4 มี.ค. 2019 เวลา 01:36 • ธุรกิจ
เขียน Content Marketing ยังไงให้ Like กระจุย Share กระจาย แถมขายของได้
จากประสบการณ์เขียน Content Marketing มานานกว่า 5 ปี ผมพบว่าการเขียนให้ยอด Like กระจุย ยอด Share กระจาย มีหลักการสำคัญๆ อยู่ไม่กี่ข้อ เรามาดูกันดีกว่าครับ
1. เขียนให้ชัดเจน ตรงประเด็น อ่านแล้วเข้าใจทันที
ก่อนเขียน Content อะไรก็ตาม คุณต้องเข้าใจผลิตภัณฑ์ที่กำลังจะเขียน (ขาย) เป็นอย่างดี ถึงคุณจะเขียน Content เก่งแค่ไหน แต่ถ้าไม่รู้จักผลิตภัณฑ์ที่กำลังจะขายก็ไม่มีประโยชน์ Content ที่เขียนออกมาจะดูแห้งๆ อ่านแล้วไม่อิน ไม่น่าซื้อ หนำซ้ำบางทีคนที่อ่าน Content ของคุณอาจจะเป็นแฟนพันธุ์แท้ รู้จักผลิตภัณฑ์ดีกว่าคุณ จนรู้สึกแย่กับสิ่งที่คุณเขียนก็เป็นได้ นอกจากนี้เวลาเขียนควรมุ่งเพียงประเด็นเดียว ไม่กวาดหลายประเด็น ไม่อย่างนั้นผู้อ่านจะไม่เข้าใจว่าคุณต้องการสื่ออะไรกันแน่
2. เขียนสิ่งที่ทันสมัย ไม่ตกเทรนด์
การเขียน Content โดยเฉพาะแนวขายของแบบเนียนๆ หรือ Selling Content ควรเขียน Content ที่สดใหม่อิงกับเทศกาลหรืออิงกับกระแส (ดีๆ) ที่กำลังเข้ามา อย่าปล่อยให้กระแสซาแล้วค่อยมาเขียน เพราะนอกจากจะไม่มีใครสนใจแล้วยังทำให้เราดูล้าสมัยอีกด้วย แต่ Content ลักษณะนี้มักมีข้อจำกัด ถ้าคุณเขียน Content ให้กับผู้อ่านหรือลูกค้าที่ไม่ค่อยอินเทรนด์ เขาอาจจะไม่เข้าใจก็ได้ ดังนั้นการเขียน Content ลักษณะนี้ต้องดูกลุ่มเป้าหมายที่มาอ่านด้วย
3. ขายสิ่งที่ผู้อ่านจะได้รับ ไม่ใช่ขายสรรพคุณของผลิตภัณฑ์
ขึ้นชื่อว่าธุรกิจ ก็ต้องขายของกันธรรมดา แต่จะเขียน Content ขายอย่างไรไม่ให้ดูน่าเกลียดจนเกินไป อย่างแรกคือต้องให้ความรู้ผู้อ่านเสียก่อน (มีอธิบายในหัวข้อถัดๆ ไป) อย่างที่สองอย่าอวดอ้างสรรพคุณผลิตภัณฑ์จนน่าเกลียดมากนัก ให้บอกว่าผลิตภัณฑ์ของคุณช่วยเหลือผู้อ่านอย่างไรได้ดีกว่า เช่น แทนที่จะเน้นว่า “ครีมกันแดด A มีค่า PA+++ SPF 30” ก็เน้นว่า “ไม่ว่าแดดจะแรงแค่ไหน ผิวคุณก็ยังกระจ่างใสด้วยครีมกันแดด A” เป็นต้น
4. ไม่ต้องจริงจังมากเกินไป
การเขียน Content ที่ดูเป็นกันเองมีข้อดีหลายอย่างคือทำให้ผู้อ่านรู้สึกสบายใจ ดูเป็นสิ่งใกล้ตัว อ่านแล้วรู้สึก เฮ้ย! เข้าใจเราดีจัง อยากซื้อผลิตภัณฑ์นี้มาใช้บ้าง แต่ก็อีกนั่นแหละ ขึ้นกับผลิตภัณฑ์คุณด้วยว่าต้องการ keep look ให้ดูเรียบร้อยหรือไม่ อย่างไรก็ตามถึงจะต้อง keep look ให้ดูดี แต่คุณก็เขียนให้มันดูเป็นกันเองได้เหมือนเพจของ KFC
5. อย่าสักแต่ขาย ให้ความรู้บ้าง
ถึงแม้ว่า Content ที่ให้ความรู้คน หรือที่เราเรียกว่า Value Content จะมีแนวโน้มว่าจะมียอด Like น้อย แต่อย่าประมาทไป เพราะ Value Content บางอย่างที่โดนใจคนมาก หรือเป็นความรู้ในช่วงที่มีกระแส อาจทำให้ Content ของคุณมียอด Like กระจุย ยอด Share กระจายก็เป็นได้ ผมเคยเขียน Value Content เรื่องหนึ่งเกี่ยวกับจุลินทรีย์ในช่วงที่มีโรคระบาด (ซึ่งขายของไปด้วย) ปรากฏว่าผู้ปกครองคนหนึ่งเอาไปแชร์ใน Secret Group จนคน Like คนตามมาซื้อของกันมากมาย ถ้าคุณให้ความรู้แล้วปิดด้วยการขาย เชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์ได้ ก็จะทำให้ Content ของคุณดูไม่สักแต่ขายมากเกินไป ลองดูตัวอย่างจากเพจ Jones Salad ที่ให้ความรู้เรื่องสุขภาพ หรือเพจลงทุนแมนที่ให้ความรู้เรื่องการลงทุนได้ครับ
6. สะกดถูกต้องครบถ้วนตามหลักภาษา ข้อมูลน่าเชื่อถือ
การใช้ภาษาให้ถูกต้องตามหลักภาษาก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะการใช้ภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษผิด ตัวหนังสือตกหล่น ก็อาจทำให้คุณดูไม่โปร โดยเฉพาะคำว่า “นะคะ” กับ “ขอบคุณค่ะ” ควรใช้ให้ถูกต้องได้แล้วนะค่ะ (เอ๊ย! นะคะ) นอกจากนี้ข้อมูลที่คุณให้ผู้อ่านต้องมีแหล่งอ้างอิง เชื่อถือได้ ยิ่งเป็นข้อมูลที่ตรงกันจากหลายแหล่งยิ่งดี ถ้าข้อมูลผิดพลาดขึ้นมาแล้วละก็ นอกจากจะขายไม่ได้แล้ว ยังทำให้ Content นั้นๆ หมดความน่าเชื่อถือได้
7. สร้างสรรค์เอง ไม่ก๊อปจากคนอื่น
ข้อนี้สำคัญมาก Content ที่ดีต้องคิดเอง ไม่ลอกเลียนแบบคนอื่น ถ้าคุณทำแบบนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับการลอกการบ้านสมัยเด็กๆ ยิ่งถ้าผู้อ่านมาพบสิ่งที่คุณก๊อปมาจากแหล่งอื่นด้วยละก็ เขาจะมองผลิตภัณฑ์คุณในแง่ลบทันที
อย่าลืมว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่ชอบอ่านหนังสือเท่าไรนัก ดังนั้นอย่าลง Content ที่ยาวเกินไป ถ้ายาวก็ต้องจัดข้อความให้ดูสบายตา จุดเด่นอะไรที่อยากให้ผู้อ่านรู้ควรใส่ไว้บรรทัดแรกๆ หรืออาจเป็นภาพสวยๆ อ่านง่ายๆ ก็ได้ ที่สำคัญการลง Content ใน Facebook ไม่ใช่สักแต่จะลงอะไรก็ลง สัปดาห์หนึ่งควรลงแค่ 5–7 Content เท่านั้นเพื่อไม่ให้ผู้อ่านรำคาญจนถึงขั้น Unlike ไป
โฆษณา