16 ก.พ. 2019 เวลา 11:53
สุดท้ายแล้ว..
เรื่องเล่าของ ผู้ พ่ายแพ้
จะเป็นได้แค่ " อุทาหรณ์เตือนใจ "
ไม่มีนักล่าฝันคนไหนอยากสลักชื่อไว้บนป้ายที่จ่าหน้าว่า Loser หรอก
เราต่างก็อยากเป็น " ตัวอย่างที่ดี "
แก่ผู้มาทีหลัง ทั้งนั้นแหละ
ไม่ใช่ความหวาดหวั่น พรั่นพรึงใดๆที่เราอยากหยิบใส่มือน้องๆ ผู้มาใหม่
ความหวังว่าเราทำได้ ความรู้สึกว่า
...เรากุมได้ทั้งจักรวาล
นั่นต่างหากคือเป้าหมายหลักจริงๆ
หลังจากเรากุมสิ่งที่คาดหวังฝันใฝ่มาได้แล้ว
เราเองอยากเป็นคนที่บอกน้องๆว่า
..คุณเองก็ทำได้นะ
กล้าๆหน่อย..
คุณจะลุกพันครั้งได้ยังไง ในเมื่อคุณล้มแค่สามครั้งแล้วยังลุกไม่ไหว
ใช่..ผมเองก็อยากหว่านเมล็ดพันธุ์แห่ง ความหวัง
แบบนั้นบ้างเหมือนกันนะ
ไหนๆก็ได้มาเยือนโลกทั้งที ควรทำอะไรที่มันส่งแรงกระเพื่อมกับหมู่คน ที่เหยียบยืนอยู่บนผืนดินนี้บ้าง
ผมวางเป้า..เอาไว้แบบนั้น
และเริ่มเดินหมากตานี้..ด้วยวิธีของตัวเอง
ทุกครั้งที่เราพยายามอธิบายอะไรบางอย่างเพื่อให้ใครเข้าใจ กระจ่างแจ้งจางปาง
..เหตุผล กับ ข้ออ้าง
มักจะยืนอยู่ข้างกันเสมอ แค่เส้นคั่นบางๆกางกั้นไว้
เหตุผลที่ยวบยาบไป ฟังดูไร้น้ำหนัก จะถูกผลักไปอยู่โซนข้ออ้างทันที....
และเรื่องเล่าต่อแต่นี้..อาจจะมีแต่ข้ออ้างเพียวๆเลยก็ได้
ช่วงมัธยม 6 ปี ผมใช้ชีวิตในคราบ สามเณร
พอจบ ม.6 ผมก็โบกมือ..ลาสิกขาไป
...ผมเคย
เป็นประธาน รร. ตอน ป.๕
นั่นคือความป๊อบปูล่าที่ไม่ต้องสาธยาย
ถ้า ป.๕-๖ คือยุคทอง..ของผม
....ม.๕-๖ ก็คืออีกขั้วนึงซึ่งผมไม่เคยปรารถนา
มันคือ ยุคมืด
และการล่มสลายต่อความเชื่อมั่น
ต่อระบบการศึกษาไทย ที่ไม่ตอบโจทย์
ถ้านี่ คือ กีฬาวิ่งผลัด
..ช่วงมัธยม คงเป็นตอนที่ผมโรยราเกินกว่าจะยื่นส่งไม้ต่อให้อีกสถานศึกษาที่ชื่อ มหาลัย
สิ้นแรงกระหาย จะปีนป่ายไปคว้า...ปริญญาบัตร ที่ไม่เข้าใจ คือ ทำไมต้องจ่ายทั้งเงินและเวลาให้กับอะไรที่เราไม่เชื่อด้วยว่ะ...
และนั่น... คือ การเบี่ยงออกจากเส้นทางสายหลักที่ดูจะสุ่มเสี่ยงมาก เมื่อมองจากมุมมองของบุพการีที่ให้กำเนิด โดยเฉพาะ พ่อ
....ผู้มีประสบการณ์ตรง จากการโบกมือลาสถานศึกษาเมื่อวัยเด็ก และมีชีวิตลุ่มๆดอนๆ การเงินไม่ไปหน้ามาหลังสักที
แกเชื่อว่า..ใบปริญญา คือคำตอบของคำถามข้อนี้
เมื่อมองดูเพื่อนๆที่ได้ดิบได้ดี เป็นครู เป็นโน่นเป็นนี่เพราะเขามีการศึกษา
โอเค..ใบปริญญานี่แหละใช่ลูกๆต้องไม่ย่ำซ้ำรอยเรา
บางที..ผมก็คิดนะว่า มันอาจจะติดมากับ DNA
พ่อก็เป็นได้ เพราะ พี่ชายผมก็คิดแบบเดียวกัน
พี่ : ไม่เรียนต่อนะ
พ่อ : แล้วแกจะทำอะไรว่ะ !?
พี่ : ทำแบบพ่อนั่นแหละ!!!
พ่อ : .....
โอเคได้...ไม่อยากเรียนใช่มั้ย มันเหนื่อย มันหนักถูกปะ !? ว่าแล้วพ่อก็พาพี่ไปไถนา ไม่รู้เกินสามวันหรือเปล่านะ สุดท้ายพี่ก็กลับไปเรียน
..เคราะห์กรรมกระหน่ำซัด พี่จะเรียนจบอยู่แล้วแต่ดันติดทหาร พ่อปวดกบาลและทำใจไม่ได้อยู่พักใหญ่ๆ และความหวังทั้งมวลถูกส่งต่อมาที่ผม
...พอดี
และคำตอบที่มี คือ ไม่!!!!!
อ่านต่อวันหลัง
ไดอารี่คนมีฝัน นามนั้นคือโด-โซโล่
ep. 2 จบ
เครดิตภาพ https://pin.it/fljt7vxh35qef3
โฆษณา