กรมหลวงชุมพร...สอนมวยอั้งยี่!!!
!!วันมังกรสู้เสือ!!
เมื่อนักมวยของเสด็จในกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์
มีคู่ปรปักษ์เป็นนักมวยจีนจากฮ่องกง!!!
https://m.tnews.co.th/contents/204866
เรื่องมีอยู่ว่า
หลังการกลับเข้ารับราชการของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตร
อุดมศักดิ์
เมื่อปี พ.ศ. 2460
ณ วังเปรมประชากร
ซึ่งเกือบจะกลายเป็นสถานพยาบาลขนาดย่อมๆ
ไปแล้วนั้น
ยังมีโซนหนึ่งที่ "เสด็จในกรม" ท่านทรงเอาไปทำเป็น
"ค่ายมวย" อีกด้วย
กล่าวคือพระองค์เปิดวังรับนักมวยฝีมือดีที่เดินทางเข้ามาในพระนคร แต่ยังไม่รู้จะไปซุกหัวนอนที่ไหน
ให้มาพักอยู่ในวังของพระองค์ได้
ด้วยความที่พระองค์ทรงมีพระทัยเป็น "นักเลง" เฉกเช่นเดียวกับสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ที่โปรดปรานนักมวยฝีมือดีอย่างนายทองดี ฟันขาว
ที่ติดตามรับใช้จนได้เป็น "พระยาพิชัยดาบหัก"
https://m.tnews.co.th/contents/393132
ในปี พ.ศ. 2464 นั้นได้มีเสือร้ายลายพาดกลอนสองสหาย คือ "นายยัง หาญทะเล" และ "นายทับ จำเกาะ"
สองคู่หู "ตีนดี" จากโคราช
ที่เหวี่ยงแข้งกวาดนักมวยภาคอีสานลงจากเวทีมา
นักต่อนัก
ได้เดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯ
และได้เข้ามาพักอยู่ภายในวังเปรมประชากรของเสด็จในกรม
เวลานั้นได้มีการประกาศหานักมวยชาวต่างชาติให้เข้ามาวัดฝีมือกับมวยไทย
ซึ่งจะเป็นชาติใดก็ได้ไม่ว่าจะเป็นจีน จาม พม่า มอญ เวียดนาม แขก เขมร
https://www.thairath.co.th/content/504852
โดยให้มีมวยไทยฝีมือดีเป็นตัวยืน
ประจวบเหมาะกับที่เวลานั้นพวกนักเลง "อั้งยี่" ที่ก่อเรื่องตีกันให้ต้องร้อนถึงสันติบาลไม่เว้นแต่ละวัน
อยากจะหาเหตุ "สำแดงเดช" ข่มหัวนักมวยไทยให้ได้รู้ฤทธิ์มวยจีนเสียบ้าง
ได้ตัดสินใจรวมตัวกัน import นักมวยจีนมีฝีมือดีเข้ามาคนหนึ่งจากฮ่องกงนามว่า "จี๊ฉ่าง"
นาย "จี๊ฉ่าง" นี้เบื้องต้นได้มาพักอยู่กับเพื่อนชาวจีนในย่านเยาวราช
มีกิตติศัพท์เลื่องลือเข้าไปถึงในวังเปรมประชากรว่านายจี๊ฉ่างผู้นี้ สามารถใช้ "หมัดหัวนกอินทรี"
ต่อยทะลุมะพร้าวห้าวเนื้อแน่นเป็นรูจนไส้ไหลออกมาภายในหมัดเดียวได้
เอาสันมือฟันโต๊ะไม้ขนาดกลางขาดเป็นสองท่อนได้ภายในครั้งเดียว
ใช้นิ้วมือสองนิ้วบีบ "ลูกเหล็ก" แข็งๆ ให้บุบได้ ราวกับว่าเตรียมตัวมาบีบกระเดือกนักมวยไทยให้ตายคาเวที
https://www.thairath.co.th/content/504852
ได้ยินแบบนี้เสด็จในกรมก็ไม่ทรงนิ่งนอนพระทัย
เข้มงวดกวดขันการฝึกซ้อมนักมวยในวังด้วย
พระองค์เอง
ถึงกับทรงคอยเป็น "พี่เลี้ยง" คอยส่งเสียงเตือนเรื่อง
"ช่องว่าง" เวลาที่นักมวยซ้อมคู่
และถ้าใครดูท่าไม่ได้ดั่งใจ
ก็อาจต้องเจอกับ "มวยในกรม" เป็นผู้สั่งสอนด้วยพระหัตถ์และพระบาทของพระองค์เอง!
ช่วงเวลาผ่านไปจนถึงวันประลอง
สองฟากฝั่งอัฒจันทร์ของ "สนามมวยสวนกุกลาบ" แน่นขนัดไปด้วยกองเชียร์ทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายจีน
ขนาดว่าต้องมีสันติบาลมาคุมเข้มเพื่อไม่ให้เกิดการวิวาทระหว่างสองชนชาติขึ้น
https://www.silpa-mag.com/history/article_8520
นักมวยตัวแทนฝ่ายไทยคือ "นายยัง หาญทะเล" ปรากฎตัวขึ้นพร้อมเสียงโห่ต้อนรับของฝ่ายไทย
ในขณะที่ "จี๊ฉ่าง" ในเครื่องแบบ "จอมยุทธ์" เต็มยศก็เรียกเสียงฮือฮาจากฝ่ายจีนอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง
ทั้งสองฝ่ายปราดมาพบกันเวที กรรมการและล่ามภาษาจีนอธิบายกฎกติกาอยู่พักใหญ่
จนในที่สุดก็แยกออกไปเหลือแค่นักมวยทั้งคู่
กลองสัญญาณดัง "ตุ้ง"! หมายถึงให้พุ่งเข้าชกกันได้
นายยังใจเย็นเคี้ยวหมากพลางหันไปกราบทางทิศที่เสด็จในกรมทรงประทับอยู่
เสด็จในกรมทรงผงกพระพักตร์เป็นการเล็กน้อย ก่อนที่นายยังจะรำร่ายไหว้ครูต่อไป
"จี๊ฉ่าง" ชักทนไม่ไหว รวบรวมกระแสลมปราณตะเบ็งเสียงดัง "ว๊ากกกส์!!!" ลั่นสนามพร้อมกระโดดลอย
ตัวสูงลิ่ว
เงื้อ "หมัดหัวนกอินทรี" หมายกลางกระหม่อมกะเอาให้เละเหมือนลูกมะพร้าว
จังหวะนั้นนายยัง "กระหยด" ทำนองเดียวกับที่พระยาพิชัยหลบตีนครูห้าว
https://m.tnews.co.th/contents/393132
แต่การกระหยดของนายยังนี้ได้สร้างความฮือฮาให้แก่คนดูรอบสนามเสียยิ่งกว่า
ด้วยว่าอาการของ "จี๊ฉ่าง" ซึ่งมักจู่โจมด้วยการโผนทะยานกับอาการหลบไปหลบมาของนายยังนั้น
มันดูคล้ายเด็กไล่จับกระต่ายในกรงเสียยิ่งกว่าคนชกมวย!
กองเชียร์ฝ่ายไทยเริ่มเงียบเสียงพราะไม่รู้ว่านายยัง
"หนีเอาชัย" อันเป็นกลยุทธ์ที่ใช้มาแต่ครั้ง
พระยาพิชัยตีมวยที่เมืองตาก เป็นกลยุทธ์เพิ่อการดูเชิง และตัดกำลังศัตรูแต่ต้นยก
คนจีนชักได้ใจ เห็นนายยังไม่สู้ ส่งเสียง "ฮ้อดฉอย!
ฮ้อยฉอย!" คล้่ายกับจะเร่งให้มวยจีนขยี้มวยไทยให้เละ
แต่แล้วในวินาทีที่ไม่มีใครคาดคิดนั้น
นายยังที่กำลังย่อต่ำเป็นที่น่าขำของฝ่ายจีน
กลับเปลี่ยนจากท่าย่อมาเป็นการกระโดด "เข่าลอย"
เข้าอก "จี๊ฉ่าง" ดังพลั่ก!
http://oknation.nationtv.tv/blog/horsupawut/2014/06/20/entry-1/comment
เคราะห์ดีที่ไม่โดน "หัวเข่า" เข้าอย่างจัง เพียงแต่โดน "แข้ง" ที่ไม่สู้แข็งอะไร มวยจีนจึงแค่เซถลา
พอดีสัญญาณกลองดัง "ตุ๊ง"! เป็นอันว่าหมดยกที่ 1
เกี่ยวกับวีรกรรมของเสด็จในกรม ในสนามมวยสวนกุหลาบนี้
มีเรื่องเล่าว่าบางทีก็มี "เซียนมวย" เที่ยวมาประกาศพนันขันต่อเป็นที่น่ารังเกียจ
หรือบางทีก็มาป่าวประกาศข่าวลือที่หาต้นสายปลายเหตุไม่ได้สร้างความเชื่อที่งมงายและความแตกแยก
เสด็จในกรมท่านจะทรงลุกจากที่ประทับ!
พร้อมกับผินพระพักตร์และชี้กล้องไปป์ที่ทรงคาบอยู่ไปยังใบหน้าของไอ้นักเลงนั้น
แล้วกล่าวด้วยภาษาที่สุภาพแต่น้ำเสียงเด็ดขาดว่า
"หากมิรู้อะไรจริงไม่จริงก็ขอให้เงียบเสียงลงเสียบ้างเถิด!"
"มิเช่นนั้นฉันจะเป็นผู้ทำให้เงียบเสียเอง!"
ต่อแต่นั้นมาก็ไม่มีนักเลงหน้าไหนกล้ามากร่างในสนามมวยสวนกุหลาบอีกเลย
http://lakmuangonline.com/?p=4151
พอยกที่ 2 นายยังเริ่มย่ามใจกับชัยชนะในยกแรก
เดินดุ่มๆ เข้าหามวยจีนแล้วประเคนทั้งหมัดทั้งเท้าราวๆ 4-5 ทีจนมวยจีนต้องถอย
แต่อาจเพราะย่ามใจจนลืมว่าอีกฝ่ายก็เป็นยอดมวย
มวยจีนฝืนเจ็บตอบโต้นายยังด้วยหมัดเขกเข้ากลางดั้งจมูกจนนายยังเซถลาไปพิงติดเชือก
มวยจีนได้โอกาสกระโดดเข้าหาระดมหมัดหัวนกอินทรีเข้าใส่แบบไม่เลือกที่และไม่ยั้ง!!!
นายยังตกใจหลบไปหลบมาจนพลาดท่า
"ตกเวที"!!!
แต่ก็ไม่รีรอรีบปีนกลับขึ้นมาอย่างเร็วรี่
มวยจีนได้ทีเสยหมัดหงายเข้าเต็มแรงจนนายยังถึง
"เข่าทรุด"!
มีบางคนสังเกตเห็นอาการของเสด็จในกรมว่าทรงขยับพระหัตถ์และพระบาทหลายครั้งโดยมิตั้งใจ
คล้ายกับว่าทรงเป็นผู้ชกอยู่ในเวทีนั้นเสียเอง!!!
จะด้วยรับรู้ถึงกระแสความเป็นห่วงจากเสด็จในกรมหรืออย่างไรไม่ทราบได้!!!
นายยังฝืนเจ็บ "ฮึด" ขึ้นมาระดมต่อยหน้าจี๊ฉ่าง
แบบไม่ยั้ง!
แถมยังเสยสุดแรงตีนจนจี๊ฉ่างหัวคะมำก่อนหมด
ยกที่สอง
https://m.pantip.com/topic/30355919?
เป็นอันว่าสะบักสะบอมด้วยกันทั้งคู่
นักมวยในความดูแลของเสด็จในกรมนั้น ก็มีด้วยกันหลายประเภท
อย่าง "นายยัง หาญทะเล" คนนี้นับว่าเป็นศิษย์หัวแถวที่ปฏิบัติตัวตามที่ได้รับการอบรมจากเสด็จในกรมทุกประการ
แต่ก็ยังมิวายมีศิษย์ปลายแถวบางพวกที่ทำให้เสื่อมเสีย
พระเกียรติยศ
เช่นคราวหนึ่งมีนักมวยจากในวังเมาเหล้า คิดว่าตัวเองอยู่ยงคงกระพัน
เอาตัวไปนอนแล้วท้าให้รถรางทับอยู่กลางตลาด!
พอถูกจับกลับไปที่วัง
เสด็จในกรมทรงจับขังเดี่ยว ไว้ในห้องบูชาที่มี "เศียร"
พระภิราพอันน่าเกรงขามตั้งอยู่กลางห้อง
พอเช้าวันรุ่งขึ้นไอ้หนุ่มนั่นก็หน้าซีดรีบหุนหันออก
จากวังไป!
มีข้อสงสัยว่าเสด็จในกรม ท่านอาจส่งคนไป "ขับร้องทำนองเสนาะ" หรือ "บรรเลงดนตรีไทย" อันไพเราะ
ให้มันฟังจนประสาทหลอนนอนไม่หลับทั้งคืน!!!
http://shreegurudevamantra.blogspot.com/2016/09/blog-post_20.html?m=1
พอยกที่ 3
นายยังเริ่มสังเกตเห็นท่าทีอ่อนแรงของจี๊ฉ่าง
อาจเป็นด้วยกลมวย "แสร้งทำอ่อนข้อ...ล่อให้ตามตี" เมื่อยกแรกของนายยังเริ่มออกฤทธิ์แล้ว
ตอนนี้นายยังจึงมุ่งตัดลำตัวเพื่อทอนกำลังอีกฝ่าย
จี๊ฉ่างไม่ยอมเสียทีหนีบแขนนายยังเอาไว้แน่น!
คราวนี้เสียงฮือก็กระหึ่มขึ้นทั้งสนามเพราะสงครามแลกหมัดแบบไม่ยั้งอย่างบ้าคลั่งได้เกิดขึ้นกลางเวที
หมัดหัวนกอินทรีของจี๊ฉ่าง และหมัดเหวี่ยงควายสลบของนายยังสวนกันไปสวนกันมาจนไม่รู้ว่าใครเป็นใคร
กรรมการต้องจับแยก
ปรากฎว่าหัวจี๊ฉ่างเริ่มมีเลือดไหล แต่ก็ยังยืนหยัดต่อไปเพราะใจสู้!!!
นายยังสืบเท้าเข้าหาทำทีว่าจะต่อยให้จี๊ฉ่างหลงผิด
พอจี๊ฉ่างปิดนายยังเหวี่ยงตีนขวาสุดแรงเกิดเข้าที่ตะโพกดังพลั่ก!
ไอ้จีนใจเด็ดคว้าขานายยังไว้แน่นแล้วกระชากเข้าหาตัว
https://www.silpa-mag.com/history/article_8520
ง่ามมือขวาแบอ้าออกคล้ายปากมังกร หมายช้อนเข้าไปใน "ไหปลาร้า" ของนายยังแล้วควักออกมาโชว์กลางเวที!!!
คนดูฝ่ายไทยลุ้นกันแทบใจหายใจคว่ำ!!!
นายยังเองก็ตกใจกระชากขากลับ!
จี๊ฉ่างเซจนเข่าทรุดมาด้านหน้า ส่วนมือที่จะคว้าไหปลาร้ากลายมาเป็นกอดเอวนายยังไว้
จี๊ฉ่างตอนนี้แทบไม่เหลือเรี่ยวแรงอะไร มีอาการสำแดงเหมือนคนตกน้ำแล้วหอบพยายามหาที่พึ่ง
แต่นายยังไม่คิดจะเป็นที่พึ่งให้ใคร!
ระดม "ควาย" (หมัดเหวี่ยงควายสลบ) เข้ากกหูจี๊ฉ่างอย่างไม่ปราณีและไม่นับ!
"ตุบตับ!...ตุบตับ!...ตุบตับ!...ตุบตับ!" เสียงดังต่อเนื่องกลางสนาม
https://thaiachira.blogspot.com/2014/09/blog-post_6.html?m=1
กองเชียร์ชาวสยามส่งเสียง
"ยัง...อย่าเลี้ยง!!! ยัง...อย่าเลี้ยง!!! เอาให้ตาย!!!"
ดังกระหึ่มปานฟ้าถล่ม
ส่วนฝ่ายจีนได้แต่นั่งก้มหน้าไม่ปริปากสักคำ
วินาทีที่จี๊ฉ่างเบือนหน้าบ้วนเลือดออกจากปาก
หมัดขวามหาประลัยก็ส่ง "มังกรไฟ" ลงไปนอนกลิ้ง
อยู่กับพื้น
ท่านปรมาจารย์เขตร ศรียาภัยได้มีข้อความทิ้งท้ายในเหตุการณ์นี้ว่า
"มวย เป็นวิชาต่อสู้ตามที่ครูจะสอนลูกศิษย์ ก็ใครเล่าที่ทรงภูมิปัญญาสอนได้ดังกล่าว"
"ถ้ามิใช่เสด็จในกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์แห่งราชวงศ์จักรี ที่สอนวิธี "หนีเอาชัย" ให้นายยัง หาญทะเล"
"ด้วยสายพระเนตรอันแหลมคม สมฉายาเจ้าพ่อกรมหลวงชุมพรในปัจจุบัน!"
กลุ่มคนรักเสด็จเตี่ย : facebook.com
เค้าโครงเรื่องเดิมจาก
เขตร ศรียาภัย : ปริทัศน์มวยไทย
เพิ่มเติมความมันส์สะใจ โดย
//The Chariot
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
