27 ก.พ. 2019 เวลา 15:58 • กีฬา
"บีร็อด" อิส คัม แบ็ค by หัวหงส์
หลังจากหายหน้าหายตาไปจากวงการฟุตบอลอังกฤษ ตอนนี้ก็เป็นเวลากว่า 3 ปีกว่าๆแล้ว ที่ชายที่มีนามว่า "แบรนดอน ร็อตเจอร์ส"
โดยหลังจากที่ได้แยกทางกับลิเวอร์พูล เวลานี้เขาได้กลับมาในที่ๆเคยสร้างชื่อของตัวเองขึ้นมาอีกครั้งนั้นก็คือ "พรีเมียร์ลีค" โดยการคืนสู่เหย้าครั้งนี้เป็นการเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมคนใหม่ของ "เลสเตอร์ ซิตี้" ที่พึ่งแยกทางกับ "โคล้ด ปูแอล"
โดยก่อนหน้าที่เขาจะเข้ามารับหน้าที่ผู้จัดการทีมของ "เลสเตอร์ ซิตี้" เข้าได้คุมทีม "กลาสโกว์ เซลติก" ยอดทีมจากแดนวิสกี้ 2 ฤดูกาล กับอีกเศษที่เหลือของฤดูกาลนี้ โดยเขาพา "ม้าลายเขียวขาวแห่งแดนวิสกี้" กลาสโกลว์ เซลติก ฟาดแชมป์ไปทั้งหมด 9ใบ ขึ้นเป็นเตยของ "สกอตติช พรีเมียร์ลีค" คงไม่เหลืออะไรให้เขาต้องพิสูจน์ตนเองอีกแล้วสำหรับลีคนี้ ประกอบกับฟ้าฝนเป็นใจ ที่ตำแหน่งกุนซือเลสเตอร์ว่างลงพอดี สำหรับร็อดเจอร์คงไม่ต้องคิดมากเลยที่จะเลือกกลับมาอังกฤษ
แนวทางฟุตบอลของร็อดเจอร์นั้น เขาเป็นผู้จัดการทีมที่เน้นนักเตะหนุ่ม ผลักดันนักเตะที่มีแววดี โดยในสมัยที่เขายังเป็นผู้ช่วยของ "โจเซ่ มูรินโญ่" เขาได้โอกาสคุมทีมเยาวชนของเชลซี ช่วงฤดูกาล 2004-2008 และนักเตะดาวรุ่งที่เขาปลุกปั้น มูรินโญ่ก็เลือกเอาไปใช้งานได้ดี
ต่อมาเมื่อได้ออกมาเป็นผู้จัดการทีมเต็มตัว โดยเขาได้เข้ามาคุมทีม "หงส์ขาว" สวอนซี เขาได้ดัน "เบน เดวิส" แบ็คซ้ายของ "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และ "ชาบี้แห่งเวลส์" โจ อันเลน ล้วนถูกดันขึ้นมาเล่นบนเวทีพรีเมียร์ลีค
ส่วนปีที่ร็อดเจอร์พา "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล
ลุ้นแชมป์ลีกเมื่อฤดูกาล 2014 ก็มี ฟิลิเป้ คูตินโญ่, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง และ จอน ฟลานาเก้น เป็นตัวหลัก และล่าสุดที่เซลติก เขาดันนักเตะเยาวชนป้อนขึ้นชุดใหญ่ และที่สำคัญมีนักเตะถึง 12 คน ที่อายุเพียง 22 ปีเท่านั้นในทีม
แบรนแดน ร็อดเจอร์ กับแชมป์สกอตติช พรีเมียร์ลีค
ดังนั้นเชื่อมือร็อดเจอร์ได้เลยว่านักเตะพลังหนุ่มในถิ่น” คิงส์ พาวเวอร์ สเตเดี้ยม” อาทิ วิลเฟรด เอ็นดิดี้, เจมส์ แมดดิสัน, เบน ชิลเวลล์ และ เดมาราย เกรย์ แม้กระทั้ง ยูริ เตเลม็องส์ ที่เพิ่งเซ็นเข้ามาเมื่อมกราคม จะมีอนาคตที่สดใสรออยู่อย่างแน่นอน
และอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ร็อดเจอร์ กลับมายังพรีเมียร์ลีค อีกครั้ง นั่นคือ “Unity ของทีม” หรือ “อัตลักษณ์” ซึ่งช่วงหลังๆ เลสเตอร์หลังจากคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีค ในยุคของ “เคลาดิโอ รานิเอรี่” ที่ใช้สไตล์ “รับแน่น-สวนกลับ” มาเป็นเอกลักษณ์ของเลสเตอร์ก็เริ่มที่จะหายไปเรื่อยๆ
ฉะนั้น การผจญภัยครั้งใหม่ของร็อดเจอร์ครั้งนี้ แฟนๆเลสเตอร์ คงตั้งหน้าตั้งตารออย่างใจจดใจจ่ออย่างแน่นอน...
โฆษณา