7 ก.พ. 2019 เวลา 11:41 • กีฬา
เล่มที่ 7
“Sport Light เกมนอกสนาม”
ผู้เขียน: วิศรุต (288 หน้า)
สนพ: Salmon
หมวด: กีฬา / แรงบันดาลใจ
 
เหมาะกับใคร: ผู้รักฟุตบอล, หลงใหลกีฬา, ต้องการแรงบันดาลใจ และชอบอ่านบทความดีๆแบบจบในตอน
.
=============
.
.
สารภาพผ่านหน้าเพจ...
 
แม้จะอ่านเยอะ เรียนรู้อะไรมาก็แยะ แต่ผมก็ยังไม่วาย มีสิ่งที่ “เสพติด” อยู่ 3 อย่าง!
 
นั่นคือ…
 
.
1.กาแฟ...
ผมเคย อดกาแฟได้หลายครั้ง แต่ไม่วายหวนกลับมากินอยู่เสมอ ซึ่งตอนนี้ก็เลือกซดกาแฟดำล่ะครับ
 
.
2.กอดลูก...
ผมติดการกอดลูกมากๆ โชคดีที่ลูกคนเล็กก็ชอบกอดเช่นกัน เลยมีดีมานด์ กับซัพพลายที่ยังบาลานซ์กันอยู่
 
และ…
.
3.การได้อ่านเพจ “วิเคราะห์บอลจริงจัง”....
 
ไม่ได้โอเว่อร์แม้แต่น้อย ที่วันไหนไม่ได้อ่าน จะรู้สึกเหมือนชีวิตขาดอะไรไปสักอย่าง โชคดีที่คอนเท้นท์ในเพจก็มีให้เสพเกือบทุกวัน
 
และแล้ว ก็เป็นโชคดีของผม เมื่อปีก่อน “คุณวิศรุต” เจ้าของเพจที่ว่านี้ ก็มีหนังสือออกมาเล่มนึงของ สนพ.แซลม่อน ชื่อว่า...
 
“Sport Light เกมนอกสนาม” เล่มที่กำลังจะเล่านี่ล่ะครับ!
.
.
===========
.
ยุคสมัยก่อนสมาร์ทโฟน...
 
ผมซึ่งเป็นแฟนฟุตบอล “พรีเมียร์ลีกอังกฤษ” ก็ซื้อ นสพ. สตาร์ซอคเกอร์ (รายวัน) เกือบ 365 วันนั่นล่ะครับ !
 
สิ่งที่ผมต้องการอ่าน ไม่ใช่ข่าวสารฟุตบอลหรอกครับ ผมซื้อมา “อ่านคอลัมม์” ที่จะมีนักข่าวหมุนเวียนกันมาเขียนวิเคราะห์เชิงลูกหนัง ทั้งมี 2-3 คนมาเล่าประสบการณ์เอ็กคลูซีพ ในการไปชมเกมในแต่ละสนามที่อังกฤษอีกด้วย
.
.
พี่ผู้หญิงในออฟฟิศ (ที่ไม่ได้สนใจฟุตบอล) เคยตั้งคำถามไว้อย่างน่าสงสัย...เอ้ย! น่าสนใจว่า... ทำไมพวกผู้ชายถึง ชอบดู หรือชอบอ่านฟุตบอลกันนักนะ
 
เพราะมันไม่ได้ “ช่วย” ให้หาเงินได้มากขึ้น แถมยังต้อง “เสียเงิน” ซื้อหนังสือพิมพ์ หรือ “เสียค่าสมาชิก” เคเบิ้ลทีวีเพื่อดูการแข่งขัน ทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวกับคนไทยแม้แต่น้อย…
 
ตอนนั้น ผมทำได้เพียงแค่ยิ้มอ่อน เพราะอับจนคำตอบ…
.
.
=============
.
กลับมาที่หนังสือ “Sport Light เกมนอกสนาม” และ “เพจวิเคราะห์บอลจริงจัง” นะครับ
 
ขออนุญาต “เล่าควบ” ทั้งหนังสือ และเพจไปพร้อมๆ กันซะเลย เพราะ “ความรู้สึก” ของการอ่านทั้ง 2 สื่อ แทบจะไม่แตกต่างกัน...
 
เท่าที่ทราบ คุณวิศรุต เค้าทำเพจคนเดียว การเขียน วิธีการ เทคนิค ความหนา (ของเนื้อหา) ความนุ่ม (นวลของผู้เขียน) ก็เลยถอดแบบกันมาเด๊ะๆ คือ ถ้าคุณชอบเพจ คุณจะชอบหนังสือ หรือ ชอบหนังสือ ก็จะปลื้มเพจด้วย ประมาณนั้น
.
.
สิ่งที่ผมได้จากการอ่าน “งาน” ของคุณวิศรุต มีดังนี้ครับ...
.
.
1) เนื้อหาแน่น
.
เพราะเริ่มต้นอาชีพในฝัน ด้วยการเป็นนักข่าวของ “หนังสือพิมพ์คิกออฟ” (ปัจจุบันหนังสือพิมพ์ปิดตัวไปแล้ว) ค่อยๆ ไต่เต้าจากพนักงานตัวเล็กๆ
 
จนก้าวหน้าไปเรื่อยๆ ช่วงหนึ่งของชีวิต เขาได้ไปประจำที่อังกฤษถึง 1 ปีเต็ม ดังนั้น บทความที่เขียน จึงมีความเข้าใจในระดับที่ลึกซึ้งจนรู้สึกได้
 
ไม่เพียงแค่นั้น ก่อนจะเขียนคอนเท้นท์อะไรขึ้นมา เขาจะใช้เวลาหาข้อมูลเพื่อเป็นวัตถุดิบอย่างเต็มที่ จากนั้นจึงนำทั้งหมดมา “ปรุง” ให้ “กลมกล่อม” ตามสไตล์ของเขาเอง
.
.
===========
.
2) เล่าเรื่องได้น่าติดตาม
.
ใครๆ ก็สามารถเขียนรายละเอียดของข่าว ที่เกิดขึ้นได้ แต่จากประสบการณ์อ่านของผม “มีเพียงไม่กี่คน” ที่สามารถเขียน “เล่า” เรื่องให้สนุก และน่าติดตาม
 
ซึ่ง คุณวิศรุตก็เป็นหนึ่งในนั้น !
 
เนื้อหาที่เขียนในหนังสือ (และเพจ) หลายตอนจะไม่ใช่เหตุการณ์ปัจจุบัน หากเป็นเรื่องราวที่มีแง่มุมน่าสนใจในอดีต
 
.
เช่น การฝ่าฝันอุปสรรคของ “ลีโอเนล เมสซี่” นักฟุตบอลที่เป็นอันดับต้นๆ ของโลก หรือ เส้นทางก่อนจะประสบความสำเร็จของบรมกุนซือ “เซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน”
 
การร้อยเรียงเรื่องราว ใช้ภาษาง่ายๆ ส่งผลให้เนื้อหาอ่านสบาย แม้คุณจะไม่ได้สนใจฟุตบอลเลยก็ยังสามารถอ่านได้สนุก เหมือนกำลังฟังเพื่อนเล่าเรื่องให้ฟังอย่างงั้นเลยครับ !
.
.
=====================
.
3) ศิลปะของการเล่าเรื่อง
.
ถึงแม้หนังสือจะชื่อว่า “Sport Light เกมนอกสนาม”
หรือเพจจะชื่อว่า “วิเคราะห์บอลจริงจัง”
 
แต่ความจริง ผมรู้สึกว่า เค้าไม่ได้ใช้ การวิเคราะห์ “ทั่วๆ ไป” เหมือนที่คนอื่นเขียนน่ะสิครับ
 
.
คืองี้ครับ เวลาที่เล่าเรื่องการแข่งขันที่พึ่งจบไป (ส่วนใหญ่จะเป็นลิเวอร์พูล และทีมชาติไทย) เขาจะบอกเล่าสไตล์ “วิเคราะห์” (Analysis) คือ เป็นบทสรุป สิ่งที่เห็น ความรู้สึก การคาดหมาย และสิ่งที่น่าจะเป็นต่อไป
 
ผู้อ่านก็จะได้รับมุมมอง วิธีสังเกต จุดที่บางครั้งอาจมองข้ามไป เป็นการอ่านแบบ “ลึก”
.
.
แต่ เมื่อไหร่ก็ตามที่เขานำเรื่องราวในอดีตที่น่าสนใจมาเล่า (เช่น เรื่องของไมเคิล จอร์แดน) เนื้อหาจะเป็นสไตล์ที่ต่างออกไป
 
จะเป็นการ “สังเคราะห์” (Synthesis) คือ จะเป็นการนำข้อมูล (fact) ที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อน มารวบรวม คัดสรร และร้อยเรียงได้อย่างน่าติดตาม เปรียบเสมือน “เชฟ” ที่รู้ว่าจะนำวัตถุดิบ (ที่มีมากมาย) ในตู้เย็น มาปรุงรสยังไงให้อร่อย ในแบบที่น้อยคน จะทำได้ นั่นล่ะครับ สิ่งนี้ผู้อ่านจะได้รับความรู้ที่ “กว้างขึ้น”
.
อันนี้ เห็นได้ชัดว่า มาจากการเก็บข้อมูล ฝึกฝน และใจที่รักในการเขียนอย่างแน่นอนครับผม !
.
.
================
.
4)เรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจ และไม่ได้มีแต่ฟุตบอล
.
แม้งานของเขาจะเน้นไปที่พรีเมียร์ลีก (ของอังกฤษ) แต่ก็มีการนำฟุตบอลของประเทศอื่นมาบอกเล่าเช่นกัน เช่น บุนเดสลีกา (ของเยอรมัน) ลา ลีกา (ของสเปน) และเร็วๆ นี้ก็พึ่งมีลีกเอิง (ของฝรั่งเศส)
 
ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีทั้ง บาสเก็ตบอล อเมริกันฟุตบอล มวย สเก็ตน้ำแข็ง หรือกระทั่งกีฬาโอลิมปิค
คุณวิศรุตก็สามารถหาแง่มุมมาบอกเล่า ได้อย่างน่าติดตาม
 
.
ใบ้ให้นิดนึง ส่วนตัวผมชอบเรื่องราวในหนังสือ ของ “ทอนย่า” นักสเก็ตน้ำแข็งอเมริกัน ที่ชีวิตของเธอถูกนำพาให้ทั้งขึ้น และลงได้แบบไม่น่าเชื่อ (ชีวิตของเธอ ถูกนำไปสร้างเป็นหนังฮอลลีวูด เรื่อง I, Tonya และได้รับรางวัลออสการ์ 1 ตัวด้วย)
 
.
หากคุณลองนำเรื่องของกีฬา ที่เคลือบไว้ด้านบนออกไป เนื้อหาแต่ละตอนในหนังสือ จะมีเรื่องที่สร้างแรงบันดาลใจอย่างสูงอยู่หลายแนวด้วยกัน เช่น
.
.
4.1 ความสำเร็จของนักกีฬาแต่ละคน ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย
 
แต่เป็นเพราะการไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคทั้งปวง เช่น ลีโอเนล เมสซี่, อ็องตวล กรีซมันน์
.
.
4.2 พรสวรรค์ เป็นเพียงองค์ประกอบนิดเดียว แต่ความมีวินัย และฝึกซ้อมอย่างหนักต่างหาก
 
ที่ทำให้เกิดนักกีฬาอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เดวิด แบคแคม, โคบี ไบรอัน, ชาบี เออร์นันเดส, คอเนอร์ แม็คเกรเกอร์, “ตอง” กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์
.
.
4.3 ครอบครัวเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้คนๆ หนึ่งประสบความสำเร็จ
 
แต่บางครั้ง หากครอบครัว และโอกาส ไม่ได้ช่วยส่งเสริมให้คุณทำตามความฝัน สิ่งที่ต้องทำก็คือ ทำงานตรงหน้าให้มากขึ้น โดยให้โฟกัสที่ความฝันของตน ถ้าคุณเก่งจริง โอกาสจะเข้ามาหาเอง เช่น ริโอ เฟอร์ดินานด์, เวอร์จิล ฟาน ไดค์, เดเล่ อัลลี่
.
.
4.4 บทเรียนของชีวิตจากการตัดสินใจที่ผิดพลาด และไม่ยอมแก้ไข กลับกลายเป็นหอกกลับมาทิ่มแทงตนเอง
 
ไม่เกี่ยวเลยว่าคุณจะเก่ง มีโอกาส มีพรสวรรค์แค่ไหน แต่ชีวิตสามารถพังได้หากคุณไม่ให้เกียรติตนเอง เช่น ดาเรน แอนเดอร์ตัน, อดัม จอห์นสัน, ทอนย่า ฮาร์ดิ้ง
.
.
เรื่องราวของนักกีฬา โค้ช และผู้เกี่ยวข้อง ยังมีอีกหลายเรื่อง ซึ่งผมขอแนะนำให้อ่านในหนังสือ หรือติดตามในเพจ ที่มีอะไรให้อ่านอยู่เยอะเลยล่ะครับ
.
.
=================
.
5) เป็นเดอะค้อปเหมือนกัน
.
ใช่ครับ ผมเป็นแฟนลิเวอร์พูลมานานแล้ว
 
แต่ช่วงหลังไม่ได้ดูรายการถ่ายทอดสดเท่าไหร่ เพราะไม่ได้เป็นสมาชิกของทรู (อีกอย่าง เพราะไม่ค่อยดูทีวีเท่าไหร่ด้วย) นอกจากฟรีทีวีจะถ่ายนั่นล่ะครับ จึงพอได้ดูบ้าง
 
ทุกครั้งที่ทีมลิเวอร์พูลแข่งเสร็จสิ้น (รวมทั้งทีมชาติไทย) ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันรายการใดๆ ก็ตาม “เพจวิเคราะห์บอลจริงจัง” จะรีวิว และวิเคราะห์ทุกครั้ง นั่นช่วยทำให้ผมได้อัพเดตทีมรัก แบบไม่ต้องตามดูเลยก็ได้...
 
.
เพจนี้เป็นสื่อเดียวที่ผมเฝ้ารอจะอ่าน…
 
.
และไม่ว่าบทความนั้นจะยาวแค่ไหน...
บทวิเคราะห์การแข่งขันของลิเวอร์พูล เป็นคอนเท้นที่ผม “อยากอ่าน แบบไม่อยากให้จบ”
 
ก็คิดเล่นๆ ว่า หากคุณวิศรุตจะมีหนังสือเล่มใหม่ เป็นเรื่องเกี่ยวกับลิเวอร์พูลล้วนๆ ในหลายแง่มุม ก็น่าจะดีนะครับ ผมเป็นคนหนึ่งล่ะที่จะไม่พลาดอย่างแน่นอน !
.
.
====================
.
เมื่อผ่านการใช้ชีวิตมาแล้ว 4 ทศวรรษ…
.
คำถามที่พี่ในออฟฟิศถามว่า “ดูฟุตบอลแล้วได้อะไร” มันช่วยให้หาเงินได้รึเปล่า แล้วการที่ทีมชนะ หรือแพ้มันก็ไม่น่าจะทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนแปลงสักหน่อย
 
ผมอยากจะตอบตอนนี้ว่า…
 
อันที่จริง เวลาทีมลิเวอร์พูล หรือทีมไทยแพ้ ผมก็ไม่ค่อยทุกข์ใจเท่าไหร่ เพราะมองว่ามันเป็นเรื่องของกีฬา หรืออีกแง่นึง เป็นเรื่องของชีวิต….
 
ต่อให้ทีมคุณเก่งแค่ไหน ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่สักวันคุณจะต้องพ่ายแพ้บ้าง...
 
.
ในชีวิตจริงก็เช่นกัน ต่อให้คุณเก่งแค่ไหน ระมัดระวังตัวมากเพียงใด หรือรักครอบครัวมากแค่ไหน ก็ย่อมมีสักวันที่ชีวิตจะมอบ “บททดสอบ” บางอย่างแก่คุณ…
 
ในเกมแห่งกีฬา ไม่มีใครเป็นผู้ชนะที่ถาวร
 
ในเกมนอกสนาม เกมแห่งชีวิต ก็ไม่มีใครล้มเหลวได้ถาวรเช่นเดียวกัน
.
.
==================
.
.
ใช่ครับ การดูฟุตบอล หรือกีฬาอาจไม่ได้อะไรกลับคืนมาเป็นในรูปแบบของตัวเงิน หรือความสำเร็จใดๆ ในเชิงรูปธรรม
 
แต่ว่า หากลองมองดูสักครั้ง…
.
กีฬา ไม่ใช่เพียงแค่การแข่งขัน เพื่อเอาชนะกัน แต่มันสร้างความฝัน ความหวัง และกำลังใจได้เป็นอย่างดี
 
.
กีฬา สามารถสร้างสิ่งมหัศจรรย์อย่างการรวมคนให้เป็นหนึ่งเดียว แพ้ด้วยกัน ชนะด้วยกัน ดีใจด้วยกัน เสียใจไปพร้อมๆ กัน
 
.
กีฬา และนักกีฬาแต่ละคน ล้วนมีบทเรียนบางอย่าง ที่เราสามารถนำมาเป็นข้อคิดในการใช้ชีวิตได้เป็นอย่างดี ไม่ต่างไปจากการเรียนรู้ของนักธุรกิจ หรือผู้ประสบความสำเร็จในด้านอื่นๆ เลย
.
.
และคุณไม่จำเป็นต้องไปขวนขวายหา และแปลเรื่องราวน่าสนใจทั้งหลายด้วยตนเอง
 
.
หนังสือ “Sport Light เกมนอกสนาม” และเพจ “วิเคราะห์บอลจริงจัง” ได้ย่อยเรื่องราวต่างๆ มาให้คุณอยู่แล้ว…..
 
และผู้ที่อยากอ่านเรื่องราวดีๆ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ โดยเฉพาะคอกีฬาโดยฟุตบอล ผมก็แนะนำว่าไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงเลยครับ .
.
.
ซิม
25 ม.ค. 62
 
.
ปล.1 คหสต.หนังสือน่าจะเหมาะกับชื่อว่า Sport Life เพื่อเล่นเสียงคำว่า Sport Light นะค้าบ
ปล.2 เล่มนี้ ผมสั่งซื้อออนไลน์จาก se-ed ครับผม
.
.
โฆษณา