Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Save Wildlife & Forest
•
ติดตาม
1 มี.ค. 2019 เวลา 00:10 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
นกกีวี (Kiwi) กำลังวิวัฒนาการถอยหลัง !!!
นกกีวี เป็นนกที่พบเฉพาะประเทศนิวซีแลนด์ และเป็นสัตว์ประจำชาติของประเทศอีกด้วย Cr. Photo Ark
นกกีวี เป็นนกที่บินไม่ได้และเป็นสัตว์ประจำถิ่นที่พบในนิวซีแลนด์เท่านั้น มีทั้งหมด 5 ชนิด อกไข่ครั้งละ 1 ฟอง ไข่ของนกกีวีมีขนาด 1 ใน 4 ของตัวเต็มวัย นับว่าเป็นนกที่มีไข่ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อเทียบกับขนาดตัว...
นกกีวีจัดเป็นนกที่เล็กที่สุดในบรรดานกที่บินไม่ได้ (Ratites) Cr. Greenhumour
ตัวเมียต้องแบกไข่ 1 ใน 4 ของขนาดตัว หนักประมาณ ครึ่งกิโลกรัม Cr. Awesci
เมื่อปี 2018 ทีมนักวิทยาศาสตร์นานาชาติพบว่า พวกมันมีประชากรจำนวนมากที่เริ่มสูญเสียการมองเห็น หลังออกหากินและใช้ชีวิตในช่วงกลางคืนเป็นหลัก อาจกำลังมี วิวัฒนาการแบบถอยหลัง (Devolution)
นกกีวีเป็นนกที่บินไม่ได้ มีขาเเข็งแรงเพื่อใช้วิ่ง Cr. National Kiwi Hatchery Aotearoa
จากหลักฐานทางดีเอ็นเอ พบว่านกกีวีมีสายพันธุกรรมใกล้เคียงกับนกบินไม่ได้ชนิดอื่น ๆ มาก เช่น นกกระจอกเทศ, นกโมอา (Mao) (เป็นนกที่บินไม่ได้ขนาดใหญ่ ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว), นกอีมู (Emu) และนกคาสซอวารี (Cassowary) เป็นต้น โดยนกกีวีถือกำเนิดมาเมื่อกว่า 60 ล้านปีมาแล้ว เหตุนี้จึงทำให้นักวิทยาศาสตร์สรุปว่า ต้นกำเนิดของนกกีวีมาจากออสเตรเลีย พร้อม ๆ กับนกอีมู สเหมือนกับการเกิดขึ้นมาของเกาะนิวซีแลนด์ (สามารถบินได้ในตอนนั้น) สาเหตุที่ทำให้นกกีวีบินไม่ได้ เนื่องจากบนพื้นดินของนิวซีแลนด์มีอาหารอยู่เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังไม่มีสัตว์กินเนื้อ หรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ซึ่งเป็นภัยคุกคามในธรรมชาติอยู่เลยในอดีต ฉะนั้นปีกจึงเป็นเหมือนอวัยวะส่วนเกินที่ไร้ความจำเป็น
นกโมอา (Mao) เป็นนกขนาดใหญ่ที่สุดบนเกาะนิวซีเเลนด์ สูญพันธุ์ไปเมื่อ 100 กว่าปีมาแล้ว นับตั้งแต่คนผิวขาวเข้ามาบนเกาะ เป็นญาติกับนกกีวี ที่ขนาดต่างกันมาก Cr. Sciencemag
ซึ่งทีมนักวิทยาศาสตร์ได้ตีพิมพ์เผยแพร่ผลการศึกษาครั้งนี้ในวารสาร BMC Biology ระบุว่าพวกตนประหลาดใจอย่างมาก ที่พบว่า นกกีวีโอคาริโท (Okarito kiwi) อาศัยอยู่ทางตะวันตกของนิวซีแลนด์ที่ตาบอดสนิทหลายตัว สามารถออกหากินและดำรงชีวิตอยู่ตามลำพังได้โดยไม่ต้องรวมกลุ่ม นกตาบอดเหล่านี้มีสภาพร่างกายสมบูรณ์และยังมีสุขภาพแข็งแรงเป็นปกติดีอีกด้วย
นกกีวีโอคาริโท (Apteryx Rowi) เหลือประมาณ 300-400 ตัวเท่านั้น Cr. IUCN
จากการติดตามศึกษานกกีวี 160 ตัว พบว่า 1 ใน 3 ของพวกมันมีปัญหาทางสายตา และในจำนวนนี้มีหลายตัวที่ตาบอดสนิท แต่ดูเหมือนว่าความบกพร่องทางการมองเห็นของนกกีวีกลุ่มนี้ ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของพวกมันแต่อย่างใด เหตุการณ์แบบนี้มักเกิดขึ้นกับสัตว์ที่อาศัยในที่มืดเวลานานๆ เช่น ปลาและสัตว์เลื้อยคลานในถ้ำ ตุ่นบางชนิดเรียกว่า “วิวัฒนาการถอยหลัง”
ไข่นกกีวีทุกๆ 100 ฟองที่แม่นกวางในโพรง มีเพียง 5 ฟองเท่านั้นที่สามารถเติบโตเป็นนกตัวเต็มวัยได้สาเหตุมาจากผู้ล่าอย่าง หนู ที่ติดมากับคนบนเกาะ
ยังเป็นข้อถกเถียงเกี่ยวกับ วิวัฒนาการถอยหลัง นักวิทยาศาสตร์หลายท่านให้ความเห็นว่า “ปรากฎการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน แต่ไม่อยากให้เรียกมันว่า วิวัฒนาการถดถอย เพราะคำนี้สื่อความหมายไปในทางที่ผิด อาจบอกได้ว่า วิวัฒนาการนั้นต้องมีทิศทางที่แน่นอน และมุ่งไปสู่จุดหมายที่ถูกกำหนดไว้แล้ว อย่างตายตัว ทั้งที่ความจริงในธรรมชาติไม่ได้เป็นเช่นนั้น”
1
ลูกนกกีวีใช้เวลากว่า 3-5 ปีกว่าจะโตเต็มวัย บางตัวอาจมีอายุถึง 50 ปี Cr. Okarito kiwi Tour
ไม่ว่านกกีวีจะมี วิวัฒนาการแบบถอยหลังอย่างไรก็ตาม ตาของมันก็ยังไม่หายไปไหน ยังติดบนหัวมันเหมือนเดิมแค่ลดการทำหน้าที่ลง เพื่อไปเสริมประสาทสัมผัสด้านการรับกลิ่น ทำให้การดำเนินชีวิตของมันต้องพึ่งพาจมูกในการหาอาหารและการระวังภัยจากศัตรู นับเป็นการปรับตัวเพื่อเข้ากับสิ่งแวดล้อมและลดความสามารถของอวัยวะที่ไม่จำเป็นทิ้ง เสริมประสิทธิภาพให้กับอวัยวะที่จำเป็นในการอยู่รอดต่อไป....
นกกีวีถูกฆ่าตาย 27 ตัวต่อสัปดาห์ โดย หมา, แมว, เฟอเรต และสัตว์อื่นๆ มีเพียง 5% เท่านั้นที่สามารถเจริญเติบโตเป็นตัวเต็มวัย
Cr. BBC
Mentalfloss
IUCN
Greenhumour
9 บันทึก
86
8
16
9
86
8
16
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย