13 ม.ค. 2019 เวลา 06:00 • ประวัติศาสตร์
แจ็กเดอะริปเปอร์ ปริศนาฆาตกรผู้ทำให้ชาวอังกฤษอกสั่นขวัญแขวน
แจ็กเดอะริปเปอร์ เป็นฆาตกรต่อเนื่องรายสำคัญในประวัติศาสตร์อังกฤษ เขาเป็นฆาตกรที่ก่อเหตุสะเทือนขวัญมานับไม่ถ้วน แต่จนถึงปัจจุบัน ก็ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดถึงตัวตนที่แท้จริงของเขา ไม่มีใครเคยเห็นโฉมหน้าที่แท้จริง และเขายังคงเป็นตำนานฆาตกรต่อเนื่องที่โด่งดังที่สุดแห่งเกาะอังกฤษ
วันนี้ผมจะเล่าให้ทุกท่านฟังถึงเรื่องราวของแจ็กเดอะริปเปอร์ครับ
แจ็กเดอะริปเปอร์ เป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ฆ่าหญิงโสเภณีในลอนดอนช่วงค.ศ.1888(พ.ศ.2431) แต่สิ่งที่ทำให้เขาโด่งดัง ก็คือยังไม่เคยมีใครจับเขาได้ ไม่มีใครเคยเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของเขา ประกอบกับการฆ่าที่แสนจะโหดเหี้ยม ไม่ว่าจะผ่าท้องเหยื่อและลากเอาไส้มาแขวนไว้ที่เสาไฟฟ้า หรือการแขวนศพเหยื่อไว้บนกำแพง
ในช่วงเวลาที่เขาลงมือนั้น หนังสือพิมพ์ต่างขายดิบขายดี มียอดขายถล่มทลาย เนื่องจากผู้คนให้ความสนใจเรื่องของเขาอย่างมาก ตำรวจเองก็นั่งไม่ติดเก้าอี้เพราะโดนด่าทุกวันที่ไม่สามารถจับตัวเขาได้ซักที ในบางครั้ง ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุหลังเขาลงมือแล้วเพียงไม่กี่นาที แต่ก็ยังไม่สามารถจับตัวแจ็กเดอะริปเปอร์ได้
เหยื่อเกือบทั้งหมดของเขาเป็นโสเภณี สถานที่เกิดเหตุฆาตกรรมส่วนใหญ่นั้นเกิดในที่สาธารณะ โดยเหยื่อทุกรายจะถูกเชือดคอ หลังจากนั้นซากศพจะถูกหั่นตรงช่วงท้องและบางครั้งที่อวัยวะเพศ คาดกันว่าเหยื่อจะถูกรัดคอให้เงียบเสียงก่อนลงมือฆ่า มีหลายกรณีที่มีการตัดอวัยวะภายในออก จึงมีผู้สันนิษฐานว่าฆาตกรอาจเป็นศัลยแพทย์หรือไม่ก็คนขายเนื้อ
เหยื่อรายแรก แมรี่ แอนน์ นิโคลส์
การฆาตกรรมเหยื่อรายแรก เกิดขึ้นเมื่อวันที่31 สิงหาคม ค.ศ.1888(พ.ศ.2431)
เหตุฆาตกรรมนี้เกิดขึ้นในย่านชุมชนแออัดของลอนดอน โดยได้มีการพบศพของแมรี่ แอนน์ นิโคลส์ ถูกปาดคอจนศรีษะเกือบหลุด และที่ท้องก็ถูกชำแหละด้วยมีดยาวอย่างโหดเหี้ยม ที่เกิดเหตุคือตรอกที่ทั้งเงียบและมืด และไม่มีคนสัญจรผ่านไปมาในตอนเช้า
เมื่อเกิดเหตุฆาตกรรม หนังสือพิมพ์จึงพากันประโคมข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ และหนังสือพิมพ์ยังลงรูปวาดต่างๆที่เกี่ยวกับการฆาตกรรมรวมถึงข้อมูลต่างๆ ซึ่งบางส่วนก็เป็นเรื่องแต่ง นั่นยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ของแจ๊กเดอะริปเปอร์ดูน่ากลัว
1
เหยื่อจำนวนหนึ่งของฆาตกรโหด
ในเวลาต่อมา ก็ได้มีเหตุฆาตกรรมหญิงสาวตามมาอีก โดยมีการระบุว่าพบมีดของฆาตกรในที่เกิดเหตุ ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับมีดผ่าตัดของแพทย์ จึงมีความเป็นไปได้สูงว่าฆาตกรต้องมีความรู้ด้านการแพทย์ กายวิภาค สรีระร่างกาย
1
ต่อมาในวันที่25 กันยายน ค.ศ.1888(พ.ศ.2431) ได้มีจดหมายส่งถึงสำนักงานเซ็นทรัล ลงนาม “แจ๊ก เดอะ ริปเปอร์” และอีก1อาทิตย์ต่อมาก็ได้มีไปรษณียบัตร ลงชื่อ “แจ็กจอมซ่าส์” ถึงสำนักข่าวเดิม นับเป็นการท้าทายนักข่าวและตำรวจของฆาตกรโหดรายนี้อย่างเต็มตัว
เหยื่อรายที่ห้าและคาดว่าน่าจะเป็นรายสุดท้าย แมรี่ เจน เคลลี่
9 พฤศจิกายน ค.ศ.1888(พ.ศ.2431)
2
เกิดการฆาตกรรมเหยื่อรายสุดท้ายที่เชื่อกันว่าเป็นฝีมือ แจ๊ก เดอะ ริปเปอร์ เหยื่อเป็นโสเภณีวัย 25 ปี ชื่อว่าแมรี่ เจน เคลลี่ นอนตายเป็นศพอยู่ในห้องพักของตนเอง สภาพศพเละจนไม่มีชิ้นดี อยู่ในสภาพนอนกางขาบนเตียงนอน ผิวหนังโดนถลก มีมดลูกกองอยู่ปลายเท้า มือข้างหนึ่งถูกจับล้วงเข้าไปในท้องที่โดนควักตับไตไส้พุงออก หัวใจถูกปลิดออกจากขั้วหายไป เลือดสาดกระเซ็นไปทั่วห้อง และตอนนั้นเธอก็กำลังตั้งครรภ์อยู่ด้วย
ตำรวจพยายามอย่างหนักในการตามหาว่าใครคือแจ็กเดอะริปเปอร์ แต่ก็คว้าน้ำเหลวมาตลอด ผู้ต้องสงสัยบางคนก็เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ จนในที่สุด ในปีค.ศ.1892(พ.ศ.2435) ก็ได้มีการประกาศปิดคดีแจ็กเดอะริปเปอร์อย่างเป็นทางการ
1
มาถึงคำถามและปริศนาที่สำคัญครับ เราลองมาคุยกันเรื่องนี้ดีกว่า ใครน่าจะเป็นฆาตกรโหดรายนี้ ในเวลานั้นมีผู้ต้องสงสัยเป็นสิบครับ แต่ก็ไม่มีใครที่ตำรวจจะฟันธงลงไปได้ มีเพียงสองสามรายที่น่าสงสัยที่สุด แต่ก็ไม่สามารถจะหาหลักฐานได้มากพอ โดยผู้ต้องสงสัยหลายรายก็เสียชีวิตอย่างปริศนา บางรายก็เสียสติ
3
ลายมือของแจ๊กเดอะริปเปอร์
การสืบสวนอีกอย่างหนึ่ง คือการตรวจสอบลายมือของผู้ต้องสงสัยกับลายมือในจดหมายที่คาดว่าเป็นของแจ็กเดอะริปเปอร์ เจ้าหน้าที่ได้รับจดหมายจำนวนมากที่อ้างว่าเป็นของฆาตกรรายนี้ แต่ส่วนใหญ่เป็นของปลอม ยกเว้นจดหมายฉบับหนึ่งที่ถูกส่งมาให้หน่วยลาดตะเวนของพลเรือน มันถูกส่งมาพร้อมกับไตข้างหนึ่งของมนุษย์ จดหมายนี้จ่าหน้าว่ามาจากนรก ไม่มีลายเซ็นต์อยู่ที่ท้ายจดหมาย มันมาพร้อมกับไตข้าวหนึ่งของเหยื่อการฆาตกรรม มีข้อความเขียนไว้ว่า “ผมส่งไตมาให้คุณครึ่งหนึ่ง มันถูกเอาออกมาจากผู้หญิงคนหนึ่ง และผมห่อเอาไว้อย่างดี ผมหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ เพื่อที่คุณจะได้กินได้ง่าย ผมอาจจะส่งมีดเล่มนั้นมาให้คุณอีก ถ้าคุณจะกรุณารอต่อไปอีกสักพัก ลงชื่อ มาจากผม ถ้าคุณทำได้”
1
จดหมายฉบับนี้ได้หายไปจากห้องเก็บหลักฐานของสก็อตแลนด์ยาร์ด เมื่อปี 1950 แต่ยังมีสำเนาให้ทำการเปรียบเทียบและวิเคราะห์ลายมือ
แต่จากการวิเคราะห์และหาข้อมูบหลักฐาน สุดท้ายเจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถระบุได้ว่าใครคือฆาตกรรายนี้ จึงจำเป็นต้องปิดคดีในเวลาต่อมา
Aaron Kosminski
แต่ไม่นานมานี้ ได้มีการตรวจสอบดีเอ็นเอบนผ้าคลุมไหล่ของ Catherine Eddowes ทีเป็นหนึ่งในเหยื่อของ แจ็กเดอะริปเปอร์ ก่อนจะพบว่าดีเอ็นเอที่ปรากฏตรงกับชายผู้ชื่อว่า Aaron Kosminski
Aaron Kosminski คือชาวยิวที่หนีมาลอนดอน และเมื่อปีค.ศ.1987(พ.ศ.2530) ชายผู้นี้ก็เคยถูกสันนิษฐานว่ามีแนวโน้มจะเป็นแจ็กเดอะริปเปอร์ตัวจริง และเมื่อผนวกเข้ากับหลักฐานดีเอ็นเอที่เพิ่งค้นพบก็ยิ่งตอกย้ำว่าเขานี่ล่ะคือเป็นฆาตกรตัวจริงในตำนานเรื่องนี้
2
โฆษณา