4 ก.พ. 2019 เวลา 12:10 • ไลฟ์สไตล์
ชีวิตดีขึ้นกับ "ทฤษฎีครึ่งเดียว"
ถ้าเราลดอาหารแต่ละมื้อลงครึ่งนึง น้ำหนักตัวก็คงลดลง
ถ้าเราดื่มเหล้าถี่น้อยลงครึ่งนึง ตับเราคงไม่แข็งมากไป
ถ้าสูบบุหรี่แค่ครึ่งมวนแล้วดับทิ้ง ปอดและอายุของเราคงยืนยาวขึ้น
ของที่รกเต็มบ้าน ถ้าตัดใจเอาไปบริจาคสักครึ่งนึงได้ เราก็ได้พื้นที่และอากาศที่ดีกลับคืนมา
หากใครลดความคาดหวังในสิ่งใดลงได้ซักครึ่ง จิตใจของคนนั้นคงเบาสบายมากกว่าเดิม
ถ้าเราช็อปปิ้งให้ถี่น้อยลงครึ่งนึง คงมีเงินเหลือเก็บมากกว่านี้
ถ้าครอบครัวไหนลดการใช้โซเชี่ยลเนทเวิร์กลง 50% ครอบครัวนั้นคงมีเวลาให้กันและกันมากกว่าเดิม
แน่นอนครับ...ว่าเคล็ดที่บอกไปนั้นเหมือนง่าย แต่ทำยาก เพราะมันคือการ "ตัดใจ"
"การตัดใจ" ที่ว่า แท้จริงแล้วก็คือการลด "กิเลส" นั่นเอง
อย่างไรก็ดี ถ้าเรามองให้ง่ายๆว่า กิเลสที่ว่าคือ "ความเคยชิน" และเราค่อยๆลดมันลงวันละนิด (ไม่จำเป็นต้องหักดิบ) เราก็จะสามารถทำได้ในที่สุด
การต่อสู้กับจิตใจของตนเองนั้น เราทุกคนรู้ดีว่าไม่เคยง่ายสักอย่าง....
แต่อยากให้หมั่นนึกถึง "ผลลัพธ์ที่ดี" ของมันในแต่ละเรื่องเอาไว้เสมอ เราจะได้มีแรงและไม่ท้อระหว่างที่ลองทำ
อย่างตัวผมเอง ลองทำตามทฤษฎีนี้ได้ช่วงที่ออกจากงานประจำแล้วต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย กับอยากได้เวลาที่อยู่กับครอบครัวกลับคืนมามากๆ เลยลองดู
ทำแบบไม่ได้เร่งรัดตัวเอง... ปรากฎว่าเวิร์คมากครับ
ผมเคยคิดนะว่าถ้าคนในโลกนี้แค่ 10% ลองลดสิ่งที่ไม่ดีออกจากตัวได้... แม้เพียงครึ่งเดียว...โลกเราจะน่าอยู่เพียงใด
ตรุษจีนปีนี้ ลองทำดูนะครับ ... ยังไงก็ขอให้มีชีวิตที่ "เบาขึ้น" ทุกคนนะครับ
โฆษณา