17 ก.พ. 2019 เวลา 10:14 • ประวัติศาสตร์
Atlas Story : โคลัมบัสค้นพบทวีปใหม่
แต่ทำไมถึงชื่อ "อเมริกา" (ตอนที่ 1)
คุณคิดว่า โลกของเราใบนี้มันกลมหรือแบนครับ ?
ถ้าคุณเป็นชาวยุโรป
ในช่วงปลายคริสตศตวรรษที่ 15
ถึงแม้ในช่วงเวลานั้น
ยุโรปจะเข้าสู่ยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาแล้ว
เริ่มมีการรื้อฟื้นองค์ความรู้เก่าๆจากยุคกรีกและโรมัน
ที่หายไปกับความมืดมนของยุคกลาง
และองค์ความรู้ของ ทอเลมี (Ptolemy)
นักภูมิศาสตร์ชาวกรีกโบราณ ที่กล่าวว่า
โลกมีลักษณะกลม มีเพียงทวีปยูเรเซียกับแอฟริกา
และมีมหาสมุทรอยู่ล้อมรอบ
ก็เริ่มแพร่หลายในหมู่นักปราชญ์และพ่อค้าวานิช
แต่อย่างไรก็ตาม
ก็ยังไม่มีหลักฐานการเดินเรืออะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
ที่กล่าวได้ว่า
โลกเรานี้มันกลมตามที่ทอเลมีได้สอน
ดังนั้น ถึงแม้คุณจะเชื่อคำสอนของนักปราชญ์
ชาวกรีกมากแค่ไหน
ก็ได้แต่เก็บความสงสัยนี้ไว้ในใจ
แต่กับนักเดินเรือชาวอิตาลี
นามว่า คริสโตโฟโร โคลอมโบ
(Cristofolo Colombo)
1
ความสงสัยนี้ถูกเดิมพันด้วยทุกอย่างในชีวิต !
..
ที่มารูปภาพ : Wikipedia
ชื่อภาษาอิตาเลียนของเขาคือ โคลอมโบ
ชื่อภาษาสเปนคือ โคลอน
ส่วนชื่อที่ชาวโลกรู้จัก คือ "โคลัมบัส" ครับ
โคลัมบัสเป็นลูกพ่อค้าอยู่ที่เมืองท่าเจนัว
ประเทศอิตาลี
เจนัวในสมัยนั้นเป็นเมืองศูนย์กลางการค้า
เป็นแหล่งแลกเปลี่ยนสินค้าของพ่อค้า
ทั้งจากอาหรับและยุโรป
โคลัมบัสซึ่งเป็นลูกพ่อค้าก็มักได้พบปะพูดคุยกับนักเดินเรือมากมายหลายชนชาติ
ซึ่งนี่เองก็เป็นสาเหตุให้โคลัมบัสใฝ่ฝัน
ที่จะเป็นนักเดินเรือบ้าง
สินค้า Best Seller สำหรับชาวยุโรปในยุคนั้นคือสินค้าจากอินเดียครับ
อินเดียขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งที่มีเครื่องเทศมากมายหลายชนิด
ทั้งกานพลู พริกไทย ยี่หร่า ข่า กระวาน ฯลฯ
ซึ่งล้วนเป็นที่ต้องการของชาวยุโรปทุกชนชาติ
ถามว่าชาวยุโรปจะต้องการเครื่องเทศไปทำอะไร
คนยุโรปชอบอาหารรสจัดงั้นหรือ ?
เปล่าครับ
พวกเขาต้องการเครื่องเทศเพื่อเก็บถนอมอาหาร โดยเฉพาะเนื้อสัตว์
ต้องไม่ลืมว่ายุคสมัยเมื่อห้าร้อยปีก่อน
ยังไม่มีทั้งตู้เย็นและไมโครเวฟ
วิธีการเก็บรักษาอาหารของชาวยุโรปให้อยู่นานที่สุด
ก็คือการใช้เครื่องเทศครับ
เครื่องเทศหลายชนิดมีคุณสมบัติในการยับยั้งการเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ที่จะทำให้อาหารเน่าบูด
ในขณะที่กลิ่นหอมก็จะช่วยกลบกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์อีกที
แต่ภูมิอากาศที่หนาวเหน็บของยุโรป
ไม่สามารถปลูกเครื่องเทศได้
เครื่องเทศจากอินเดียจึงเป็นสิ่งที่ตลาดต้องการมาก
ด้วยความที่คนส่วนใหญ่ในสมัยนั้น
มีไม่น้อยที่เชื่อว่าโลกแบน
การเดินทางขนส่งสินค้าจากอินเดียมายังยุโรป
จึงจำเป็นต้องผ่านดินแดนของชาวอาหรับ
พ่อค้าอาหรับจึงกลายเป็นพ่อค้าคนกลาง
เมื่อบวกทั้งค่าเดินทาง และค่าผ่านทาง
จึงทำให้เครื่องเทศมีราคาแพงมาก
มากถึงขนาดที่ว่า ใครใจกล้า
ต่อเรือเดินทางไปค้าขาย
กลับมาถ้าไม่ตาย ก็กลายเป็นมหาเศรษฐีกันได้เลย
แต่ลำพังการจะมาต่อเรือเดินทางเอง
มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
ไหนจะต้องผ่านดินแดนชาวอาหรับ
โดนฟันค่าผ่านทาง
โจรสลัดก็เยอะ
แถมยังมีปัญหาสงครามศาสนาที่คาราคาซัง
จึงมีชาวยุโรปไม่น้อย
ที่พยายามหาทางเดินเรือไปอินเดียเอง
โดยไม่ต้องมาค้าขายผ่านพวกอาหรับให้ได้
ทีนี้ก็ย้อนกลับมาทฤษฎีโลกกลมของทอเลมี
หากทฤษฎีนี้เป็นความจริง
แล้วโลกมีอยู่แค่สามทวีป(ตามความเชื่อขณะนั้น)
นั่นหมายความว่า
มหาสมุทรแอตแลนติกอันกว้างใหญ่
ต้องเป็นสิ่งที่กั้นขวางระหว่างยุโรปกับอินเดียแน่ๆ
เพราะฉะนั้นถ้าเดินเรือฝ่ามหาสมุทรแห่งนี้ไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็ต้องเจออินเดียในที่สุด
นักเดินเรือหลายคนเชื่ออย่างนั้น
และแน่นอน โคลัมบัสก็เชื่ออย่างเต็มหัวใจ
แต่โลกแห่งความจริงมันก็มักไม่ได้ง่ายอย่างที่ใจเชื่อ !
...
ชาวยุโรปสมัยนั้นกลัวมหาสมุทรแอตแลนติกจนขึ้นสมองครับ
ชาวอาหรับเองก็ด้วย
ทุกคนต่างขนานนามแอตแลนติกว่า
ทะเลแห่งความมืด (Sea of Darkness)
ด้วยความที่บริเวณตอนเหนือของมหาสมุทรแห่งนี้ ซึ่งมีอาณาเขตตรงกับทวีปยุโรปพอดี
มีอากาศหนาวจัดและพายุพัดรุนแรง
2
โคลัมบัสเองก็เคยลองเดินเรือออกสู่แอตแลนติกหลายครั้ง
แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จในการฝ่าออกไป
แถมครั้งสุดท้ายโดนโจรสลัดฝรั่งเศสโจมตีจนเรืออับปาง
ต้องหนีหัวซุกหัวซุนมาขึ้นฝั่งที่โปรตุเกส
1
ขณะนั้นโปรตุเกสมีการรวมชาติเป็นปึกแผ่น
เป็นประเทศแรกๆของยุโรป
มีการทำมาค้าขายที่เจริญก้าวหน้า
แถมยังมีการสนับสนุนของเจ้าชายเฮนรี
เดอะเนวิเกเตอร์
ผู้เป็นสปอนเซอร์หลักให้กับเหล่าผู้รักการเดินทาง
ทำให้ประเทศนี้กลายเป็นที่ชุมนุมของนักเดินเรือจากทั่วยุโรป
โคลัมบัส ซึ่งพอมาโปรตุเกสก็ได้เริ่มทำอาชีพใหม่ เป็นพ่อค้าขายแผนที่
วันดีคืนดีกิจการก็เติบโต
แถมยังพบรักกับสาวไฮโซโปรตุเกสจนได้แต่งงานกัน
จึงมีโอกาสได้ใกล้ชิดแวดวงชนชั้นสูง
และรับฟังถึงเรื่องราวการเดินทางอยู่บ่อยๆ
1
โคลัมบัสเองมีแผนการเดินทางในใจ
ในเมื่อการเดินทางผ่านมหาสมุทรแอตแลนติกตอนเหนือมันอันตราย
ทำไมเราไม่ลงใต้ก่อน แล้วค่อยๆอาศัยลมสินค้าพัดพาขึ้นเหนือทีหลัง แล้วล่องเรือไปเรื่อยๆ
สุดท้ายก็จะต้องเจออินเดียเป็นแน่แท้
1
เมื่อกายพร้อม ใจพร้อม เราต้องทำได้ !!
แต่เงินยังไม่พร้อม 🤔
โคลัมบัสจึงขอเข้าเฝ้ากษัตริย์โปรตุเกสเพื่อขอให้พระองค์ทรงอุปถัมภ์แผนการเดินทางในครั้งนี้
กษัตริย์โปรตุเกสได้ทรงปรึกษาหารือ
กับเหล่านักปราชญ์ในราชสำนัก
ทุกคนต่างลงความเห็นเดียวกันว่าระยะทางมันสั้นเกินความเป็นจริง
กษัตริย์เลยให้กองเรือในพระองค์ไปลองเดินเรือตามแผนของโคลัมบัส
ซึ่งปรากฎว่า
เมื่อถึงกำหนดเวลาที่น่าจะเจอแผ่นดินแล้ว
กลับไปเจออะไรเลย มีแต่ห้วงน้ำเวิ้งว้างว่างเปล่า
แผนการณ์ยิ่งใหญ่ของโคลัมบัส
จึงถูกปัดตกไปในทันที 😥
...
แต่ยุโรปในเวลานั้นก็ไม่ได้มีแค่โปรตุเกสที่ก้าวหน้า และสนับสนุนด้านการเดินเรืออยู่ประเทศเดียว
เพราะยังมีประเทศข้างๆโปรตุเกส
ที่ใหญ่กว่า รวยกว่า
และพร้อมจะก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจด้านการเดินเรือแทนที่โปรตุเกส
ประเทศนั้นก็คือสเปนครับ 🇪🇸
...
โปรดติดตามตอนต่อไป คงไม่นานเกินรอครับ 😁
โฆษณา