28 ก.พ. 2019 เวลา 16:02 • กีฬา
คนละหมัดไหม? by หัวหงส์
“ความกดดัน” ว่ากันตามตรงมันมีทั้งข้อดีและข้อเสียของมัน อยู่ที่เราจะสามารถรับแรงกดดันนั้นแล้วเปลี่ยนเป็นพลังงานขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้หรือไม่ ?
“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล หลังจากทำได้เพียงแค่เสมอกับ “เสือใต้แห่งเยอรมัน” บาเยิร์น มิวนิค ในเวที UCL และ “อสูรแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกม “พรีเมียร์ ลีก” นัดตกค้างแบบอึดอัดหัวใจ ทำให้เกมในลีกที่เหลือต้องชนะเท่านั้น เพื่อทำแต้มหนี “เรือใบพันล้าน” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ไล่จี้รดต้นคออย่างไม่ห่าง
ก่อนเกมกับ “แตนอาละวาด”วัตฟอร์ด ที่เพิ่งดาหน้าถล่ม ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ไป 5-1 ทำให้เกิดคำถามมากมายต่อทีมของ “เยอร์เก้น คล็อปป์” ว่าเกมรุกที่เคยเล่นกันดุดัน สไตล์บดขยี้ไล่บี้คู่แข่ง นั้นได้หายไปไหน โดยเฉพาะเกมที่ไปเยือนถิ่น “โอลด์แทรฟฟอร์ด” นั้นเป็นสัญญาณอันตรายที่น่ากังวล
โดย เยอร์เก้น คล็อปป์ และลูกทีม ได้ให้เหล่ากองเชียร์เห็นแล้วว่า “พวกเราพร้อมแล้วที่จะสู้สุดตัวไปจนจบ” คุณจะไม่มีวันเดินอย่างเดียวดาย เสียงเพลง “You’ll Never Walk Alone” ที่แฟนบอลขับขานปลุกเร้าให้ฮึกเหิม พร้อมสู้เคียงบ่าเคียงไหล่นักเตะของพวกเขา
ทำให้การออกตัวในเกมนี้เต็มไปด้วยความเร่าร้อน ช่วงแรกมีตะกุกตะกักบ้างนิดๆหน่อยๆ แต่สัมผัสได้ว่าพวกเขาต้องการจะชนะเกมนี้อย่างมาก ทุกคนอยากแก้ตัวจากเกมที่ “โอลด์แทรฟฟอร์ด” และแล้ว “ซาดิโอ มาเน่” ปลดล็อคประตูแรกของเกมได้ โดยเกมนี้มาเน่ ยืนในตำแหน่งที่แปลกตานั้นก็คือตำแหน่ง “ศูนย์หน้าตัวเป้าแทน” แทน โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ โดยเป็นการหาตำแหน่งที่ฉลาดมาก โดยยืนระหว่างคู่เซนเตอร์ของคู่แข่ง และประตูแรกจะไม่เกิดขึ้นเลยหากไม่ได้เจ้าหนู “เทรนต์ อาร์โนลด์ ” ครอสบอลแม่นๆเข้าหัวมาเน่พอดี และเป็นประตูขึ้นนำ ก่อนที่จะกดสูตรติดอีกครั้ง โดยคราวนี้เป็น อาร์โนลด์ ครอสบอลเข้ากลางมาเหมือนเดิม แต่คราวนี้ มาเน่ “มาเหนือ” จับบอลแล้วบอลกระดอน มาเน่จึงตอกส้นสวนตัวนายด่านฝั่งทีมเยือนไปอย่างเหนือชั้น
ซาดิโอ มาเน่ เหมาคนเดียวสองประตูในเกมนี้
โดนไป 2 เม็ด วัตฟอร์ดยังตั้งเกมของตัวเองไม่ได้ ลิเวอร์พูล ยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจขึ้นเรื่อยๆ จนสกอร์ไหลไปถึง 3-0 และ 4-0 ตามลำดับ โดยจุดที่น่าจับตามองก็คือ การเติมเกมรุกทางด้านขวาที่เคยเป็นจุดบอดยามไร้ “เทรนต์ อาร์โนลด์” ให้กลับมาไหลลื่นอีกครั้ง
ขณะที่ “ปีกเทพเจ้าแดนไอยคุปต์” โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ประสานงานกับเพื่อนได้ลื่นไหล เคลื่อนที่ได้มีประโยชน์ ช่วยดึกตัวประกบ และพร้อมที่จะสร้างความปั่นป่วนให้กับคู่แข่งตลอดเวลา
ฟาบินโญ่ เป็นอีกหนึ่งคนที่มีฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม เขาบัญชาแดนกลางได้อยู่หมัด การอ่านเกม การตัดบอล และการเข้าสกัดอันแม่นยำ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่ยอดเยี่ยมของเขา
ใครจะไปเชื่อว่าสุดท้ายแล้วเกมจะจบลงที่ “5-0” ทีมฟอร์มดีอย่างวัตฟอร์ดจะบุกมาแพ้ได้เละเทะขนาดนี้ แต่ก็ถือว่าเป็นผลดีที่อาจจะส่งผลต่อภายในอนาคตต่อ “ลิเวอร์พูล” ในการแย่งบัลลังก์แชมป์พรีเมียร์ลีกกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สิ่งที่อิ่มอกอิ่มใจกว่าทีมชนะขาดลอยนั่นคือ การที่ได้เห็นฟอร์มการเล่นที่ไปในทางที่ดี ความตั้งใจเล่นของนักเตะทุกคน รวมไปถึงหัวใจของนักสู้ตลอด 90นาทีที่ได้เห็นในสนาม
อีก 10 นัดเท่านั้นเราก็จะได้รู้กันแล้วว่าใครจะได้ครองบัลลังก์แชมป์ “พรีเมียร์ลีก” ไปครอง ถึงตอนนี้ทุกอย่างเป็นใจให้ลิเวอร์พูลแล้ว โอกาสอยู่ในกำมือของพวกเขาแล้ว ได้เวลาใส่เดี่ยวคนละหมัดกับซิตี้แล้ว
โฆษณา