27 ก.พ. 2019 เวลา 00:30 • ประวัติศาสตร์
"และด้วยใจสุจริต"
เวลาสามทุ่มของวันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๙ รัฐสภาได้มีมติเห็นชอบให้อัญเชิญสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นรัชกาลที่ ๙ สืบสนองพระองค์สมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๔๘๙ มาตรา ๙ และกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ มาตรา ๙
ความหมองหม่นบนใบหน้าของชาวไทย ก็กลับเริ่มเปลี่ยนไปเป็นประกายแห่งความหวังอีกครั้ง แต่กระนั้นก็ยังอดห่วงไม่ได้ว่าในพระราชหฤทัยของสมเด็จพระราชชนนีศรีสังวาลย์ และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช จะทุกข์โทมนัสสักปานใด คนไทยทั้งหลายก็ได้แต่ภาวนาให้ทั้งสองพระองค์ทรงมีกำลังพระราชหฤทัยกลับคืนมา
พระองค์หนึ่งเพิ่งสูญเสียพระราชโอรส อีกพระองค์หนึ่งเพิ่งสูญเสียพระบรมเชษฐาผู้เป็นที่รักและสนิทสนม บัดนี้ ยังต้องทรงแบกรับภาระอันหนักหนาของบ้านเมืองไว้อีก นี่คือความเสียสละที่ยิ่งใหญ่ของสมเด็จพระราชชนนีและสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่ เพื่อประเทศชาติ เหลือที่คนไทยจะทดแทนพระคุณครั้งนี้ได้หมดสิ้น
ในเวลาที่พระบรมวงศานุวงศ์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร นายกรัฐมนตรี และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เข้าเฝ้า ฯ กราบบังคมทูลอัญเชิญขึ้นทรงราชย์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช แม้จะทรงเยาว์พระชนมายุและเพิ่งทรงประสบความสูญเสีย อันเป็นเหตุการณ์ที่พลิกวิถีพระชนมชีพโดยสิ้นเชิง แต่ก็มีพระสติมั่นคงสมกับที่ทรงเป็นขัตติยชาติ มีพระราชกระตอบแสดงพระราชปณิธานอย่างสุขุม
"ข้าพเจ้าขอขอบใจที่ได้มอบราชสมบัติให้ ข้าพเจ้าจะทำทุกอย่างเพื่อประเทศชาติ และเพื่อความผาสุกของประชาชน อย่างเต็มความสามารถ..."
จบแล้ว เสด็จก้าวออกไปจากมหาสมาคมนั้น ครั้นแล้วทรงยั้งพระองค์ไว้ ทรงผินพระพักตร์กลับมาใหม่ แล้วรับสั่งอย่างหนักแน่นด้วยวลีปิดท้ายพระราชกระแสอันจับใจทุกคนว่า
"และด้วยใจสุจริต"
พระสยามเทวาธิราชได้ทรงส่งพระมหาบุรุษผู้ทรงธรรมสุจริต เสด็จมาซับน้ำตา เป็นความหวัง เป็นกำลังใจ เป็นที่หมายแห่งความรัก ความสามัคคี และความภักดีของปวงชนชาวไทยอีกพระองค์หนึ่งแล้ว
เนื้อหาจาก หนังสือดวงแก้วแห่งพระมงกุฎเกล้า บทที่ ๕ เวลาอันรื่นรมย์ ตอนที่ ๓ "สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ" อีกรัชสมัย หน้าที่ ๒๕๖
1
น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้
โฆษณา