12 ม.ค. 2019 เวลา 10:56
#เมื่ออ่านบทความนี้จบ...คุณจะมีพลังในการใช้ชีวิตในวันพรุ่งนี้ทันที
..
ก่อนหน้าที่จะมาเป็นนายตัวเอง เคยทำงานในตำแหน่ง “ช่างเทคนิค”
ที่ บริษัทเบียร์ช้าง (เอาตำแหน่งงานท้ายสุดนะคะ)แต่ก่อนหน้านั้นทำงานมาหลายที่นะคะ
ระหว่างที่ทำงานประจำ มีเงินเดือนหมื่นกว่าบาทไม่มีโอที ไม่มีอะไรเลย
เพราะเข้ากะเช้าตลอดรับเบ็ดเสร็จต่อเดือนคือหมื่นกว่าบาทเท่านั้น
4
ซึ่ง ณ เวลานั้นมีภาระมากมายลูกสาว 2 คน 5 ขวบ กับ 3 ขวบ
สามีต้องออกจากงานมาดูแลลูก(เป็นการตกลงกัน)แม่ของตัวเองเส้นเลือดในสมองแตก
เป็นอัมพาตครึ่งซีก พ่อก็ต้องดูแลแม่ในบางวันส่วนน้องชายติดยา (ถูกจับตลอด)
สรุปคือ เป็นเสาหลักในการเลี้ยงดูคนในครอบครัว
จุดผลิกผลันคือ : ในวันที่แม่ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลเพราะมีอาการแทรกซ้อน
หลังจากที่แกเป็นอัมพาตมาราวๆ 3-4 ปีแม่ต้องไปนอนรักษาตัวที่ รพ.ประจำจังหวัด
ซึ่งห่างไกลจากที่บ้านราวๆ 30 กว่ากิโลหลังเลิกงานจะต้องขับมอเตอร์ไซค์
คนเดียวเพื่อนำเงินที่ยืม คนในโรงงานไปแบ่งปันให้ครอบครัว ได้อิ่มท้อง
ทำแบบนี้อยู่ประมาณ 1 อาทิตย์ แม่เสียค่ะ ในวันที่แม่จากไป ทาง รพ แจ้งว่าต้องมี
ค่าใช้จ่ายนู่น นี่ นั่น ราวๆ 1000 กว่าบาท ถึงจะสามารถนำศพแม่ออกจาก รพ ได้ค่ะ
ซึ่งตอนนั้นไม่มีเงินเลยค่ะ มีติดตัวกับพ่อคนละ 100 เดียวหันไปทางไหนไม่มีใครให้ยืมค่ะ
สุดท้ายตัดสินใจเข้าหาหัวหน้างานยืมเงิน 2000 บาท สรุปคือได้เงินมาเอาศพแม่ ออกจาก รพ. ค่ะ
3
หลังจากเสร็จงานศพแม่ นำเงินที่ได้รับการช่วยเหลือ มาแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือให้พ่อไว้ใช้ ครอบครัวไว้ใช้
และส่วนที่สามคือ ลงทุนทำอะไรสักอย่างค่ะในวันนั้นตัดสินใจซื้อ Notebook ในราคา 8900 บาท
เพราะคิดว่าจะเอามารับจ้างเขียนบทความ เขียนหนังสือ ขาย จะได้มีรายได้เสริมอีกหนึ่งทาง
4
แต่....สิ่งที่เราคิด มันไม่ได้สวยงามเสมอไป
อุปสรรคยังมีมาตลอด ช่วงนั้นไม่ค่อยมีคนรู้จักเรา
ไม่ค่อยมีใครจ้างงานเรา แม้แต่ค่าคอมที่จ่ายไปยังไม่ได้คืน
ตัดสินใจ เขียนหนังสือขึ้นมาหนึ่งเล่ม นำเสนอไปทาง สนพ. บอกเค้าว่าเราอยากมีรายได้
ปรากฎว่าเค้าให้เราทดลองเขียน และเราเองก็มุ่งมั่นจนสำเร็จ
แต่เมื่อเรามุ่งมั่นงานเขียนมาก ย่อมกระทบงานประจำเพราะต้องนอนดึก ตื่นเช้าไปทำงานทุกวัน
ถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจ.....จะเลือกทางไหน
1
ตัดสินใจลาออกจากงานประจำค่ะ การตัดสินใจประกอบไปด้วยความคิดที่ว่า
เราพอจะหารายได้ จากอาชีพเสริมได้บ้างแล้วถ้าเราออกไปลุยเต็มที่ มันน่าจะทำเงินได้มากกว่า
งานประจำที่เรากำลังทำอยู่นี่ อย่างแน่นอนอีกอย่างบ้านเราไม่ต้องเช่า รถไม่มีผ่อน ลูกเรียนโรงเรียนวัด
คือทุกอย่างเราไม่หนักมากเรื่องหนี้สิน เพราะฉะนั้นลาออกเลยหลังจากที่ออกจากงานประจำมาราวๆ 3-4 ปี
เรามีรายได้จากงานเขียนมากกว่างานประจำที่เราทำหลายเท่าตัว บางเดือน 40,000 บางเดือน 60,000
มาจากงานเขียนหนังสือ เขียนบทความ ล้วนๆนะคะ
2
แต่....วิกฤติไม่ได้หมดไปจากชีวิตจริงๆค่ะช่วงที่คนไทยให้ความสนใจสื่อออนไลน์ คนไทยไม่อ่านหนังสือ
วงการหนังสือหล่นตุ๊บ นักเขียนเริ่มไส้แห้งของจริง
3
ทำไงหล่ะทีนี้.......
เราคิดแบบนี้ค่ะ เมื่องานเล่มมันกระทบอย่างหนัก งานเริ่มหดหาย ทำไมเราไม่ลองทำอะไรที่เกี่ยวกับออนไลน์ดู
ทำไมเราไม่ปรับตัวเพื่อให้อยู่รอด คราวนี้เราเริ่มแอดเพื่อนที่ดูหน้าตาเค้าฉลาดๆ555 แบบประมาณว่าเก่งพวกออนไลน์เราแอด กดติดตามเห็นโพสต์เค้าก่อนตลอดเรานำสิ่งที่เค้าโพสต์มาปรับใช้ ซื้อหนังสือมาอ่าน
ดูยูทูป คือทำทุกทางให้ตัวเองสามารถอยู่ในสถานะปัจจุบันได้และแล้วเราก็ได้พบว่า.....เราสมควรทำเพจท่องเที่ยว
ซึ่งนั่นก็เป็นที่มาของประสบการณ์ที่เราเคยแชร์ในครั้งก่อนปัจจุบันเราไม่ลำบากแล้วนะ 5555
เราสามารถเลี้ยงพ่อ ดูแลน้องชาย ดูแลครอบครัวและมีเงินเก็บใน บช เยอะแล้วววววววว
2
ที่เขียนมาเราจะบอกว่า....เมื่อคุณหาความต้องการของตัวเองเจอ
อย่าได้ลังเล ทุ่มเท โฟกัสมันให้สุด
ทำให้เต็มที่ และที่สำคัญคุณอย่ามีข้อแม้ในชีวิตเยอะ
อย่าคิดว่า ทำเพจจะอยู่ได้นานได้ไง เดี๋ยวเฟสปิด ก็ไม่แน่นอน
อย่าไปคิดเยอะค่ะ ทำไปก่อน ถ้าคุณคิดเยอะไม่ได้ทำแน่ๆ
อีกอย่างมันมีอะไรมากมายกว่าหน้าเพจที่คุณเห็นเค้าอัพๆกัน
อย่างเพจเราครั้งที่แล้วเราสรุปคร่าวๆว่าทำมาปีกว่าๆ
เพจนั้นมีรายได้ 300,000 กว่าบาท แต่คุณเชื่อไหม ณ วันนี้
เพจได้รับคอนเนคชั่นมากมาย มันเริ่มต่อยอดไปอีกแล้ว
มันเริ่มมีรายได้ประจำจากค่ารีวิว /เริ่มมีคนจ้างประจำ
และที่สำคัญมันสามารถสร้างรายได้ให้เราแบบไม่มีหมดอายุ
เพราะฉะนั้นจะทำอะไรก็ทำไปเถอะ....
อย่ามัวแต่คิดเยอะ
เพราะเดี๋ยวจะไม่ได้ทำ....ไม่รู้นะ
#พอละยาวมากกกกก ขอบคุณที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้นะคะ
2
โฆษณา