2 มี.ค. 2019 เวลา 15:24 • ธุรกิจ
รู้ไว้ใช่ว่า...ศัพท์ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง
6
หลายครั้งนักการตลาดดิจิทัลมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มทำงานด้านออนไลน์ต้องมานั่งงงงวยกับคำศัพท์ด้านการตลาดดิจิทัลแบบเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง วันนี้เลยขอรวบรวมคำศัพท์ต่างๆ มาอธิบายให้เข้าใจอย่างง่ายๆ กัน
3
Awareness แปลตรงตัวเลยคือการรับรู้ เป็นการสร้างการรับรู้ให้กลุ่มเป้าหมายของแบรนด์รู้จักแบรนด์ของคุณ โดยทำให้คนเห็นแบรนด์คุณจนคุ้นหูคุ้นตา ผ่านการโฆษณาตาม Website, Facebook, Instagram
3
Brand นอกจากจะหมายถึงสินค้าแล้ว นักการตลาดดิจิทัลยังหมายถึงความรู้สึกและความประทับใจที่สร้างให้กับผู้บริโภค
1
Conversion คือการที่กลุ่มเป้าหมายตอบสนองต่อโพสต์หรือโฆษณาโดยการพูดถึง การมีส่วนร่วม การสมัครสมาชิก หรือแม้แต่การสั่งซื้อนั่นเอง
1
CPA ย่อมาจาก Cost Per Acquisition หรือ Cost Per Action หมายถึงการคิดค่าโฆษณาต่อ 1 การกระทำ เช่น การสมัครสมาชิก การลงทะเบียน การสั่งซื้อสินค้า หรือจ่ายเงินเฉพาะลูกค้าที่ทำให้เกิด Conversion เท่านั้น
CPC ย่อมาจาก Cost Per Click หมายถึงการคิดค่าโฆษณาต่อการคลิก 1 ครั้ง ผู้ลงโฆษณาจะเสียเงินเฉพาะลูกค้าที่คลิกโฆษณาเท่านั้น
4
CPI ย่อมาจาก Cost Per Install หมายถึงการคิดค่าโฆษณาต่อการติดตั้งแอปพลิเคชัน 1 ครั้ง ค่ามาตรฐานขึ้นอยู่กับธุรกิจ พื้นที่ที่โหลด รวมทั้งช่องทางการโหลด เช่น iOS app CPI Globally — $1.24 หรือประมาณ 38 บาท สำหรับค่าโฆษณาต่อการติดตั้ง 1 ครั้ง
1
CPL ย่อมาจาก Cost Per Like หรือราคาต่อการกด Like 1 ครั้งบน Facebook Page หรือ Paid Ad
CPM ย่อมาจาก Cost Per thousand impression โดย M เป็นเลขโรมันแทนความหมายของ 1000 หมายถึงการคิดค่าโฆษณาต่อการแสดงโฆษณาครบ 1,000 Impression โดยไม่สนใจว่าจะคลิกโฆษณากี่ครั้ง
CPV ย่อมาจาก Cost Per View หมายถึงการคิดค่าโฆษณาต่อการชมวิดีโอ 1 ครั้ง ส่วนมากแล้วจะใช้กับวิดีโอ เช่น Youtube, Facebook Video จะคิดเงินเมื่อผู้ใช้ดูวิดีโอจนครบเวลาที่ Platform เหล่านั้นกำหนด เช่น Youtube จะกำหนดที่ 30 วินาทีถึงคิดเงิน
CTR ย่อมาจาก Click Through Rate หมายถึงค่าที่คิดจากเปอร์เซ็นต์ของการคลิก หารด้วยจำนวนการแสดงผลของโฆษณาหรือ Impression ยิ่งค่าของ %CTR สูง แสดงว่ามีการคลิกมาก
Engagement คือการสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้รู้สึกผูกพันกับแบรนด์ โดยการ Like, Comment, Share เมื่อลูกค้ามีปฏิสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง ก็จะเกิดความผูกพันกับแบรนด์โดยอัตโนมัติ
Google Adword เป็นการทำการตลาดหรือการโฆษณาในหน้า Google
Google Analytic เป็นเครื่องมือที่ใช้เก็บและวิเคราะห์ข้อมูลภายในเว็บไซต์ โดยเอา Code Analytic จาก Google ไปติดตั้งในเว็บไซต์ของคุณ
1
Impression เป็นจำนวนครั้งที่โพสต์หรือโฆษณาแสดงผล โดยไม่สนใจว่าจะแสดงผลซ้ำกับคนเดิมๆ หรือไม่ และไม่จำเป็นต้องมี Engagement ก็ได้
2
Keyword เป็นคำที่กำหนดขึ้นเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายค้นหาในช่องทางต่างๆ เช่น Google, Youtube แล้วเจอแบรนด์ เพื่อให้ค้นหาแบรนด์ของเราได้ง่ายที่สุด
1
Reach หมายถึงจำนวนคนที่เข้าถึงโพสต์ไม่ว่าจะเป็นข้อความ รูปภาพ หรือ วิดีโอก็ตาม
ROI ย่อมาจาก Return On Investment คือผลตอบแทนจากการลงทุน แสดงให้เห็นว่าเงินที่เราลงทุนไปคุ้มค่าหรือไม่ คำนวณจากกำไรหารด้วยค่าใช้จ่าย ค่ายิ่งมากยิ่งดี
SEM ย่อมาจาก Search Engine Marketing หลักการเดียวกันกับ SEO เพียงแต่ว่า SEM จะต้องใช้เงินลงโฆษณาให้กับ Google
1
SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization คือการทำให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับต้นๆ ในหน้า Search Engine ด้วยคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ ทำได้ฟรี แต่ต้องใช้เวลานาน
1
SOV ย่อมาจาก Share Of Voice หมายถึงส่วนแบ่งของเสียง (การพูดแบบปากต่อปาก) ในตลาดคิดเป็นเปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับเสียงทั้งหมดในตลาด คิดโดยใช้ Reach หารด้วยจำนวนกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์
2
SOM ย่อมาจาก Share Of Market หมายถึง ยอดขายสินค้าของเราเมื่อเทียบกับยอดขายทั้งหมดของสินค้าประเภทเดียวกันในตลาด เพื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งขัน
VCPM ย่อมาจาก View-able Cost Per thousand impression คล้าย CPM ที่คิดค่าโฆษณาจากการแสดงโฆษณาครบ 1,000 impression แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นจาก CPM คือบางครั้งเกิด Impression จริง แต่ผู้ใช้ไม่เห็นโฆษณาเหล่านั้น เพราะโฆษณาไปอยู่ด้านล่างเว็บหรือแสดงอยู่ในจุดที่ผู้ใช้ยังเลื่อนจอไปไม่ถึง ทำให้ Impression นั้นเป็นเหมือนการแสดงผลที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริงๆ แต่ VCPM จะนับเฉพาะ Impression ของโฆษณาที่แสดงอยู่ในตำแหน่งที่ผู้ใช้มองเห็นได้เท่านั้น
Viral ส่วนใหญ่เป็นการสร้างคลิปวีดีโอของแบรนด์ แล้วนำไปปล่อยตาม Facebook, Twitter, Youtube เพื่อให้แพร่กระจายอย่างรวดเร็วแบบไวรัสนั่นเอง
2
วันนี้อัปเดตคร่าวๆ ก่อน ไว้มีคลังเพิ่มจะมาอัปเดตใหม่นะครับ :)
โฆษณา