Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
บทเรียนจากเชื้อโรค
•
ติดตาม
30 ม.ค. 2019 เวลา 04:08 • สุขภาพ
หอยนางรม - อุจจาระเข้มข้นแห่งท้องทะเล
1
ใครที่ชอบทานหอยกรุณาอย่าอ่าน
แล้วจะหาว่าไม่เตือน
เครดิตภาพ: Dishant Bhasin
เวลามีคนไข้มาหาหมอด้วยอาการท้องเสียหรือตับอักเสบ คำถามหนึ่งที่เรานิยมถามกันคือ
"กินหอยมาหรือเปล่า?"
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหอยนางรมสด (ดิบ) เป็นอาวุธชีวภาพที่สังหารคนไปไม่น้อยเลยทีเดียว อาจจะน่ากลัวกว่าซองจดหมายที่โรยสปอร์เชื้อแอนแทรกซ์เสียอีก
แล้วหอยมันไปเกี่ยวอะไรกับโรคท้องร่วงหรือตับอักเสบ
โรคพวกนี้ส่วนหนึ่งเกิดจากการติดเชื้อ ซึ่งเชื้อจำพวกนี้จะติดต่อโดยออกทางก้นเข้าทางปาก (feco-oral route)
พูดง่าย ๆ คือเรากินอึของใครสักคนที่มีเชื้อเข้าไปถึงได้ติดเชื้อที่ทำให้เกิดท้องร่วงได้
คงไม่มีใครอุตริไปกินอุจจาระสด ๆ แต่มันอาจปนเปื้อนมาสู่เราทางใดทางหนึ่ง เช่น
1
ไม่ล้างมือหลังใช้ห้องน้ำสาธารณะแล้วมาทานข้าว เราอาจได้เชื้ออหิวาห์ติดมือมาจากการจับลูกบิดที่เปื้อนคราบอุจจาระจากมือคนอื่นที่เรามองไม่เห็น
1
ทานผักสดที่บำรุงด้วยปุ๋ยคอกซึ่งมาจากอุจจาระสัตว์หรือคน
แม่ครัวที่ทำอาหารเป็นพาหะของเชื้อก่อโรค เช่น คุณ ไทฟอยด์ แมรี่ (Typhoid Mary) ผู้ซึ่งนำเชื้อไทฟอยด์ไปแพร่ให้ทุกบ้านที่จ้างงานเธอ
มีคนถ่ายลงแหล่งน้ำ เช่น แม่น้ำคงคาอันศักสิทธิ์ สระว่ายน้ำ หรือ สวนน้ำ คนที่ไปอาบ ดื่ม หรือเล่นน้ำ ก็มีโอกาสซวยได้ (เชื้อบางชนิดทนคลอรีนในสระว่ายน้ำได้)
อวัยวะเพศค่อนข้างอยู่ใกล้ทวารหนัก กิจกรรมทางเพศบางอย่าง ก็ส่งเชื้อจากอุจจาระเข้าสู่ปากของอีกคนได้
ฯลฯ ตามแต่จะจินตนาการ
การที่ผู้ป่วยติดเชื้อที่ติดต่อด้วยวิธีดังกล่าวจากการทานหอย นั่นแสดงว่ามีอุจจาระปนเปื้อนในแหล่งน้ำที่หอยเหล่านี้อาศัยอยู่ อุจจาระนี้อาจมาจากชาวประมงที่เป็นผู้เลี้ยงหอยเอง หรือจากน้ำทิ้งของชุมชนที่อยู่ใกล้เคียง
2
อุจจาระรวมถึงเชื้อก่อโรคที่ปล่อยลงทะเล ก็น่าจะถูกเจือจางไปตามธรรมชาติด้วยน้ำปริมาณมหาศาล
เผอิญ หอยนางรม (oyster) หอยแมลงภู่ (mussel) รวมไปถึงหอยฝาคู่ (bivalve) อื่น ๆ จะสูบน้ำกรองผ่านเหงือกแล้วเขมือบพวกแพลงตอนที่กรองได้เป็นอาหาร (filter-feeder)
หอยนางรมจัดเป็นเครื่องกรองน้ำในธรรมชาติชั้นยอด ตัวนึงสามารถกรองน้ำได้ถึง 50 แกลลอน (190 ลิตร) ต่อวัน ช่วยให้น้ำขุ่น ๆ ใสได้ในเวลาไม่นาน
youtube.com
Oyster Filtration
Time-lapse video demonstrating oyster filtration. An adult oyster is capable of filtering 20 to 50 gallons of water per day. It is estimated that historic po...
น้ำจากแหล่งเดียวกัน ในตู้ซ้ายที่ไม่มีหอยนางรม จะขุ่นกว่าเมื่อเทียบกับตู้ขวาที่มีหอย ที่มา: www.mbl.edu
สิ่งที่ถูกกรองเอาไว้ดันไม่ได้มีแต่แพลงตอนทั่วไป พวกเชื้อก่อโรคก็ถูกกรองติดสะสมอยู่ในตัวหอยด้วย
เชื้อก่อโรคที่มีรายงานว่าพบในหอยนางรม เช่น
แบคทีเรีย:
เชื้ออหิวาห์และผองเพื่อน [Vibrio]
เชื้อบิดไม่มีตัว [Shigella]
เชื้อไทฟอยด์และญาติ ๆ [Salmonella]
เชื้อที่ทำให้ท้องร่วงอื่น ๆ [Campylobacter], [E. coli], [Aeromonas]
ไวรัส:
ตับอักเสบเอ (hepatitis A) และตับอักเสบอี (hepatitis E) ทำให้เป็นดีซ่าน (jaundice) ส่วนใหญ่ไม่รุนแรง แต่ก็มีบ้างที่ตับวายจนต้องผ่าเปลี่ยนตับหรือเสียชีวิต
โนโรไวรัส (norovirus) ทำให้ท้องเสีย พบการระบาดได้บ่อยในเรือสำราญ
โรตาไวรัส (rotavirus) เป็นสาเหตุของท้องร่วงและการตายในเด็กเล็กที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในประเทศที่สาธารณสุขไม่ดีและยังไม่หยอดวัคซีนให้เด็กทุกคน
โปลิโอไวรัส (poliovirus) ไวรัสที่ทำให้ขาลีบที่เคยเป็นปัญหาใหญ่มากในอดีต จนกระทั่งเรามีวัคซีน เชื้อเพิ่มจำนวนในลำไส้เป็นหลัก ส่วนน้อยที่มันจะไปเล่นงานไขสันหลังจนเกิดความพิการได้
1
ไวรัสที่ทำให้ท้องเสียได้อื่น ๆ เช่น adenovirus, astrovirus, enterovirus, Aichi virus
โปรโตซัว:
ท็อกโสพลาสมา [Toxoplasma gondii] ทำให้เกิดฝีในสมองในผู้ที่ภูมิคุ้มกันบกพร่อง (อ่านเพิ่มได้ใน แบคทีเรียจรจัด ตอนที่ 5)
คริปโตสปอริเดียม [Cryptosporidium parvum] เกิดท้องเสียฉับพลันในคนปกติ และเรื้อรังในคนที่ภูมิคุ้มกันผิดปกติ เชื้อทนคลอรีนได้ ชอบระบาดในสวนน้ำ (water park)
ไจอาร์เดีย [Giardia lamblia] ทำให้ท้องเสียและการดูดซึมสารอาหารผิดปกติ
ไดอะตอมและสาหร่ายขนาดเล็ก (diatom and microalgae):
ในบางฤดูกาล ทะเลบางบริเวณอาจเต็มไปด้วย ไดอะตอมและสาหร่ายที่มีพิษ พวกหอยที่กินตัวพวกนี้เข้าไปก็จะสะสมพิษจนเป็นอันตรายต่อคนได้ ตัวอย่างเช่น ทำให้เป็นอัมพาต (paralytic shellfish poisoning)
ด้วยความที่หอยเป็นเครื่องกรองน้ำ มันจึงสะสมพวกเชื้อก่อโรคได้ รวบรวมเชื้อในอุจจาระที่กระจัดกระจายในน้ำมาอยู่ในตัว เป็นเหมือนเครื่องทำอุจจาระเข้มข้น
เวลาเราเอาหอยมาทาน อุปมาเหมือนเราทานไส้กรองที่เต็มไปด้วยคราบของเครื่องกรองน้ำนั่นเอง
แต่ในตัวหอยเชื้อบางชนิดอาจถูกทำลายในขณะที่เชื้อบางตัวเพิ่มจำนวนได้ จึงเพิ่มความเสี่ยงได้มากกว่าแค่กรองเชื้อมารวมกันเฉย ๆ
ทั้งนี้การเก็บรักษาควบคุมอุณหภูมิหลังจากนำหอยขึ้นจากทะเล ก็มีผลต่อการเติบโตของเชื้อ
นอกจากเชื้อที่มาจากอุจจาระยังมีเชื้อบางตัวที่อยู่ในน้ำทะเลอยู่แล้ว ดังนั้นต่อให้เลี้ยงหอยสะอาดยังไง ก็เลี่ยงเชื้อแบบนี้ไม่ได้
เชื้อที่อยู่ในทะเลที่อันตรายคือเชื้อ วิบริโอ วัลนิฟิคัส [Vibrio vulnificus]
เชื้อนี้ไม่ค่อยทำอันตรายคนปกติ แต่มันชอบผู้ป่วยตับแข็งมาก ทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด ตามด้วยแขนขาเน่า (necrotizing fasciitis) หลายข้างพร้อม ๆ กัน เสียชีวิตในเวลาอันรวดเร็วแม้จะได้ยาปฏิชีวนะที่ฆ่าเชื้อได้แล้วก็ตาม
เขื้อวิบริโอ วัลนิฟิคัส ทำลายชั้นผังผืดและผิวหนังของขาทั้งสองข้าง ซึ่งลุกลามอย่างรวดเร็ว เครดิตภาพ: US FDA
เชื้ออาจเข้าทางผิวหนังก็ได้ โดยเฉพาะถ้ามีแผล ผู้ป่วยตับแข็งจำนวนมากที่ไปเดินเล่นริมทะเล ต้องมาเสียชีวิต เพียงแค่เพราะเปลือกหอยบาดเท้า
เราจึงแนะนำผู้ป่วยตับแข็งเสมอว่า ห้ามไปสัมผัสน้ำทะเล และอาหารทะเลทุกชนิดต้องมั่นใจว่าสุกสนิทจริง ๆ
บทความนี้ไม่ได้มีวัตถุประสงค์โจมตีการเลี้ยงหอยหรือภัตตาคารที่ขายหอยแต่อย่างใด คนปกติส่วนใหญ่ทานไปก็ไม่เป็นอะไร อาจจะท้องเสียบ้าง แต่ก็มีคนส่วนน้อยที่อาจคางเหลืองหรือถึงตายได้
ผมจะยินดีมาก หากมีใครมีประสบการณ์มาร่วมแชร์ความรู้หรือมุมมองของผู้เลี้ยงหอยหรือร้านอาหารด้วย
แต่ในฐานะผู้บริโภค ถ้าจะให้ผมทานหอยนางรมดิบ ก็ควรมีประกาศนียบัตรรับรองว่าหอยมาจากแหล่งน้ำที่ไม่มีอุจจาระปนเปื้อนแน่ ๆ และหอยนางรมล็อตนี้ผ่านการสุ่มตรวจแล้วว่าไม่มีเชื้อก่อโรคในระดับที่เป็นอันตราย
ในเมนูควรระบุและตัวบริกรก็ควรแจ้งย้ำว่า ห้ามผู้ป่วยตับแข็งหรือภูมิคุ้มกันไม่ปกติทาน
และอย่าไปเชื่อว่าพวกสมุนไพร เครื่องเทศ ซอส มะนาว อัลกอฮอล์ จะช่วยฆ่าเชื้อในหอยได้หมด
ยังไงทานสุก ก็ปลอดภัยกว่าอยู่ดี
อันที่จริง ถึงจะรู้เบื้องหลังอันน่าขยะแขยง ผมก็ยังทานหอยนางรมต่อไปอยู่ดี ขอให้มันสุกละกัน
น่าสนใจว่า สมองของเรามันทำงานอย่างไร ถ้าให้เราทานอุจจาระทอด ถึงจะรู้ว่าสุกสะอาด ก็คงไม่มีใครกล้าทาน แต่พอเป็นหอย ผักสดที่รดปุ๋ยคอก ปลาหน้าดิน ไส้หมู พวกนี้ย่อมปนเปื้อนอุจจาระแน่ ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม
ถึงจะรู้ เรากลับทานอาหารพวกนี้ได้หน้าตาเฉย
เคยนั่งดูยูทูปกับลูก 4 ขวบ ไม่รู้ว่าทำไม แต่ตอนนั้นเขาชอบเรื่องบำบัดน้ำเสียมาก
มีเรื่องนึง พูดถึงเมืองหนึ่งต้องการนำน้ำส้วมมาทำเป็นน้ำดื่ม (toilet to tap) ซึ่งก็ใช้หลักการ รีเวิร์สออสโมซิส (reverse osmosis) เหมือนน้ำดื่มบรรจุขวดทั่วไป เพื่อเป็นการประหยัดน้ำ ปรากฏว่า ชาวเมืองประท้วงไม่ให้ดำเนินการ จนต้องพับโครงการไป
1
ต่อมาเกิดการขาดแคลนน้ำ โครงการนี้จึงได้รับความสนใจใหม่ และชาวเมืองก็ให้การยอมรับเสียด้วย
คุณคงคิดว่าต้องมีขั้นตอนพิสดารที่ช่วยให้ชาวเมืองรู้สึกว่ามันสะอาดขึ้นมาก
เปล่าเลย เพราะผ่านกระบวนการตามปกติ มันก็สะอาดจนไม่รู้จะสะอาดยังไงไปกว่านี้แล้ว สิ่งที่เขาทำก็เพียงแค่สร้างแท้งค์พักน้ำให้อยู่ห่างจากโรงงานที่เอาน้ำส้วมมาผลิตน้ำสะอาดเท่านั้นเอง
น้ำก็น้ำเดิม ไม่แตกต่าง แค่ย้ายสถานที่เก็บน้ำ ออกมา คนก็ยอมรับได้
หอยก็คงเหมือนถังพักน้ำ ที่ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นว่าไม่ได้ทานอุจจาระตรง ๆ
ยุทธการ "พรางหอย" ก็สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน สินค้าหรือมนุษย์ที่ไม่ได้เรื่องนัก ก็สามารถเอามาใส่หีบห่อ ใส่สูท ใส่คำพูดหรู ๆ ประดับปริญญา ให้ดูดีขึ้นได้ แม้เนื้อในจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงเลยก็ตาม
1
ถ้าเราไปทำอะไรแย่ ๆ จนชื่อเสียงเน่าเหม็น เราก็ใช้กลยุทธ์ "ถังพักน้ำส้วม" กบดานอยู่นิ่ง ๆ ให้เวลาผ่านไปสักพัก คนก็ลืมวีรกรรมของเรา มาเปิดถังเอาเราไปคบค้าสมาคมด้วย
1
สุดท้ายนี้ ผมขอตัวไปเขมือบหอยต่อ ด้วยความที่แพ้กุ้งกับปู ถ้าไม่ทานหอย ก็แทบไม่เหลืออาหารทะเลที่ทานได้
แล้วทุกท่านที่อ่านบทความนี้ ท่านจะทำอย่างไร ถ้ามีคนเสิร์ฟหอยมาให้?
ก. หัวเด็ดตีนขาดก็ไม่ทาน จะสุกหรือไม่สุกก็ไม่เอาทั้งนั้น
ข. ทานเฉพาะถ้ามันสุกสนิทเท่านั้น
ค. สุก ๆ ดิบ ๆ หรือดิบสนิท ก็จะทาน ก็มันอร่อย ทานแต่ละครั้ง ได้อารมณ์เหมือนโดดบันจี๊จัมป์ เชือกมันคงไม่ขาดง่าย ๆ หรอกน่า
ง. ถ้ามันดิบ ส่งต่อให้แฟนสุดรวยของเรา ที่เป็นตับแข็งทาน อย่าลืมจดทะเบียนสมรสก่อนล่ะ
1
จ. เอามันไปขว้างใส่คนเขียน ดันมาเล่าเรื่องที่ไม่อยากรู้
151 บันทึก
733
129
264
151
733
129
264
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย