รีวิวFord fiesta ในวันที่ใช้มาแล้ว7ปี!!
ยังสบายดีอยู่ไหม พังรึยัง?? ไปดูกัน
Ford feel the difference
เค้าบอกว่าคนเราจะรักใคร7ปีแล้วหลังจากนั้นจะรักจืดจางลง จริงไหม?
รถคันนี้ถือเป็นรักแรกพบของผมเลยก็ว่าได้ มองตาละห้อย เวลาเจอบนถนนก็จะมองเหลียวหลังทุกครั้ง หลังจากเรียนจบและได้งานทำที่บ้านจึงออกคันนี้มาให้ใช้(กราบบบ) โดยเลือกตัวtopสุดที่มีในตอนนั้นคือ 1.6 sport hatchback ตอนนั้นยังไม่มีdefectนะครับ ผู้คนยังคงเชิดชูมันอยู่
Ford fiesta genนี้ เป็นฝาแฝดกับmazda2ตัวที่แล้วระยะฐานล้อเท่ากับเป้ะ มีอะไหล่หลายอย่างที่ใช้ร่วมกันได้เช่นแรคพวงมาลัย แต่เครื่องยนต์ เกียร์ หรือภายในจะต่างกันโดยสิ้นเชิง
ตอนนั้นก่อนโครงการภาษี1แสน fiestaมีเครื่องยนต์ให้เลือก2รุ่นด้วยกันคือ1.4 4 at และ1.6 dual clutch 6speedสร้างความฮือฮาแก่วงการรถยนต์เป็นอย่างมาก จนขนานนามว่ารถเกียร์เทพ (เทพแห่งหายนะรึเปล่านะ อิอิ) และตอนหลังเพิ่มเครื่องยนต์1.5มาแทน และupgradeเครื่องยนต์1.6ให้เป็นรุ่น altimateถุงลม6ใบและcruise control
แล้ว..fiestaมันดียังไง เรียงลำดับความชอบในตอนนั้นนะ
1.รูปทรง 5ประตู สวยสปอตโฉบเฉี่ยว เฟี้ยวฟ้าวมากในตอนนั้น jazzจะดูตะมุตะมิแบ้วๆ
2.เครื่องยนต์และเกียร์ 1.6ลิตร 121แรงม้า และเกียร์ที่ตอนนั้นคิดว่าล้ำสมัยไฮเทคมากคือdual clutch 6 speedที่การเปลี่ยนเกียร์ไม่เหมือนautoทั่วๆไป อยากรู้อยากลองของแปลก
3.optionความปลอดภัย เป็นเจ้าแรกที่ให้ระบบช่วยเหลือการทรงตัวesp, traction controlมาให้เป็นเจ้าแรกของb segmentในตลาดประเทศไทย สมัยนั้นรถที่มีระบบนี้ต้องตัวท้อปๆราคาเป็นล้านถึงจะได้ แต่นี่รถ7แสนก็ให้มาแล้ว โอ้แม่เจ้า อะไรจะดีขนาดนี้
4.option Europe car ไฟwelcome home/ กระจกมองข้างพับautoพร้อมเลนส์wide/ไฟส่องเท้าผู้โดยสารตอนหน้า/ไฟเลี้ยวอยู่ก้านด้านซ้าย/สวิชไฟหน้าแบบหมุน/มีBluetoothโทรออกรับสายผ่านตัวรถได้เลย
5.ช่วงล่าง สุดติ่งจริงๆ นิ่งแน่นเฟริม
ดีไซน์ภายนอก
เป็นรถhatch back 5ประตู ดีไซน์สปอตทรงลิ่ม ไฟหน้ารมดำเรียวยาวโฉบเฉี่ยว แบบhalogenแสงสีเหลืองธรรมดาแยกไฟสูงต่ำมาให้ในโคม มีไฟตัดหมอกมาให้ ประตูเปิดปิดให้ความรู้สึกหนักแน่นกว่ารถในsegmentเดียวกัน ไฟท้ายอยู่ตำแหน่งค่อนข้างสูงโดยอยู่ข้างๆกระจกบังลมหลัง และประตูหลังเป็นกลอนไฟฟ้า มีที่บังสัมภาระมาให้ในตัว
ภายใน
ดูค่อนข้างทันสมัยไฮเทคในยุคนั้น คอนโซลกลางได้แรงบันดารใจจากโทรศัพท์nokiaรุ่นปุ่มกด บนสุดคือจอกลางสีแดงส้ม แสดงชื่อเพลง รายชื่อโทรศัท์ และการปรับsettingของรถ หรือการแจ้งเตือนต่างๆของรถ เช่นประตูบานใหนปิดไม่สนิท หรือระดับน้ำมันเบรคพร่องมันก็เตือน ล่างลงมาคือปุ่มต่างๆ อาจจะดูปุ่มเยอะมาก แต่ก็เป็นสัดส่วน ฝั่งซ้ายจะเป็นfunctionต่างๆ ตรงกลางปุ่มเลือก4ทิศทาง และปุ่มปรับระดับเสียง และขวาจะเป็นเลข0-9จัดวางคล้ายปุ่มในโทรศัพท์ และขนาบข้างด้วยช่องแอร์2ข้าง เครื่องเสียงตัวนี้รองรับusb ipodและเป็นเจ้าแรกที่มีการเชื่อมต่อbluetoothมาให้ในตัว คุณภาพเสียงถือว่าเป็นตัวtop สุดแล้วในยุคนั้น เสียงใส เบสกระหึ่ม จนตอนนี้ผมก็ว่ามันยังtopฟอร์มอยู่ ที่แน่ๆมันเสียงดีกว่าnew jazz/Toyota chr/ดีกว่าall new pajaro sportอีก แต่เครื่องเสียงบางทีก็มีรวนกดอะไรไม่ได้เลย แต่นานๆเป็นที ดับเครื่องสตาร์ทใหม่ก็หาย
มุมบนขวาคือผมติดเพิ่มgateวัดค่าต่างๆ
ด้านล่างจะเป็นสวิชปรับแอร์แบบธรรมดา แต่แอร์มีheaterให้นะจ้ะ ยี่ห้ออื่นตอนนั้นไม่มีให้มาเด้อ... ยิ่งถ้าเป็น4ประตูจะได้ทั้งแอร์autoและเบาะหนังในราคาเท่ากัน (5ประตูลูกเมียน้อยชัดๆ)
หน้าปัดท์
เป็นแบบเรืองแสงโทนสีขาว-แดง ฝั่งซ้ายแสดงวัดรอบ ตรงกลางเป็นจอแสดงข้อมูลการขับขี่ trip อัตรากินน้ำมันปัจจุบัน อัตรากินน้ำมันเฉลี่ย ความเร็วเฉลี่ย ระยะทางที่วิ่งได้ก่อนน้ำมันหมด อุณหภูมิภายนอก ฝั่งขวาแสดงมาตรวัดความเร็ว อ่านค่าง่ายสบายตา พวงมาลัยแบบ3ก้าน ปรับได้สองทิศทางขึ้น-ลง มีปุ่มควบคุมเครื่องเสียงมาให้ในตัว
ก้านสวิซฝั่งซ้ายข้างพวงมาลัยคือไฟเลี้ยว ปุ่มvoice command
ก้านด้านขวาคือปรับที่ปัดน้ำฝน พร้อมสวิชหน่วงเวลา
ส่วนไฟหน้าจะให้เป็นสวิชหมุนอยู่ใต้ช่องแอร์ฝั่งคนขับ ... นี่มันlay out แบบรถยุโรปชัดๆ
แล้วไฟสูงหละปรับยังไง..ไฟสูงให้ดึงก้านไฟเลี้ยวเข้าหาตัวครับ ถ้าจะเปิดค้างก็ดึงให้ลึกจนสวิชเปิดแล้วปล่อยก็จะเปิดไฟสูงค้างให้
ละอีกระบบที่ฟอร์ดโหมโฆษณาTVคือ ระบบvoice command รถพูดได้ สั่งงานด้วยเสียง ดูเหมือนว้าวใช่ไหมครับ แต่การใช้งานจริงเอื้อมมือไปกดเร็วกว่า แล้วการใช้งานถ้าไม่ใช่radioคือเรียกใช้ยากมาก แต่เรามีวิธีง่ายกว่านั้น เราใช้siriให้เป็นประโยชน์ สั่งการผ่านsiriแทน แล้วรถคุณก็จะฉลาดกว่าเดิมเยอะ อยากโทรหาใคร อยากให้อ่านข้อความล่าสุด หรือสั่งให้มันโพสเฟสบุ้ค ทำได้หมด (Google assistant ก็ใช้งานได้เช่นกัน)
ปัจจุบัน -มีเสียงก้อกแก้กบ้างในตอนเช้าเหมือนพลาสติกเสียดสี พอขับไปสักพัก หรือช่วงเช้าที่อากาศไม่หนาวก็ไม่มีเสียง
เบาะนั่ง
1.6sขึ้นไปจะได้เบาะนั่งกึ่งสปอต เบาะค่อนข้างแข็ง ปีกข้างจะโอบกระชับตัวมาก ถ้าคนไม่ชินหรือคนตัวใหญ่อาจรู้สึกอึดอัด พนักพิงเบาะยาวจริง ยาวขนาดแทบไม่ต้องปรับหมอนรองศรีษะขึ้นเลย(ผมสูง174cm)แต่การรองรับแผ่นหลังไม่ดีนัก หลังส่วนบนลอยๆ ตัวเบาะรองนั่งมีความยาวถึงข้อพับเข่า ยาวกว่าcamryและaccordไปอีก ปุ่มปรับพนักพิงเบาะเป็นแบบหมุน ปรับสูงต่ำแบบคันโยก
ปรับเอนเบาะแบบหมุน ใช้งานค่อนข้างยาก
เบาะหลัง กลายเป็นว่านุ่มกว่าเบาะหน้าแบบคนละเรื่อง แต่พนักพิงเบาะค่อนข้างข้างชัน นั่งไม่สบาย พื้นที่ด้านหลังแคบ นั่งแล้วอึดอัด เอาเป็นว่าถ้าซื้อมาแล้วต้องนั่งทั้งครอบครัว คันนี้ไม่ตอบโจทย์
ปัจจุบัน - เบาะคนขับช่วงพนักพิงหลังส่วนล่างโดนกดจนฟองน้ำแฟบแบน นั่งได้แต่ไม่สบายเหมือนตอนออกใหม่ เสียงรบกวนภายนอกที่แต่ก่อนเคยเงียบ ก็ดังขึ้นตามความเสื่อมของวัสดุ ไม่ได้ดังจนน่าเกลียดแต่ไม่เงียบเหมือนตอนซื้อใหม่ เคยซ่อมแอร์ไปครั้งนึงจำได้ว่าเหมือนแอร์ข้างในเป็นน้ำแข็งจนลมไม่ออก ซ่อมเสร็จก็ปกติดียังไม่เคยเป็นอีกเลย
เข้าเรื่อง..หัวใจสำคัญ
ฟอร์ดเฟียสต้าได้สร้างความฮือฮาในตอนเปิดตัวเป็นอย่างมาก ด้วยการชูจุดเด่นด้านช่วงล่างและเกียร์dual clutchว่าดีที่สุดในรถยุคนั้น สามารถสร้างอัตราเร่งที่ดี ช่วงล่างขับสนุกเกาะถนน ซึ่งตอนนั้นที่ผมซื้อมาขับมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆนะ ช่วงล่างคันนี้วิ่ง160ยังนิ่ง พวงมาลัยกระชับคม ไม่ไวเกินไป น้ำหนักหน่วงมือดีมาก ช่วงล่างที่ถือว่านุ่มหนึบเทพสุดในรถยุคนั้น(ตอนนั้นยังไม่มี sonic) ขับแล้วมั่นใจกว่าaltisหรือcivic fdด้วยซ้ำ และรุ่น1.6sขึ้นไปจะได้ช่วงล่างแบบsport ซึ่งจะต่างจากตัวล่าง ช่วงล่างสปอตจะเฟริมกว่า และเตี้ยกว่า เกาะถนนกว่า
ระบบเกียร์dual clutch 6speed ที่พูดง่ายๆคือระบบเกียร์manualธรรมดาที่มีคลัท2ตัวใช้คอมพิวเตอร์ในการคำนวณการจับปล่อยคลัทแทนขาคน ผลที่ได้คือลดlossในระบบขับเคลื่อน กำลังเครื่องถ่ายเทมาสู่เกียร์ได้เต็มๆ เปลี่ยนเกียร์ได้ไว และประหยัดน้ำมันกว่าเพราะไม่มีtorque converter
แล้วกับชีวิตจริงหละ.. ผลที่ได้คือ ตัวเลขอัตราเร่งไม่ต่างจากแจ้ส กะviosเลย ใครกดก่อนชนะ อัตรากินน้ำมันก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน เผลอๆใช้จริงในเมืองvios 4atประหยัดกว่า แต่เวลาขับจริงฟีลลิ่งจะแตกต่างกับautoทั้วไปเกียร์dual clutchจะรู้สึกถึงแรงดึงและความพุ่งมากกว่าในช่วงที่เกียร์จับ แต่ก่อนหน้านั้นจะมีจังหวะดีเลย์หน่อยนึงคือ เมื่อกดคันเร่งลึกๆรอบจะดีดขึ้นไปแล้วเกียร์ค่อยจับส่งกำลังหรือจะเรียกว่าช่วงรอรอบก็ได้ ทำให้เวลาจะเร่งแซงต้องเผื่อจังหวะตรงนี้ไว้ประมาน1วิ หลังจากนั้นอัตราเร่งจึงพุ่งพรวด ต่างกับautoของค่ายอื่นที่ไม่ต้องรอจังหวะแบบนี้นานขนาดนั้น แต่เวลาdual clutchมันพุ่งแล้วมันพุ่งแรงและต่อเนื่องกว่า
เอ้า..แล้วที่โม้มาซะดิบดีมันอัตราเร่งก็ไม่ต่างกันกับรถauto ทั่วไปเลยนะสิ //ใช่ครับ ถ้าวัดที่ตัวเลขจับเวลาไม่ต่าง --" แต่จะต่างที่ฟีลลิ่งอย่างที่บอกไปข้างบน
ที่คันเกียร์มีปุ่มเล็กๆอีกปุ่มคือ ปุ่มโหมดเวลาขับรถลงเขา หรือลงเนิน โหมดนี้จะลากเกียร์ต่ำเพื่อสร้างengine brake ทำให้การขับรถลงเขาปลอดภัยมากขึ้น (เกียร์Lคือจะลากแค่เกียร์1เท่านั้น แทบไม่เคยใช้เลย)
ขอบอกอีกอย่าง ยังมีส่วนสำคัญอีกส่วนนึงคือTCM(transmission control module)หรือเรียกง่ายๆว่าสมองเกียร์ ทำหน้าที่ตรงตัวคือควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ให้เหมาะสมกับสภาวะแวดล้อมการขับขี่ และเรียนรู้การขับขี่ตามนิสัยของคนขับ ทำให้แต่ละคันก็จะมีคาแรคเตอร์ไม่เหมือนกัน แล้วแต่ใครเท้าหนักเท้าเบา
การขับในเมืองก็ไม่ใช่จุดเด่นของรถคันนี้ การออกตัวค่อนข้างไม่ทันใจแรงบิดรอบต่ำไม่ค่อยมี เหมือนเป็นแมวบ้านขี้เกียจพอกดลึกๆก็พุ่งเกินตัว เอาจริงๆขับในเมืองรถติดๆvios4atขับดีกว่าอีกนะแรงบิดรอบต่ำโคตรดี กดพุ่งทันใจ แต่พอเป็นนอกเมืองเมื่อไหร่เฟียสต้าก็จะกลายร่างเป็นแมวป่าขึ้นมา กดไหลถึงใหนถึงกัน (แค่แมวป่านะไม่ถึงขั้นเสือ ยังห่างไกล)
เรื่องความประหยัดน้ำมัน ขับนอกเมืองถือว่าทำได้ดีมี15-16kmลิตร ถ้าขับในเมืองก็กินมากกว่านี้ แต่ก็ไม่ได้กินโหดกว่าคู่แข่ง เรื่องของชนิดน้ำมันก็มีส่วนทำให้การขับขี่ต่างกันe20รถจะตื้อกว่า การเปลี่ยนเกียร์จะช้ากว่าsohol95แบบรู้สึกได้
ขับทางไกล 6.2L/100km =16.12km/L
ปัจจุบัน - ก็ยังไม่มีปัญหาอะไรจุกจิก เกียร์ไม่กระตุก เปลี่ยนยางรองแท่นเครื่องไปครั้งนึง นอกนั้นก็เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเช็คระยะตามปกติ
ช่วงล่าง
ฟอร์ดก็ใช้ช่วงล่างเหมือนรถเล็กทั่วๆไปคือ
หน้า ช่วงล่างอิศระ แมคเฟอสันสตรัท
หลัง คานบิด ทอชั่นบีม
แต่การเซทช่วงล่างของคันนี้ไม่เหมือนรถเล็กเลยครับ สัมผัสได้ถึงความหนักแน่น ช่วงล่างออกแนวเฟิมค่อนไปทางแข็ง ซับแรงสะเทือนได้ดี(ถ้าเทียบกับยุคนั้น) ขับเร็วช่วงล่างก็ยังนิ่ง ไม่วอกแวก ไม่ออกอาการหวิว การเปลี่ยนเลนความเร็วสูง หรือการเข้าโค้งทำได้มั่นใจ แต่มันก็มีlimitนะครับ เข้าโค้งแรงๆก็มีหน้าดื้อโค้งนะ หรือถ้าใส่แรงกว่านั้นท้ายออกนะครับ ผมลองมาแล้ว แต่espก็เข้ามาช่วยและกลับเข้ามาได้ปกติ ไม่แหกโค้งไปซะก่อน
พวงมาลัยไปตามสั่ง คม แต่ไม่ไวเท่าฮอนด้า น้ำหนักความตึงมือเซทมาได้ดีมาก ถือว่าเป็นจุดที่fiestaฆ่ายี่ห้ออื่นตายเรียบ ขับในเมืองเบาแต่พอเพิ่มความเร็วพวงมาลัยจะหนืดขึ้น ทำให้รถไปตามทางโดยที่ไม่ต้องคอยมาประคองซ้ายทีขวาที นิ่งแบบที่ไม่คิดว่ารถเล็กจะทำได้ดีขนาดนี้
ปัจจุบัน - ช่วงล่างก็ยังดีเหมือนเดิม เปลี่ยนโช้คคู่หน้าตามอายุ และเปลี่ยนแรคพวงมาลัยเนื่องจากมีเสียงดังกุกกัก เปลี่ยนแล้วจบใช้ดีเหมือนเดิม เบรคใช้มา7ปีผ้าเบรคยังไม่หมดเลย ใช้ต่อสบายๆ ยางรถยนต์ตอนนี้เปลี่ยนมาใช้แบบนุ่มเงียบ สัมผัสได้เลยว่าแก้มยางนิ่มกว่าเดิมมาก เวลาเลี้ยวโค้งแรงๆหรือเปลี่ยนเลนกระทันหันจะมีความรู้สึกยางให้ตัวมากเกินไป พวงมาลัยไม่คมเหมือนเก่า มันไม่วาร์ปไปตามถนนแบบยางกึ่งสปอร์ตที่เคยใช้ ครั้งหน้าจะกลับไปใช้ยางกึ่งสปอตแบบเดิมแล้ว ยางแข็งหน่อยแต่ขับมันส์กว่าเยอะ
จากวันนั้นถึงวันนี้ 7ปีกว่าแล้ว ผ่านอะไรมาบ้าง และยังมีความดีมากพอให้ใช้งานต่อหรือไม่
รูปล่าสุดเมื่อม.ค.62
เอาปัญหาประจำรุ่นที่ผมเจอก่อนละกัน
1.รถผมเคลม tcm(สมองเกียร์) เนื่องจากรถบางครั้งไส่เกียร์ถอยแต่รถไม่ถอย รอบฟรีกลายเป็นเกียร์ว่างซะงั้น ต้องดับเครื่องละสตาร์ทใหม่ถึงหาย หลังจากเคลมTCMไปก็ยังไม่เป็นอีกเลย แต่กว่าจะเคลมได้นะคุณ เอาเข้าศูนย์2-3รอบอะ ตอนนั้นยังไม่ค่อยมีคนเป็น ช่างไม่ชำนาญ รอบแรกแค่ลบลบโค้ทให้ รอบสองเปลี่ยนรีเลย์อะไรไม่รู้ แต่ไม่หาย รอบสามอะถึงจะได้เปลี่ยนTCM ปัจจุบันฟอร์ดขยายระยะรับประกันTCMเป็น10ปี
2.ปัญหากลิ่น มาจากวัสดุกันเสียงที่เป็นยางรองพื้นตัวถังพอใช้ไปหลายๆปี วัสดุที่เป็นยางมันเปื่อยเหม็นแบบแก้ยังไงก็ไม่หายต้องรื้อทิ้งอย่างเดียว ใช่ครับ ผมรื้อมันทิ้งตรงใต้ที่วางเท้าคู่หน้าแล้วแทนที่ด้วยฉนวนกันความร้อนแบบที่คนในกลุ่มfiesta DIY ผลออกมากลิ่นลดจริง แต่กลายเป็นเสียงเครื่องยนต์ เสียงถนนดังกว่าเดิม
ส่วนปัญหาอื่นๆที่บางคนเป็นกันแต่ผมไม่เป็น
เกียร์กระตุก - รถผมไม่เคยกระตุกนะครับ ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ไม่เคยกระตุกเลย ขับได้ปกติ ปัจจุบันฟอร์ดขยายระยะรับประกันเกียร์เป็น7ปี (แต่TCM10ปี)
ปัญหาความร้อน ฝาสูบโก่ง ท่อน้ำฮีตเตอร์บวม-รถผมก็ยังไม่เป็นนะครับ แต่เสียวๆอยู่เหมือนกัน ทุกวันนี้ติดเกจวัดค่าต่างๆของรถไว้ดู กันไว้ดีกว่าแก้
ปัญหากลอนประตู -อันนี้เป็นตั้งแต่fiestaยันranger ถ้ามันพังคือปิดประตูแล้วมันจะไม่ล้อกใดๆ ประตูสามารถอ้าเองได้ ถ้าเสียต้องเอาเชือกมามัดกันมันเปิดเอง ปัจจุบันฟอร์ดส่งจดหมายเรียกไปเปลี่ยนกลอนชุดใหม่ฟรี (ใช้เวลาเปลี่ยนนานมาก ผมเอารถเข้า8.30รถเสร็จ15.00)
ปัญหาทั่วไปที่ไม่น่าเป็นปัญหา
มีอยู่วันนึงผมจอดรถไว้ในบ้านวันรุ่งขึ้นจะเอาออกมาขับไปธุระ สตาร์ทไม่ติด ไฟโชว์ คิดในใจเอาแล้วไงเจอฟอร์ดแท้เข้าให้แล้ว โทรไปหา0ให้ส่งช่างmobile serviceมาดูให้หน่อย รอแล้วรอเล่า โทรไปตั้งแต่10โมง จะบ่าย3ยังไม่มา โทรไปทวงก็บอกให้รอก่อน โทรไปอีกทีบอกช่างมาไม่ได้ (ละให้กูรอตั้งหลายชั่วโมงเนี่ยนะ ถ้าไม่โทรไปทวงไม่ต้องรอทั้งวันรึไง) เลยตัดสินใจโทรจ้างรถยก ยกเข้า0เลย สรุปมดขึ้นกล่องฟิว เปลี่ยนรีเลย์ไปตัวนึง50บาทมั้ง แต่ค่ารถยก1500ไง คือถ้าส่งช่างมาดูหน่อยก็คงไม่ต้องเสียค่ารถยกหรอก หึหึ
สรุป
ฟอร์ดก็ยังเป็นฟอร์ด เจ้าพ่อช่วงล่าง เซทมาได้เทพจนc segmentบางคันในยุคนั้นสู้ไม่ได้ อัตราเร่งเฉยๆ ไม่ได้ดีกว่ายี่ห้ออื่น ขาดแรงบิดรอบต่ำ แต่รอบสูงพุ่งได้ใจ ภายในแคบ แต่มากด้วยoption เครื่องเสียงดี ศูนย์บริการจัดว่าแย่ อะไหล่บางตัวไม่ทนทานเช่น หม้อพักน้ำพลาสติกแตกลายงา วัสดุสีเงินบนพวงมาลัยและตรงมือจับประตูภายในสีลอก
ผ่านมา7ปี...ปัจจุบันรถก็ยังใช้ได้ดีอยู่ ไม่เจอปัญหาจุกจิกกวนใจ อนาคตก็คงต้องมีซ่อมบ้างตามอายุ ถามว่าอยากเปลี่ยนใหม่ไหมก็ตอบว่ามีบ้าง แต่ในเมื่อตัวรถก็ใช้ได้ดีอยู่ก็ไม่รู้จะเปลี่ยนใหม่ให้เปลืองตังทำไม แต่ถ้าถูกรางวัลที่1สักใบก็ไม่แน่..อิอิ
ปัจจุบันmodelนี้เลิกผลิต ไม่มีขายแล้ว และคงเป็นตำนานเพียงรุ่นเดียวและรุ่นสุดท้ายที่ฟอร์ดเอามาขายในไทย ส่วนใครที่มองรถมือสองในราคาคุ้มค่า พร้อมเสี่ยงที่จะซ่อม คุณมาถูกทางแล้ว รถรุ่นนี้ในตลาดรถมือสองราคาตกมากรวมทั้งfocusด้วย ปัญหาประจำรุ่นก็มีไม่กี่อย่าง อู่นอกที่ซ่อมได้ก็มีหลายแห่ง แต่ซ่อมจบไหมอันนี้ตอบไม่ได้เหมือนกันเพราะไม่มีประสบการณ์ แต่คิดว่าราคามือสองถูกมากถ้าได้รถสภาพดีมาต่อให้รวมค่าซ่อมก็ยังคุ้ม แต่ถ้าคุณซื้อมาแล้วไม่พร้อมที่จะซ่อม อย่าได้คิดซื้อรุ่นนี้เด็ดขาด ไปซื้อโตโยต้า ฮอนด้าดีกว่า จากใจจริง ^^
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย(เท่าที่นึกออก)
-แบตเตอร์รี่ของfiestaจะใช้แบบรถยุโรปคือแบบขั้วจม จะไม่เหมือนรถญี่ปุ่นทั่วไป แต่ร้านแบตทั่วไปก็มีขาย
-ไม่มีไฟส่องกลางเก๋ง มีแค่ไฟส่องทางด้านหน้า กลางคืนคนนั่งหลังก็จะมืดนิดนึง
-ที่จุดบุหรี่ จะมีไฟเลี้ยงตลอดเวลาแม้ดับเครื่อง ใครใช้กล้องหน้าก็ต้องเสียบเข้าเสียบออก หรือทำสวิชเปิดปิด แต่ห้ามลืมปิดหละ ไม่งั้นแบตรถหมดไม่รู้ตัว
-กุญแจรีโมทสามารถตั้งค่าความปลอดภัยได้ว่าให้กดปลดล้อก1ครั้งคือปลดล้อกแค่บานคนขับบานเดียว กดสองครั้งติดกันปลดล้อกทุกบาน (หรือตั้งให้ปลดล้อกครั้งเดียวทุกบานก็ได้แล้วแต่สะดวก)
-เมื่อล้อกรถแล้ว คนในรถสามารถเปิดประตูออกไปได้ตลอดเวลา รถจะล้อกแค่ฝั่งนอกรถ พูดง่ายๆคนภายนอกเปิดไม่ได้แต่คนข้างในเปิดได้ ใครที่มีเด็กๆก็ควรระวังตรงนี้ด้วย (เขาอธิบายว่าเพื่อความปลอดภัยกรณีรถเกิดอุบัติเหตุ คนข้างในสามารถเปิดประตูออกมาได้เลย)
-ควรมีกิ้บติดผมติดรถไว้สักอัน .. ใช่ครับฟังไม่ผิดครับ เพราะเวลาจำเป็นที่จะต้องจอดรถปลดเกียร์ว่าง จะต้องใช้กิ้บแงะฝาปิดช่องปลดล้อกเกียร์ออกมา แล้วก็ใช้กิ้บหรือกุญแจกดลงไปเพื่อปลดจากเกียร์PมาN (ปกติรถคันอื่นใช้กุญแจจิ้มช่องปลอดล้อกก็ได้ละ แต่นี่ยุ่งยากเกิน ถ้าไม่จำเป็นผมก็จะไม่จอดขวางใครแล้วต้องปลดเกียร์ว่างเด็ดขาด)
-ฝาปิดที่ลากจูงตรงdiffuserด้านท้ายหายประจำ เลยปล่อยไว้แบบนั้น
-ความแตกต่างระหว่างรถล้อตแรกและล้อตหลังคือฝาถังน้ำมัน ล้อตแรกจะเป็นฝาเรียบ ล้อตหลังจะมีบุ๋มตรงที่กดเปิด
-ฝาถังน้ำมันสามรถกดเปิดจากภายนอกได้ตลอดเวลา
-เวลาเติมน้ำมันให้หลีกเลี่ยงการบอกเด็กปั้มว่าเต็มถัง เพราะถ้าเมื่อถึงหัวจ่ายตัด แล้วเติมเพิ่มเข้าไป น้ำมันจะล้นออกทางท่อระบายลงใต้ท้องรถทันที อันตรายมาก
-อุณหภูมิน้ำขณะขับปกติ จะอยู่ที่93องศาเซียลเซียส
คันนี้ปัจจุบันก็ยังใช้อยู่ ถ้ามีอะไรนึกออกจะมาเขียนเพิ่มนะครับ หรือถ้าใครมีคำถามก็สอบถามมาได้ยินดีตอบถ้าตอบได้ 😁
สงวนลิขสิทธิ์รูปภาพและบทความ
- 7
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
