Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
9sam stark
•
ติดตาม
1 ก.พ. 2019 เวลา 00:29 • ธุรกิจ
บ่นสาระ EP.3
การสอนแบบผิดๆที่เข้าข่ายเพ้อเจ้อระดับชาติ
โพสต์นี้ผมจะมาเฉลยเกี่ยวกับเรื่องกฎแรงดึงดูดจักรวาลครับ
เกริ่นถึงที่มาสักนิดละกันครับ
🧐สืบเนื่องมาจากผมยังเห็นผู้ใช้สื่อโซเชียลมีเดีย ในกลุ่มคนทำงานค้าขายออนไลน์ส่งต่อเรื่อง กฎแรงดึงดูดจักรวาลที่สอนกันในลักษณะผิดๆอยู่ และมันก็ลามมาถึงญาติผู้ใหญ่ของผม เค้าคุยเรื่องนี้กัน เรื่องคอร์สราคาหลักหมื่นกับกฏแรงดึงดูดจักรวาลสอนรวย แค่รู้กฎนี้แล้วจะรวย.....
ผมเป็นคนนึงที่เฉยกับกฎแรงดึงดูดจักรวาลมาก แต่ถ้าทุกวันนี้มันยังมีการสอนแบบผิดๆอยู่ผมก็ไม่อยากให้คนไปหลงเชื่อเสียเงินหลักหมื่นเพื่อหวังว่ารู้กฎนี้แล้วจะทำเงินหลักล้านครับ
เข้าประเด็นเลย
สำหรับคนที่ยังไม่รู้จักกฎแรงดึงดูดจริงๆมันไม่ได้มีอะไรเลย แค่ทำตาม 3 Step
🤟ได้แก่ Ask believe receive บอก/ขอ เชื่อ ได้รับ
ในขณะที่หลายๆคนบอกแค่ว่าคุณต้องเชื่อในจักรวาล บอกจักรวาลไปแล้วก็เชื่อ เชื่อพลังงาน แล้วคุณจะรวย เงินก็จะไหลลงมาทับบ้านคุณแบบนี้เรียกว่า เพ้อเจ้อ
🤔Ask การบอกแท้จริงแล้วคือการตั้งเป้าหมายครับ มันคือการตั้งเป้าหมาย บอกกับตัวเอง แต่การสอนจะให้เราไปบอก/ขอกับจักรวาล...
😏Believe การเชื่อ มันไม่ใช่เชื่อในจักรวาล แต่เชื่อมั่นในตัวคุณเอง ความจริงมันไม่ใช่คำว่าbelieve มันคือคำว่า trust พระพุทธเจ้าเรียกมันว่าศรัทธาคือความเชื่อที่ประกอบด้วย"ปัญญา" ความเชื่อในสิ่งที่เป็นจริง ความเชื่อที่มีเหตุมีผล มีที่มาที่ไป ไม่ใช่เชื่อแบบโมหะ นั่นคือความเชื่อที่เป็นแบบความหลง ทุกวันนี้อาจารย์หลายคนสอนให้เชื่อว่า คุณต้องมีความเชื่อ แต่ที่เค้าสอนมันเป็นแบบ แบบโมหะ คือเชื่อในแบบหลง
คุณต้องส่งคลื่นไฟฟ้ากระแสจิตออกไป คุณต้องโพสต์ว่ามีเงินมีความสุขทุกวันแล้วจะมีจริง......
อาจารย์บางท่านสอนแบบข้างบนเลย แทนที่คุณเอ็งจะเชื่อตัวเองว่าไอ้ความเชื่อที่คุณเอ็งตั้งนั้นเป็นไปได้ แต่เค้ากลับกลับเชื่อศาลพระภูมิเชื่อดวงดาว เชื่อจักรวาล เชื่อนู่นเชื่อนี่เชื่อนั่น
ลองคิดตามนะครับจักรวาลโคตรงใหญ่โตจะตายทำไมเค้าต้องมาช่วยคุณคนเดียว
3
🙃Receive แล้วไอ้ที่บอกได้รับ recieveนี่มันไม่ใช่อะไรเลย มันคือ แค่คุณไปทำตัวให้เหมาะสมกับสิ่งที่คุณเชื่อ มันก็คือการ take action ก็แค่นั้นเอง
ไม่ใช่ว่าต้องรอให้จักรวาล ดวงดาวส่งพรวิเศษมาช่วย
บอก เชื่อ รับ
ตั้งเป้าหมาย เชื่อมั่นในตัวเอง แล้วลงมือทำ มันมีแค่นั้นครับ
แต่กฎแรงดึงดูดที่ยังแชร์กันสอนบ้าบออะไรกันก็ไม่รู้ สอนเหมือนกับว่า อยากได้เงินใช่มั้ยเปลี่ยนพื้นหลังโทรศัพท์เป็นรูปเงิน เปลี่ยนปลอกหมอน เปลี่ยนผ้าปูที่นอนเป็นรูปเงิน บอกกับทุกคนว่าตัวเองมีเงินมหาศาล แบบนี้มันงมงาย แบบนี้มันทุเรศ
จริงๆแล้วการบอกเชื่อรับนี่พระพุทธเจ้าสอนมาเกือบ2600ปีแล้วครับ และที่มาที่ไปมันมาจากตรงนี้ครับ
พุทธ จริงๆแล้วแปลว่า รู้ ตื่น สดใส เบิกบาน
พระพุทธะเจ้าบอกไว้ว่า
ถ้าเธอจะเป็นคนพุทธเธอพูดสามข้อ
พุทธังสะระณังคัจฉามิ
ธัมมังสะระณังคัจฉามิ
สังฆังสะระณังคัจฉามิ
ขอโทษนะครับพระพุทธเจ้าบอกคุณว่าให้เชื่อฟังในกฎแรงดึงดูดมั้ย
😊พุทธัง พุทธะแปลว่าตื่นรู้ ข้าพเจ้ารู้แล้วว่าข้าพเจ้าจะทำอะไร เอาอะไร รู้แล้วว่าเกิดมาทำไม "รู้แล้วว่าเป้าหมายชีวิตข้าพเจ้าคืออะไร"
😊ธัมมัง ธัมมะแปลว่าแนวทาง ข้าพเจ้ารู้แล้วว่าข้าพเจ้าต้องทำอะไร "ข้าพเจ้ารู้แล้วว่ามีแนวทางอย่างไร"
สุดท้าย
😊สังฆัง สังฆะ แปลว่าผู้ปฏิบัติ "ข้าพเจ้าจะปฏิบัติตามแนวทางของข้าพเจ้า"
3 คำสอนข้างบนนั่นหน่ะ ask believe recieve!! ชัดๆเลย
นี่คือสิ่งที่พระพุทธเจ้าพูดมาเกือบ 2600 ปีแล้ว แต่กูรูที่ไหนไม่รู้เพิ่งเอามาพูดเมื่อ 100 ปีก่อน แล้วประเทศไทยเอามาทำเหมือนมันเป็นเรื่องใหญ่ทำworkshop ส่งกระแสจิตแบบไหนออกไปแล้วคุณจะได้แบบนั้น ทุกอย่างในโลกมีสนามแม่เหล็ก ทุกอย่างคือสนามแม่เหล็ก พูดสั่งจิตได้ สมมติว่ามีขั้วแม่เหล็กในตัว ตั้งmindset เอาไว้ แบบนี้มัน fake มันมีแค่นี้ครับ
ที่คนทำได้เพราะบางคนมันดันใช้วิธีนี้ไปสะกิดจิตใต้สำนึกให้เชื่อแล้วก็ take action แค่นั้นครับ
คุณขุนเขา สินธุเสน เคยเขียนคำคมที่โดนใจผมมากคำคมนึงไว้ในหนังสือ ชื่อสมองเศรษฐี ประโยคนั้นบอกว่า ถ้าอยากจะ “มองเห็นโอกาสมากขึ้น”ก็ไม่ต้องปรับที่สายตาแต่ให้ปรับที่สมอง โดยเฉพาะสมองส่วนที่เรียกว่า Ras
เอาอย่างง่าย Ras จะทำงานเหมือนระบบโอเปอเรเตอร์ของสมอง อะไรที่สำคัญต่อชีวิตเราหรือสิ่งที่เป็นป้าหมายเราจริงๆrasจะคัดไว้ส่วนอะไรที่ไม่จำเป็นมากพอที่จะให้จำ ras จะไม่คัดกรองเข้าสมอง
คุณรู้มั้ยโอกาสมันมีอยู่รอบตัวทุกวันมากๆมันพร้อมจะทำให้คุณโตขึ้นแบบก้าวกระโดดขึ้นทุกวัน แต่คุณยังมองไม่เห็นเพราะคุณยังไม่ได้บอกสมองว่านี่คือสิ่งที่ฉันต้องการ! อย่างผู้หญิงอ้วนอยากลดน้ำหนักจะมองหาแต่ ยาลดสลายพุง ทั้งวันก็จะมีแต่เรื่องยาลดพุงเข้ามาในชีวิต
ไอ้เรื่องกฎแรงดึงดูดจักรวาลก็เหมือนกัน ที่คุณได้หลายๆอย่างมาไม่ใช่เพราะว่าพลังจากดวงดาวบ้าบอที่ไหนไม่รู้มอบให้คุณ แต่มันเกิดจากการที่ตัวคุณเองทำตัวให้เหมาะกับสิ่งที่ต้องการ ที่คุณทำสำเร็จทุกวันนี้ได้ เพราะตัวคุณเองล้วนๆคุณบอกสมองของคุณว่าชั้นต้องการอะไร ชั้นรู้ว่าต้องทำยังไง แล้วใจคุณมันเลยเริ่มดึงดูดจากการสั่งงานสมองแล้วคุณเลย ชั้นเลยลงมือ นี่สิของจริงจับต้องได้ ไม่ใช่สิ่งที่เรียกว่าเชื่อแบบโมหะ
ท้ายนี้ถ้าคุณอยากรวยไม่ต้องรอความหวังจากจักรวาลครับ คุณเริ่มเองได้ แค่ลงมือทำไปแบบมีแบบแผน
ที่สำคัญญาติๆใครกำลังอินกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ อยากให้จักรวาลช่วยเรื่องธุรกิจ ช่วยเอาไปบอกต่อด้วยนะครับ
ด้วยความหวังดี🤓
I’m sam
20 บันทึก
94
15
4
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
บ่นสาระ
20
94
15
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย