ที่ว่าด้วยเรื่องของลม(ฮวง) และน้ำ(จุ้ย) ดังนั้นเวลาเลือกคอนโดฯจึงต้องหาจุดที่สามารถรับลมได้ดี เพียงแต่ต้องไม่แรงจนถึงขนาดได้ยินเสียงหวีดตลอดเวลา และถ้าอยู่ใกล้น้ำ ลมพัดผ่านน้ำจะนำออกซิเจนจำนวนมากเข้ามาในคอนโดฯ แต่ไม่ควรเลือกที่ชิดน้ำมากเกินไป เนื่องจากดินอ่อน ทำให้คอนโดฯทรุดได้ง่าย รวมทั้งไอความชื้นที่มากเกินไป ก็จะทำให้เกิดความเจ็บป่วยได้ง่าย
สภาพแวดล้อมของคอนโดฯ ต้องร่มรื่นมีลมพัดเย็นสบายตลอดทั้งวัน ไม่ควรมีจำนวนอาคารมากเกินไป และมีระยะห่างระหว่างอาคารพอสมควรไม่อึดอัด มีสระน้ำที่น้ำกระเพื่อมเคลื่อนไหวเบาๆ ตลอดเวลา เพื่อกระจายพลังงานที่ดี (พลังชี่) ไปสู่แต่ละห้อง
รูปทรงคอนโดฯ จะต้องมองดูแข็งแรง มั่นคง มีสไตล์ ทันสมัย ไม่เว้าแหว่ง เอียง บิดเบี้ยวดูผอม หรือ แปลกประหลาดจนเกินไป เพราะรูปทรงจะส่งอิทธิพลต่อจิตใต้สำนึกและระบบความคิดของผู้อยู่อาศัย
"ถ้าเราอยู่อาศัยในคอนโดฯ ที่มีรูปร่างเว้าแหว่งไปนานๆเข้า จะมีผลทำให้พลังงานเคลื่อนตัวเข้าไปในอาคารได้ไม่เต็มที่และผู้อยู่อาศัยจะได้รับพลังงานที่ไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะห้องที่อยู่ใกล้กับส่วนเว้าแหว่งจะได้รับผลมากเป็นพิเศษ ในกรณีนี้วิชาฮวงจุ้ยขั้นสูงจะสามารถทำนายได้เลยว่า คอนโดฯเว้าแหว่งทิศใดส่งผลต่อบุคคลในช่วงอายุไหนและอวัยวะส่วนใดของคนพักอาศัยจะเจ็บป่วยได้ง่าย"
ขณะที่ประตูทางเข้าของตัวอาคาร อ.มาศแนะนำควรมีความกว้างและสูงพอสมควร มีโถงภายในขนาดใหญ่ ตกแต่งสวยงามดูสง่าและสว่างตา เพื่อแสดงออกถึงภาพลักษณ์ของผู้อาศัย โดยประตูจะเปรียบเหมือนกับปาก เป็นช่องทางที่จะรับพลังงานจากภายนอกเข้าสู่ภายใน ส่วนโถงเป็นดั่งแหล่งที่พักก่อนถ่ายเทพลังงานสู่ลิฟต์หรือบันได คอนโดฯ บางโครงการไม่มีมีโถงภายใน เมื่อพอเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับลิฟต์ทันที ทำให้สภาพการเงินของคนที่พักอาศัยไม่มั่นคง ไม่สามารถเก็บความมั่งคั่งไว้ได้
"ลิฟต์" นับว่าเป็นส่วนสำคัญที่มองข้ามไม่ได้เช่นกัน
ดังนั้นเวลาเลือกคอนโดฯ ควรมองหาโครงการที่มีจำนวนลิฟต์เหมาะสมกับจำนวนห้อง ไม่ต้องรอนาน เนื่องจากลิฟต์เปรียบได้กับเส้นเลือดหล่อเลี้ยงร่างกาย เมื่อมีเส้นเลือดน้อยจะทำให้ปริมาณเลือดหรือพลังงานไหลไปหล่อเลี้ยงส่วนสำคัญของร่างกายไม่เพียงพอ ส่งผลให้สภาพการเงินของคนภายในฝืดเคือง
ควรเลือกห้องที่อยู่ใกล้ลิฟต์, ห้องตรงช่องหน้าต่างของทางเดิน, ห้องหัวมุม, ห้องที่อยู่ช่วงทางแยก, ห้องที่มีด้านหน้าเป็นโถง, ห้องที่เปิดประตูออกมาไม่เจอเหลี่ยมมุมผนังตึก เพราะเป็นลักษณะของห้องที่พลังงานสามารถส่งเข้ามาถึงได้ง่ายกว่าห้องที่อยู่ระหว่างทางเดินผ่าน แบบที่มีประตูของห้องอื่นอยู่ตรงข้าม
"แต่ถ้าจะให้ดีที่สุดก็ควรเลือกห้องที่ติดสวน หรือห้องที่ใกล้สระว่ายน้ำเพราะพลังงานที่ดีจะเข้าได้เต็มที่ ทำให้ผู้อยู่อาศัยร่ำรวยและมีสุขภาพที่แข็งแรง"
อีกทั้งผังของห้องที่เลือกไม่ควรเว้าแหว่งหรือมีมุมแหลมเป็นซอกแคบ ๆ ส่วนฝ้าเพดานควรสูงอย่างน้อย 2.60 - 3.50 เมตร เนื่องจากฝ้าที่โล่งจะทำให้ปริมาณอากาศที่สะสมภายในตัวห้องมาก การไหลเวียนพลังงานดี ส่งผลให้คนมีสุขภาพที่ดี การทำงานที่มีประสิทธิภาพและความก้าวหน้าในงานที่ทำมากขึ้น
ด้าน "ห้องนอน" จะต้องพิจารณาประตูห้องนอนเป็นสำคัญ เมื่อเปิดออกมาไม่ควรเจอมุมแหลมหรือมีของวางขวางหน้าประตู สำหรับ "หัวเตียง" ไม่ควรวางอยู่ในผนังเดียวกับประตู ควรใช้ผนังที่ตั้งฉากกับประตูเป็นด้านวางหัวเตียง รวมทั้งตำแหน่ง "ไฟ" ห้ามส่องโดนตัวคนเวลานั่งและนอน นอกจากนี้ยังห้ามมีแอร์อยู่บนศีรษะ เพราะจะส่งผลรบกวนการทำงานของสมอง อีกทั้งจะทำให้นอนหลับไม่สนิทร่างกายไม่สามารถซ่อมแซมตัวเองได้สมบูรณ์ ทำให้เจ็บป่วยบ่อย
"ระเบียงห้องควรมีขนาดกว้าง และเมื่อมองออกไปจากระเบียงต้องไม่มีตึกอื่นหรือสิ่งใดมาบดบังสายตา เนื่องจากระเบียงเป็นเหมือนกับช่องรับพลังงานให้เข้ามาสะสมในห้อง"
เชื่อว่าน่าจะมีอยู่หนึ่งสิ่งที่หลายคนติดใจในเรื่องของการเลือกคอนโดฯ กับ "ตัวเลข" ว่าควรเลือกชั้นไหน ห้องที่เท่าไหร่ ถึงจะถูกโฉลกและส่งเสริมชะตาชีวิตของตัวเอง
อาจารย์มาศ อธิบายถึงกรณีนี้ว่า คนที่สนใจศาสตร์ฮวงจุ้ยมักจะเลือกชั้นจากตัวเลขยอดฮิตอย่าง ชั้น 9, ชั้น 8 หรือ ชั้น 27 ซึ่งถือว่าเป็นเลขมงคล ในทางตรงข้ามจะพยายามหลีกเลี่ยงตัวเลขร้ายๆ เช่น ชั้น 13 หรือ ชั้น 6 แต่แท้จริงแล้วการเลือกตัวเลขเหล่านั้นเป็นเพียงความเชื่อของคนโบราณที่จดจำสืบต่อกันมา ไม่ใช่หลักฮวงจุ้ยแท้จริง
การเลือกว่าควรจะอยู่คอนโดฯชั้นไหนดีนั้น ตามหลักการของศาสตร์ฮวงจุ้ยขึ้นอยู่กับว่าคนคนนั้นอยู่ใน "ธาตุ" อะไร เพื่อให้เกิดการส่งเสริมกับรหัสธาตุพลังในตัว แต่ถ้าเกิดห้องที่ได้มาเกิดไม่ตรงกับธาตุที่ต้องการ ยังสามารถใช้วิธีการจัดฮวงจุ้ยภายในการแก้ไขได้ ซึ่งกรณีนี้หากได้รับคำแนะนำจากซินแสมืออาชีพจะดีที่สุด
cr.อ.มาศ
ประชาชาติธุรกิจ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
