28 ม.ค. 2019 เวลา 08:08 • ไลฟ์สไตล์
#ผมมีความลับเล็กๆจะบอก
สมัยเด็กๆ ผมเคยเอาหมาที่เลี้ยงไปปล่อย
ปีนั้นหมาที่บ้านออกลูกมาโขยงนึงเกือบ 10 ตัว รวมเดิมที่มีอยู่ก็ปาเข้าไปเกือบ 20 ตัว แม่บอกว่าเลี้ยงไม่ไหวหรอกเพราะที่บ้านแทบไม่มีเศษข้าวเหลือเพราะลูกชาย 3 คนต้องใช้คำว่ายัดกันจนเกลี้ยงทุกมื้อจนไม่เหลือเศษข้าวให้หมากิน เลยต้องยกให้คนอื่นไปบ้าง
เรา 3 คนพี่น้องงอแง แม่บอกว่างั้นเลือกเอาว่าจะให้แม่ยกหมาหรือยกเรา 3 คนให้คนอื่นดี ......งั้นเป็นหมาก็แล้วกัน
ตัวผู้บุคลิกดีมักถูกเลือกไปก่อน ตามด้วยตัวที่ดูดุ ฉลาด สมบูรณ์แข็งแรงเหมาะเอาไปเฝ้าบ้าน จะเหลือเศษทิ้งไว้ไม่มีใครเอาก็มักเป็นตัวเมียท่าทางขี้โรค เดินย่องๆ จ๋องๆร้องแง๊วๆ แยกไม่ออกว่านี่หมาหรือลูกแมว
อีตาลเป็นหนึ่งในนั้น เป็นตัวเมียที่มีคุณสมบัติเลวครบถ้วนของการที่ไม่มีใครเอา
เมื่อไม่มีใครเอา ก็ต้องเอาไปปล่อย สมัยนั้นการเอาหมาแมวไปปล่อยยังถูกมองเป็นเรื่องธรรมดา ยังไม่ได้ถูกประนามหยามเหยียดต่ำตมทุดถุยเหมือนสมัยนี้
ผมเอ็นดูอีตาลนะ เพราะมันเป็นตัวเดียวที่ชอบมาคลอเคลียผม ทำหยั่งกะผมเป็นพี่มัน เวลากลับจากโรงเรียน มันจะเป็นตัวแรกที่ดีใจและวิ่งโผเข้ามาหา
.
ผมถูกมอบหมายให้เอาอีตาลไปปล่อย หือ อ
จะปล่อยข้างทางก็กลัวมันอดตาย
จะปล่อยที่วัดใกล้บ้านก็กลัวมันโดนหมาเจ้าถิ่นรังแกเพราะที่วัดนั้นมีหมาเป็นฝูงแถมแม่งดุฉิบหาย
จะปล่อยที่ตลาดก็กลัวโดนแม่ค้าตะเพิดเวลามันไปเฉียดแผงเค้า
สุดท้ายตัดสินใจเอามันไปปล่อยที่สถานีรถไฟละกันเพราะมีคนตลอด คงมีคนใจดีแบ่งอาหารให้มันกินมั่งมันคงไม่อดตายแถมหมาเจ้าถิ่นก็มีไม่กี่ตัว
.......
หลังปล่อยมันช่วงแรกผมมักขี่จักรยานไปแอบดูมันบ้างพบว่าอีตาลดูจ๋องๆและหวาดระแวง มันยังเข้ากลุ่มหมาเจ้าถิ่นไม่ได้ ดีใจที่เห็นคนให้อาหารมันบ้าง แต่รู้สึกเศร้าเวลาเห็นมันนั่งเหม่อเหงาๆ ตัวเดียวตรงชานชาลา ช่วงหลังก็เลยไม่ไปดูดีกว่า
ราวเดือนกว่า ผมกลับไปดูมันอีกครั้งแล้วก็ต้องประหลาดใจ
มันเหมือนเป็นคนละตัว เปลี่ยนจากอีตาลเป็นคุณตาล มันดูอ้วนท้วนสมบูรณ์ดูสดใสซาบซ่าตาเป็นประกายกำลังวิ่งเล่นหยอกเอินกับฝูงหมาเจ้าถิ่น ดูระริกระรี้อ้อล้อทำท่ากระโดดงับแมลงในอากาศท่ามกลางแสงแดดอุ่นๆยามเย็นที่ส่องทาบลงมาในทุ่งลาเวนเดอร์ -- ผมไม่เคยเห็นฟิลแบบนี้ของมันมาก่อนสมัยตอนยังอยู่ที่บ้าน ดูมันมีความสุข ดูมีอิสระ ดูเป็นตัวของตัวเอง
.
ผมลองตะโกนเรียกชื่อมัน --- มันชะงักแล้วหันมาทำหน้าประหลาดใจ พอเห็นเป็นผมมันก็โผวิ่งเข้ามาหาทำท่าดีใจเหมือนเคย ผมเล่นกับมันสักพักจากนั้นผมแกล้งลองใจด้วยการจูงจักรยานกลับบ้านแล้วกวักมือเรียกมันให้ตามกลับมา
.
มันเดินตามผมมาจนสุดชานชลาแล้วก็หยุดแค่นั้นไม่ยอมตามมาอีก โดยมีฝูงมันยืนมองห่างๆ
.
ตอนนั้นผมไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกเสียใจหรือโล่งใจ
.........
ผมเอาขาตั้งจักรยานลง แล้วเดินย้อนกลับไปกอดมัน จำได้ว่าผมบอกกับมันประมาณว่า
.
" ให้ใช้ชีวิตต่อไปอย่างเป็นอิสระนะ อย่าต้องรับใช้ใครอีก "
หลังจากนั้น เวลาเจอกันมันก็ยังวิ่งเข้ามาทักทายเหมือนเดิม มันออกลูกออกหลานและมีชีวิตที่เป็นอิสระมาอีกหลายปีก่อนที่จะตายจากไป.
ปล. รูปถ่ายไม่ใช่รูปอีตาล แต่มันหน้าตาประมาณนี้แหละ
โฆษณา