Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
review.everything.jinglebell
•
ติดตาม
23 ม.ค. 2019 เวลา 00:00 • ปรัชญา
ไพ่ชีวิต
ไพ่หนึ่งสำรับ ห้าสิบสองใบ ไม่ขาดไม่เกิน สับไพ่โดยพระเจ้า และคนหยิบก็คือเรา ไพ่ใบแรกแทนการมาเกิดของแต่ละคน ทำให้แต่คนเกิดมายากดีมีจนไม่เท่ากันตามแต้มที่หยิบได้ หลังจากนั้นก็จะวนเวียนหยิบไพ่เช่นนี้ไปทุกเมื่อเชื่อวัน ทำให้ชะตาแต่ละคนขึ้นๆลงๆไม่ซ้ำกัน ไม่มีใครจะดวงดีจนถึงที่สุด บางคนเริ่มอย่างยิ่งใหญ่ แต่สุดท้ายกลับหมดตัว ในทางกลับกัน ก็มีบางคนเริ่มจากยากจนข้นแค้น จนมีฐานะใหญ่โตได้
มีดวงวิญญาณอยู่สองดวง ได้รับการอนุมัติจากเบื้องบนให้ไปเกิดใหม่ได้ ก่อนไปเกิดใหม่ทางเบื้องบนได้ให้ทั้งสองมาจับไพ่คนละใบก่อนไปเกิด วิญญาณดวงแรกจับได้ไพ่หมายเลขสิบ นับเป็นเลขสูงสุด ดวงวิญญาณนั้นไชโยโห่ร้องอย่างบ้าคลั่ง พร้อมได้รับพรไปจุติเป็นลูกผู้ดีมีอันจะกิน ทุกอย่างดูเลิศเลอไปหมด สมกับได้ไพ่หมายเลขสิบโดยแท้ ส่วนวิญญาณดวงที่สองกลับภาวนาขอให้ได้ไพ่หมายเลขหกก็เป็นที่พอใจแล้ว เพราะโอกาสได้แต้มสูงเช่นวิญญาณดวงแรกแทบเป็นไปไม่ได้ตามข่าวลือของโลกเบื้องหลังความตาย แต่ไม่รู้ชะตาฟ้ากลั่นแกล้งหรือเช่นไร วิญญาณดวงแรกได้ไพ่สูงลิบลิ่ว วิญญาณดวงที่สองกลับได้ไพ่หมายเลขหนึ่งซึ่งเป็นแต้มต่ำเตี้ยที่สุด เหมือนกับพระเจ้าจะพยายามรักษาสมดุลในทุกเหตุการณ์ เมื่อมีแสงสว่างก็ย่อมมีความมืด เมื่อมีสูงย่อมมีต่ำ และเช่นเดียวกันเมื่อมีโชคดีสุดขีดก็ต้องมีโชคร้ายสุดขีดเช่นกัน
ทูตสวรรค์ต่างส่ายหน้า เพราะนี่จัดเป็นโชคร้ายที่จะหยิบได้ไพ่หมายเลขหนึ่ง ซึ่งพันปีจะมีซักหน พระผู้เป็นเจ้าไม่เคยใจร้าย เช่นนี้มาก่อน เพียงแต่ว่าเพื่อเป็นการรักษาสมดุลของหลักเหตุและผล จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดวงวิญญาณนั้นได้แต่ร้องห่มร้องไห้ตีอกชกหัวตัวเอง พร้อมกับมองไปที่ทูตสวรรค์เพื่อขอความวิงวอนเห็นใจ แน่นอนทูตสวรรค์แม้จะเห็นใจ แต่ย่อมไม่สามารถขัดหลักเหตุและผลได้ ดวงวิญญาณที่สองมองไปในสายตาเหล่านั้นก็พอจะเข้าใจ จึงได้แต่ก้มหน้ารับชะตากรรมเพื่อเตรียมการไปเกิดใหม่ แต่เรื่องไม่น่าเชื่อกลับเกิดขึ้น เมื่อพระเจ้ากลับเรียกดวงวิญญาณดวงที่สองเข้าพบ และกล่าวอะไรเป็นการส่วนตัวเล็กน้อย ซึ่งก็ดูเหมือนทำให้สภาพจิตใจของดวงวิญญาณที่สองดีขึ้นได้ และก้าวเท้าออกไปจากตำหนักอย่างห้าวหาญเตรียมพร้อมไปเกิดใหม่ทันที
ในเมื่อไพ่ใบที่สิบบันดาลทุกอย่างให้มั่งมีศรีสุขได้ ไพ่ใบที่หนึ่งย่อมบันดาลความยากจนข้นแค้นแสนสาหัสยิ่งนัก
ดวงวิญญาณดวงแรกเกิดมาในตระกูลขุนนางร่ำรวย คาบช้อนเงินช้อนทองมาตั้งแต่เกิด ตั้งแต่เล็กจนโตไม่มีอะไรที่อยากได้แล้วไม่เคยได้ นอกจากถึงพร้อมด้วยลาภแล้ว ยังถึงพร้อมด้วยยศศักดิ์ ซึ่งมีบรรดาศักดิ์ที่ราชาประทานให้แก่ขุนนางและใช้สืบทอดชั่วลูกชั่วหลานได้
ดวงวิญญาณที่สองกลับต้องไปเกิดในครอบครัวยากไร้ บิดามารดาต้องทำงานหาเช้ากินค่ำ ข้าวปลาอาหารแทบจะไม่เพียงพอในแต่ละวัน ใช้ชีวิตอย่างอดมื้อกินมื้อ ค่ำไหนนอนนั่น ไม่มีที่พักเป็นหลักแหล่ง
ชีวิตวัยเด็กนับว่าแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว ข้างฝ่ายวิญญาณดวงแรกไม่สนใจจะร่ำเรียนหนังสือหนังหา ครูบาอาจารย์ที่บิดาเชิญมาล้วนเจอกลั่นแกล้ง ข้างครูหรือ ก็ไม่อาจจะพูดอะไรออกไปได้ เพราะเกรงบรรดาศักดิ์ที่ติดตัวมาของลูกศิษย์ตน เพราะหากถูกใช้มา กล่าวอ้างว่าไม่ให้ความเคารพกับบรรดาศักดิ์โทษอาจถึงตัดหัวก็ได้
ข้างฝ่ายดวงวิญญาณดวงที่สอง แม้เกิดในตระกูลยากจน แต่จิตใจกลับใฝ่เรียนรู้ ทุกวันหลังจากช่วยบิดามารดาทำงานเสร็จสิ้น เป็นต้องวิ่งไปแอบเรียนหนังสือที่สำนักของอาจารย์ที่บิดาขุนนางของวิญญาณดวงแรกเชิญมา อาจารย์ที่สอนเองก็ใช่ว่าไม่รู้ว่ามีเด็กน้อยผู้หนึ่งแอบมาเรียนทุกวันโดยนั่งแอบอยู่ตามพุ่มไม้ แต่ตัวอาจารย์เองกลับทำเป็นไม่เห็นและขอให้ลูกศิษย์ทั้งหลายทำเป็นไม่เห็นด้วยเพื่อไม่ให้เด็กน้อยลำบากใจ อันว่าวิชาความรู้มอบให้ไม่มีที่สิ้นสุด อาจารย์คนดังกล่าวกลับได้ลูกศิษย์เพิ่มจากคำสอนที่ตนยึดถือไปในลักษณะนี้
วันเวลาหมุนผ่าน ราชวงศ์ผลัดเปลี่ยน เด็กน้อยทั้งสองต่างเติบใหญ่
ดวงวิญญาณแรกกลับต้องเจอชะตาพลิกผัน เมื่อราชวงศ์เปลี่ยนราชาองค์ใหม่มาจากการปราบดาภิเษกขึ้นไป กลับมีรับสั่งให้ถอดถอนขุนนางที่ตนไม่ชอบใจออกและยึดทรัพย์สมบัติกลับเข้าคลังหลวง ซึ่งครอบครัวของดวงวิญญาณแรกพอดีกับอยู่ในกลุ่มดังกล่าว เมื่อไร้ซึ่งสมบัติ ไร้ซึ่งปัญญา ครอบครัวแตกสานซ่านกระเซ็นประดุจสายน้ำไหลบ่า เขาจึงทำได้เพียงนั่งขอทานอยู่ในมุมมืดอย่างสงบ แต่ในใจกลับโทษแต่สวรรค์ โทษแต่พระเจ้า
ดวงวิญญาณดวงที่สองกลับมีชะตาที่ดีขึ้น ผลจากการศึกษาเล่าเรียนในวัยเยาว์ ทำให้มีโอกาสสอบเป็นขุนนาง ตามนโยบายของราชาองค์ใหม่ที่ต้องการเชิดชูผู้มีความรู้ แม้จะไม่มีตำแหน่งใหญ่โตอันใด แต่ก็ถือว่าพลิกชีวิตของดวงวิญญาณที่สองจากหน้ามือเป็นหลังมือ เขามีบ้านให้บิดามารดาอาศัยในยามชรา มีเงินเก็บที่จะไว้ใช้จ่ายเมื่อตนแก่เฒ่า และที่สำคัญเขายังกลับไปเป็นอาจารย์สอนหนังสือโดยเชื้อเชิญลูกศิษย์จากทุกสารทิศมาเล่าเรียนโดยไม่คิดเงินแม้แต่เหรียญเดียว เพื่อเป็นการมอบความรู้ส่งต่อรุ่นสู่รุ่นโดยมิได้หวังผลตอบแทนอันใด
ทูตสวรรค์ต่างทอดถอนใจกลับชะตาที่พลิกฟ้าคว่ำดินของทั้งสองเช่นนี้ และก็ต้องแปลกใจอีกเช่นกันว่าบทสรุปของไพ่หมายเลขสิบกับหมายเลขหนึ่งจะกลับตาลปัตร ทูตสวรรค์ผู้อยากรู้อยากเห็นจึงรวมกลุ่มกันเพื่อไปขอคำอธิบายจากพระเจ้าถึงเหตุการณ์ดังกล่าว โดยเฉพาะกับคำพูดสุดท้ายที่ได้กล่าวกับดวงวิญญาณที่สองก่อนไปเกิด
พระเจ้าได้อธิบาย ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ไว้ดังนี้
การหยิบไพ่ใบแรกอาจแม้นเป็นก้าวสำคัญที่ส่งมาให้มนุษย์ยากดีมีจนแตกต่างกัน แต่นั่นไม่ใช่ก้าวสำคัญที่สุด เพราะยังมีหน้าไพ่ที่เป็นตัวกำหนดชะตาขึ้นๆลงๆของแต่ละวันอีก ดังนั้นมนุษย์ทำได้เพียงตั้งอยู่ในความไม่ประมาท แม้จะเกิดมายากจนก็มีโอกาสพลิกฟื้นชะตาได้ในภายหลัง
ส่วนคำพูดที่กล่าวกับดวงวิญญาณดวงที่สองนั้น ได้กล่าวไว้ว่า
ข้าเลือกเจ้าด้วยหลักเหตุและผลของสวรรค์เบื้องบนก็จริง แต่ข้าเห็นถึงรากเหง้าแห่งปัญญาและความอดทนในตัวเจ้า ตัวเจ้านั้นถึงพร้อมด้วยความเข้มแข็งอดทนต่อความยากลำบากใดๆทั้งหลายในโลกและชะตาอันยิ่งใหญ่ที่ข้าจะมอบให้ ขอให้มุ่งมั่นกระทำความดี และในภายภาคหน้าชะตาชีวิตเจ้าจะเปลี่ยนไป
ดังนั้นหากวันนี้ท่านใดยังลำบากยากเข็ญอยู่ ขอให้รับรู้เถอะว่าท่านเป็นผู้ถูกเลือกที่สามารถอดทนต่อเรื่องราวต่างๆนั้นไปได้ จงมีความอดทน พยายามหมั่นประกอบคุณงามความดี กตัญญูต่อผู้มีพระคุณ และท่านจะพลิกชะตาตัวท่านได้ในที่สุด
Original Story by review.everything.jinglebell
4 บันทึก
43
4
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
นิทาน The series
4
43
4
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย